Home School เรียนอย่างไร? มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง?

ระบบการศึกษาในโรงเรียนอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเด็กทุกคน ในปัจจุบันมีทางเลือกทางการศึกษาให้กับเด็กและพอ่แม่ผู้ปกครองเพื่อเป็นทางเลือกที่ดีและเหมาะสมกับตัวเด็กมากที่สุด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Home school ทางเลือกในการศึกษาที่บ้าน ที่เริ่มเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับพ่อแม่ที่สนใจรูปแบบการศึกษาดังกล่าวแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจมาฝากกันค่ะ

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Home School

Home School

Home School (หรือ การศึกษาโดยครอบครัว) คือ การเรียนที่คุณพ่อคุณแม่ได้จัดขึ้นสำหรับลูกๆ โดยมีสิทธิคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งมีรูปแบบการจัดการศึกษาแบบใดแบบหนึ่งหรือทั้งสามรูปแบบ ของการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย สามารถเทียบโอนผลการศึกษาได้

 

ลักษณะเด่นของ Home School

-เป็นการจัดการเรียนที่พ่อแม่จะรับผิดชอบโดยตรง เป็นการจัดการศึกษาเองทั้งหมด หรือจัดร่วมกันระหว่างครอบครัวกับโรงเรียน

-มีการจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนครอบครัวเดี่ยว หรือศูนย์การเรียนกลุ่มครอบครัว (บางครอบครัวอาจเลือกที่จะไม่เป็นศูนย์การเรียนก็เป็นไปได้)

-วิธีการเรียนแบบนี้จะตอบสนองต่อความสนใจ ความต้องการหรือปัญหาของแต่ละครอบครัวที่มีความแตกต่างหลากหลายกันไป จึงมีความยืดหยุ่นค่ะ

-ความสำเร็จของการศึกษาจะเน้นเป็นรายบุคคล ซึ่งสอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ และความต้องการที่มีอยู่จริง เป็นการเรียนรู้แบบตัวต่อตัว และสอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิต

 

Home School เริ่มได้ตั้งแต่ตอนไหน?

สำหรับการจัดการศึกษาแบบ Homeschool สามารถเริ่มจัดได้ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับมัธยมศึกษา โดยสามารถไปจดทะเบียนตามสถานที่ที่ในแต่ละระดับชั้นกำหนดไว้

สำหรับระดับปฐมวัย (อนุบาล) จะสามารถจดทะเบียนเพื่อจัดการศึกษาบ้านได้เมื่อเด็กอายุ 3 ขวบ ซึ่งในระดับอนุบาลคุณพ่อคุณแม่จะจดทะเบียนโฮมสคูลให้กับลูกหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของคุณพ่อคุณแม่ ถ้าหากพร้อมก็สามารถไปยื่นคำอนุญาตจดทะเบียนในเขตพื้นที่การศึกษาได้เลย

 

ระดับประถมศึกษา ครอบครัวสามารถยื่นขออนุญาตจดทะเบียน และจัดการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาตามภูมิลำเนา

 

ระดับมัธยมศึกษา ครอบครัวจะต้องยื่นขออนุญาตจดทะเบียนจัดการศึกษาที่

– สำนักงานเขตพื้นที่การมัธยมศึกษา

– ลงทะเบียนเป็นนักเรียนกับ กศน. (การศึกษานอกระบบ)

– ลงทะเบียนเป็นนักเรียนกับ การจัดการศึกษาทางไกล

 

โดยการจดทะเบียนแบบนี้เมื่อเรียนจบการศึกษาในแต่ระดับ ก็จะได้รับวุฒิการศึกษาในระดับนั้นๆ ซึ่งก็จะสามารถนำวุฒิการศึกษาไปใช้เรียนต่อในระบบได้เลย หรือหากเรียนจบในระดับมัธยมปลายก็จะสามารถนำวุฒิการศึกษาไปสอบเข้าเพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ตามปกติ

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Home School

สำหรับข้อดีของ Home school มีดังนี้ คือ

– พ่อแม่ผู้ปกครองมีเวลาอยู่กับลูกได้เต็มที่ เพิ่มความผูกพันและแน่นแฟ้นในครอบครัวยิ่งขึ้น

– พ่อแม่ผู้ปกครองมีโอกาสเลือกและปรับแนวทางหลักสูตร และการสอนให้เหมาะกับแผนชีวิต ตลอดจนความต้องการ และความพร้อมของลูกได้อย่างยืดหยุ่น

– เด็กสามารถมีเสรีภาพในการปฏิบัติตัวได้อย่างเต็มที่ เพราะมีพ่อแม่ที่เข้าใจและและเป็นสถานที่ที่เด็กรู้สึกปลอดภัยอยู่เสมอ

– การเรียนรู้ของเด็กสามารถเกิดขึ้นได้เต็มที่และตลอดเวลาเพราะไม่มีช่วงเวลาเปิดปิดเทอมที่ชัดเจน สามารถปลูกฝังเด็กให้เป็นคนที่เรียนรู้อยู่อย่างสม่ำเสมอ

– สามารถเสริมการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติให้แก่เด็กทั้งในและนอกบ้านได้อย่างเต็มที่ แทนการฟังบรรยายหรืออ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว

 

ข้อเสียของ Home School มีดังนี้

– ไม่เหมาะสำหรับพ่อแม่ที่มีเวลาน้อย เพราะการเรียนการสอนแบบ Home School นั้นพ่อแม่ต้องมีเวลาอยู่กับลูกค่อนข้างมาก และยังต้องใช้เวลาในการศึกษาหาข้อมูลเพื่อวางหลักสูตรและแผนการเรียนของลูกด้วย

 

– การวางแผนการเรียนของลูกเป็นงานที่หนักมาก ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าลูกเรียนบางวิชาอ่อนกว่าเด็กวัยเดียวกันที่เรียนในโรงเรียนปกติ

– เด็กบางคนอาจมีปัญหาในการปรับตัวในการอยู่ร่วมกันกับเด็กคนอื่นๆ ได้ ในจุดนี้พ่อแม่ต้องจัดกิจกรรมเสริมเพื่อให้เขามีปฏิสัมพันธ์กับเด็กรุ่นเดียวกันด้วย

– เด็กอาจขาดทักษะในการเผชิญความกดดันและแก้สถานการณ์บางอย่าง เช่น การสอบแข่งขันหรือการทำงานร่วมกับเพื่อนแล้วไม่ยอมช่วยงาน เป็นต้น

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Home School

การเตรียมตัวเพื่อศึกษาแบบ Home School

-ก่อนจะตัดสินใจให้ลูกเรียนแบบ Home School คุณพ่อและคุณแม่ต้องมีความตั้งใจ ชัดเจนหนักแน่นและเห็นพ้องต้องกันอย่างแท้จริง อีกทั้งยังจำเป็นต้องศึกษาทำความเข้าใจถึงการศึกษาทางเลือกนี้ให้ดีเสียก่อน

-อีกทั้งต้องสำรวจความพร้อมของคุณพ่อและคุณแม่ด้วยว่ามีจิตใจมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ครูของลูก ให้เวลากับการเรียนรู้ของลูกอย่างเต็มที่ มีความพร้อมที่จะเรียนรู้ร่วมไปกับลูก ใฝ่รู้และตั้งใจที่จะศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวิธีการสอนตลอดเวลาหรือยัง เพราะคุณพ่อและคุณแม่ถือเป็นกุญแจสำคัญสำรับการศึกษาในระบบนี้

-คุณพ่อและคุณแม่ต้องเป็นนักจัดการที่ดี ทั้งการวางแผนการเรียนรู้ของลูก การจัดสภาพสิ่งแวดล้อมของบ้านให้เอื้อต่อการเรียนรู้ การจัดโอกาสให้ลูกได้มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กด้วยกันเพื่อมีทักษะทางสังคม การค้นคว้าหาแหล่งเรียนรู้ทั้งสถานที่และตัวบุคคล การติดต่อประสานงานกับกลุ่มโฮมสคูล กลุ่มสนับสนุน โรงเรียนที่ลูกจะขึ้นทะเบียนเพื่อการเทียบโอนกับระบบโรงเรียน

-ต้องรักษาวินัยทั้งกับคุณพ่อคุณแม่และลูก จะได้เรียนรู้อย่างเต็มที่

-เข้าใจพัฒนาการตามวัยของลูก เพื่อจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องตามช่วงวัย เช่น ในวัยแรกเกิดถึงวัยอนุบาลเป็น ช่วงเวลาของการสร้างเสริมพัฒนาการทุกๆ ด้าน เพื่อเป็นรากฐานที่ถูกต้องมั่นคงของชีวิต

ช่วงมัธยมศึกษาก็เป็นช่วงเวลาแห่งการสำรวจ ค้นหาความสนใจ และความถนัด เป็นต้น

 

นอกจากนี้พ่อแม่ผู้ปกครองยังจำเป็นต้องพร้อมจะให้เวลาคุณภาพกับลูก ไม่ใช่แค่ด้านวิชาการแต่รวมถึงในการอบรมบ่มนิสัยลูก สอดแทรกผ่านกิจกรรมการเรียนรู้หรือการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงเรื่องของทักษะชีวิต จริยธรรมและการฝึกให้มีความมั่นคงทางความคิด ทางอารมณ์ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า พร้อมปรับตัวเข้าสังคมได้อีกด้วย

 

หากผู้ปกครองท่านใดที่สนใจอยากจะให้ลูกศึกษาแบบ Home School ก็จำเป็นต้องหาข้อมูลอย่างละเอียดและประเมินตัวเองให้ก่อนตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนอีกด้วย เพราะอนาคตของลูกกับระบบการศึกษานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้เรื่องใดเลย

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

: https://th.theasianparent.com/home-school-ข้อดีข้อเสียของการเรียนหนังสืออยู่บ้าน

: https://www.parentsone.com/prepare-home-school/

: https://today.line.me

 

ขอบคุณรูปภาพจาก

: https://www.maerakluke.com/topics/3576

: https://campus.campus-star.com/variety/3997.html

: https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/72922/-parpres-par-

 

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *