มาทำความรู้จัก การสอบ PTE อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องใช้คะแนนเรียนต่อต่างประเทศ

โดยทั่วไปแล้วหากพูดถึงการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐานระดับสากล เราก็คงจะนึกถึงการสอบ TOEIC  TOEFL  IELTS โดยเฉพาะ IELTS ที่เป็นการสอบที่สามารถนำคะแนนไปใช้ยื่นในการเรียนต่อต่างประเทศได้ แต่นอกจากการสอบ IELTS แล้วก็ยังมีการสอบอีกประเภทหนึ่งที่สามารถนำคะแนนไปใช้ในการยื่นสำหรับเรียนต่อได้เช่นกัน นั่นก็คือการสอบ PTE หรือ Pearson Test of English วันนี้เราจึงมีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับการสอบ PTE มาฝากเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจสอบวัดระดับภาษากันค่ะ

 

 

 

PTE ย่อมาจาก Pearson Test of English เป็นการสอบวัดผลทางด้านภาษาอังกฤษอีกรูปแบบหนึ่งที่เริ่มมีขึ้นเมื่อปี 2009 โดยการพัฒนาของ University of London ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก GMAC (Graduate Management Admission Council) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลการสอบ GMAT จึงมั่นใจได้ว่า PTE นั้นเป็นการสอบวัดผลทางด้านภาษาที่ได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันการสอบ PTE นั้นก็เป็นที่ยอมรับในกว่า 6,000 องค์กรทั่วโลก อีกทั้งยังสามารถใช้ยื่นขอ migration ในประเทศ Australia ได้อีกด้วย

 

ข้อสอบของ PTE จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกันคือ

-Listening Part

-Reading Part

-Writing Part

-Speaking Part

คล้ายกับการสอบวัดระดับภาษาประเภทอื่นๆ ซึ่งลำดับการสอบ PTE  นั้นจะเรียงจาก Writing and Speaking –à Reading –à Listening ซึ่งการสอบ PTE นั้นก็แม้จะเป็นการสอบที่ค่อนข้างใหม่แต่ก็มีมาตรฐานในการวัดระดับความรู้และทักษะทางภาษาทั้ง 4 ด้านได้เหมือนกับข้อสอบวัดระดับภาษาในรูปแบบอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

 

ข้อดีของการสอบ PTE ได้แก่

-มีศูนย์สอบให้เลือกสอบในหลายประเทศ และยังได้รับการยอมรับจากสถาบันการศึกษาในประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ เยอรมนี และประเทศอื่นๆ อีกด้วย

-ใช้เวลาประมาณ 5 วันในการรอผล เป็นข้อสอบที่ได้รับผลการเรียนในระยะเวลาไม่นาน และยังรวดเร็วกว่าผลการสอบในบางประเภทด้วย อย่างเช่น การสอบ IELTS ที่จะใช้เวลาในการรับผลการสอบประมาณ 13 วัน เลยทีเดียว

-มี Free Materials ให้ลองทำข้อสอบ และฝึกหรือเตรียมตัวได้มากพอสมควร

 

ข้อเสียของการสอบ PTE ได้แก่

 

-PTE เป็นการสอบวัดผลภาษาทางภาษาอังกฤษค่อนข้างใหม่ ทำให้มีคนรู้จักน้อย และมีข้อมูลในการสอบ PTE ให้ศึกษาค้นคว้าไม่มาเท่า IELTS, TOFEL และ TOEIC นั่นเอง

-ในประเทศไทยการสอบ PTE ยังไม่เป็นที่นิยม ทำให้มีศูนย์สอบค่อนข้างน้อย มีแต่ที่กรุงเทพ ฯ และมีรอบให้สอบค่อนข้างน้อยอีกด้วย

 

สำหรับการสอบ PTE นั้นแม้จะเป็นการสอบที่จะมีการทดสอบทั้ง 4 ด้าน และยังสามารถนำคะแนนสอบไปใช้ยื่นสำหรับการเรียนต่อในต่างประเทศได้เหมือนกับการสอบ IELTS ก็ตามแต่การสอบทั้งสองประเภทนี้ก็มีความแตกต่างกัน ดังนี้

 

 

 

การสอบ PTE นั้นถือเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากได้คะแนนในการไปยื่นเรียนต่อในต่างประเทศ โดยสำหรับผู้ที่สนใจอยากไปเรียนต่อต่างประเทศนั้นนอกจากการสอบ PTE และ IELTS แล้วก็ยังมีข้อสอบที่สามารถใช้ยื่นในการเรียนต่อต่างประเทศอย่าง GRE และ GMAT ด้วยเช่นกัน หากใครสนใจอยากรู้รายละเอียดก็สามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่ >>>

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

: https://skeducation.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A-pte-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B5/

: https://www.soledu.net/th/pte-ielts/

 

ขอบคุณรูปภาพจาก

: http://sayaeducationals.com/best-pte-coaching-chandigarh/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *