อาชีวะเกษตร ทางเลือกที่แตกต่างสำหรับเด็กยุคใหม่

ลบคำสบประสาทเก่า ๆ ที่ “อาชีวะ” จะต้องมีเรื่องราวตีรันฟันแทงใช้ความรุนแรงต่าง ๆ ไปได้เลย บอกได้เลยว่าอาชีวะสมัยนี้นั้นไม่ธรรมดาแล้วนะ เพราะด้วยการเรียนการสอนที่เข้มข้นขึ้น เรียนจริง ลงมือปฏิบัติจริง ทำงานได้จริง เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน อีกทั้งยังไปไกลถึงต่างประเทศเลยนะ เห็นไหมล่ะว่าอาชีวะยุคนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ

และยิ่งอาชีวะด้านการเกษตรกรรมอย่างที่ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด ที่มีโครงการความร่วมมือไทย-อิสราเอล ที่มีชื่อเรียกโครงการเท่ ๆ ว่า Arava ที่ส่งนักศึกษาโกอินเตอร์เรียนรู้งานด้านเกษตรกรรมไกลถึงประเทศอิสราเอลเลยนะ โครงการดี ๆ แบบนี้ มีที่นี่ที่เดียวในประเทศเท่านั้น

โดยทางวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด มีการให้บริการวิชาการและวิชาชีพด้านอาชีวศึกษาและเทคโนโลยีที่หลากหลาย ควบคู่ไปกับการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาบริหารจัดการสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ที่นี้นั้นได้รับรางวัลสถานศึกษารางวัลพระราชทานถึง 3 ครั้งในรอบ 10 ปี และยังมีห้องเรียนเรียนรุ้เทคโนโลยีเฉพาะทางอาชีวศึกษา ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง ระดับชาติ (Super Gold) 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทวิชาเกษตรกรรม ห้องเรียนพฤกษาสตร์แหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต ประเภทวิชาการประมง ห้องเรียนเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจ (Aquaculture Economic Classroom) ประเภทวิชาพาณิชยกรรม ห้องเรียน Spread Sheet Room และประเภทวิชาสามัญ ห้องเรียน English Edutainment Room

นักศึกษาในโครงการความร่วมมือไทย-อิสราเอล (Arava) รุ่นที่ 19 นายรัฐธรรมนูญ น้อยสุวรรณ ชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง ปี 2 ได้บอกอีกว่า หลังจากที่ได้ไปศึกษาดูงานต่างประเทศมาแล้ว ก็ได้นำความรู้ด้านการเกษตรจากที่ประเทศอิสราเอล เช่น การใช้ระบบน้ำหยดเพื่อใช้น้ำให้ประหยัดและได้คุณภาพที่ดี มาประยุกต์ใข้กับการทำฟาร์ม เพราะที่ภาคอีสานเป็นพื้นที่แห้งแล้งและมีน้ำน้อย ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ระบบน้ำหยด ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรนั้นออกมาดีกว่าแบบปกติ และได้นำความรู้ด้านอื่น ๆ มาต่อยอดเพื่อทำให้ดีขึ้นไปอีก

ในส่วนของครูประจำโครงการความร่วมมือไทย-อิสราเอล (Arava) นางปิยดาเทพภูธร ได้ให้ข้อมูลอีกว่า โครงการนี้นั้นจัดการเรียนการสอนแบบทวิภาคีร่วมกับสถานประกอบการที่ประเทศอิสราเอล ทำ MOU กันมานานถึง 20 ปี โดยจะได้เรียนเกี่ยวกับการผลิตพืชทั้งหมด วิชาชีพพื้นฐาน ประกอบไปด้วย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ภาษาไทย สังคม ทุกอย่าง และเน้นวิชาชีพทางด้านพืชศาสตร์ เริ้มตั้งแต่การเตรียมดิน ระบบการจัดการน้ำ การปลูกดูแลรักษา การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว รวมถึงด้านการตลาดและภาษาอังกฤษ โดยระหว่างการศึกษาก่อนที่จะไปและหลังไปประเทศอิสราเอล นักศึกษาจะปลูกพืชผักตามฤดูกาล เบญจมาศตัดดอก และนำความรู้ที่ได้รับมาจากการเรียนไปพัฒนาและต่อยอดทางผลผลิต เพื่อนำไปขายทั่วจังหวัดร้อยเอ็ดหรือบริเวณจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งยังนำความรู้ที่ได้มาไปเผยแพร่ต่อคนในชุมชนและผู้ปกครองของนักศึกษาเองอีกด้วย

และได้กล่าวอีกว่า อาชีวะเกษตร ในยุคปัจจุบันนั้นตอบโจทย์เด็กรุ่นใหม่ ที่มีความคิดที่ว่า ทำน้อย แต่ได้มาก เพราะการเรียนอาชีวะเกษตรนี้จะไม่ได้ใช้เพียงแค่แรงอย่างเดียว แต่จะต้องอาศัยในเรื่องของศิลปะ เทคโนโลยี เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเหมาะกับเด็กรุ่นใหม่ที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา และแก้ไขจุดบอดของการทำเกษตร เช่น การค้าขาย เพราะเด็กรุ่นใหม่นั้นจะมีความรู้ว่าช่องทางไหนบ้างทางโลก Digital ที่จะสามารถขายผลผลิตและทำเงินได้นั้นเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *