รู้จักระบบการศึกษาที่มีคุณภาพพร้อมราคาที่ไม่สูงของประเทศแคนาดา

 

 

สำหรับคนที่กำลังสนใจจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แน่นอนว่าสิ่งที่เราคาดหวังในการไปเรียนเป็นอันดับแรกๆ ก็คือ คุณภาพการศึกษา ของประเทศนั้นๆ ซึ่งก็มีหลายประเทศที่มีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพติดอันดับโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฟินแลนด์ สิงคโปร์ ที่เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นและมีชื่อเสียงด้านระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งนอกจากประเทศเหล่านี้แล้วก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ หนึ่งในนั้นก็คือ ประเทศแคนาดา ที่นอกจากเป็นประเทศที่รายล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามแล้วยังมีระบบการศึกษาที่ได้รับการผลักดัน รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาที่ไม่แพงมากอีกด้วย วันนี้เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับระบบการศึกษาของประเทศแคนาดามาฝากทุกคนที่สนใจกันค่ะ

 

 

 

ระบบการศึกษาในแคนาดา

แคนาดาเป็นประเทศที่มีคุณภาพการศึกษาสูง และให้ความสำคัญต่อการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยแคนาดามีการลงทุนจำนวนมากในระบบการศึกษาของประเทศ ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีกิจกรรมด้านการศึกษามากที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสามประเทศที่มีการใช้จ่ายต่อหัวในการศึกษาระดับเตรียมอุดมศึกษาของภาครัฐมากที่สุด ตามข้อมูลขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)

แม้จะมีค่าใช้จ่ายต่อหัวด้านการศึกษาสูงแต่ก็ไม่ได้กระทบถึงผู้เรียนหรือผู้ปกครอง เพราะภายใต้รัฐธรรมนูญของแคนาดา ถือว่าการศึกษาเป็นความรับผิดชอบของมณฑลนั้นๆ คือแต่ละมณฑลจะมีระบบการศึกษาของตนเอง แต่ทั้งนี้มาตรฐานการศึกษาจะต้องสูงเท่าเทียมกันทุกมณฑล เนื่องจากแคนาดาจะให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยรัฐบาลจะมีเงินทุนช่วยเหลือให้กับสถาบันการศึกษา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ค่าเรียนในแคนาดาค่อนข้างต่ำ

การศึกษาในแคนาดาอยู่ในความรับผิดชอบของ กระทรวงศึกษาธิการของแต่ละมณฑล และเขตปกครองพิเศษ ดังนั้นระบบการศึกษาจึงมีความแตกต่างกัน แต่ด้วยการประสานความร่วมมือทางด้านวิชาการของคณาจารย์ และสถาบันต่างๆ รวมทั้งคณะกรรมการ พิจารณาจัดสรรงบประมาณ เพื่อการศึกษา ทำให้การศึกษาทั่วทั้งแคนาดามีมาตรฐานสูง ระดับเดียวกัน โดยแบ่งระดับการศึกษาเป็น 4 ระดับดังนี้

-ระดับอนุบาล  Pre Elementary

-ระดับประถมศึกษา  Elementary

-ระดับมัธยมศึกษา  Secondary

-ระดับอุดมศึกษา  Tertiary Education

 

ระดับอนุบาล

เด็กทุกคน เริ่มเข้าเรียนในระดับอนุบาลเมื่อมีอายุ 4 หรือ 5 ขวบ โดยใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 1-2 ปี

ระดับประถมศึกษา

เด็กทุกคนจะเริ่มเรียนเกรดหนึ่งเมื่อมีอายุประมาณ 6 ขวบ   ระบบการศึกษาเริ่มจากชั้นอนุบาลเช่นเดียวกับประเทศ อื่น ๆ แต่ชั้นประถมศึกษาในแต่ละมณฑลจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้คือ 1. กลุ่มที่มีชั้นประถม1-8 คือ มณฑลออนตาริโอ และมณฑลมานิโตบา 2. กลุ่มที่มีชั้นประถม 1-7 คือ มณฑลบริติชโคลัมเบีย และเขตยูคอน 3. กลุ่มที่มีชั้นประถม 1- 6 คือทุกมณฑลนอกจากที่กล่าว มาแล้ว

ระดับมัธยมศึกษา

ในระดับมัธยมศึกษานั้นจะมีถึงเกรด 12 ยกเว้นในมณฑลควิเบค และมณฑลออนตาริโอ ซึ่งอาจจะมีถึงเกรด 13 แต่สำหรับนักเรียน ซึ่งเรียนจบในระดับชั้นเกรด 13 เมื่อเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีก็จะใช้เวลาศึกษาเพียง 3 ปีเท่านั้น สำหรับหลักสูตรของมณฑลอื่นๆ จะใช้เวลาในการเรียนระดับปริญญาตรี 4 ปี

นอกจากนี้ในมณฑลควิเบค ยังมีระบบการศึกษาอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า ซีเจ็ป (Cegep) ซึ่งเป็นชื่อย่อของวิทยาลัยเพื่อการศึกษาทั่วไป และวิชาชีพ เป็นรูปแบบการศึกษาซึ่งอยู่ระหว่างระดับมัธยมศึกษาและระดับอุดมศึกษา การศึกษาในระดับนี้จะรับผู้เรียนจบม. 5 (เกรด 12) เพื่อเข้าเรียนวิชาชีพเป็นเวลา 2 ปี โดยใช้ผลสอบสมัครเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย

 

 

 

ระดับอุดมศึกษา

ระดับอุดมศึกษา (Tertiary Education) การศึกษาในระดับอุดมศึกษา หมายถึง การศึกษาในระดับที่สูงกว่าระดับมัธยมศึกษา ซึ่งจะแบ่งเป็น 5 รูปแบบด้วยกัน คือ

 

-มหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยในแคนาดามีทั้งขนาดเล็กมีนักศึกษาไม่ถึง 1,000 คน ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่มีนักศึกษากว่า 35,000 คน โดยในประเทศแคนาดานั้นมีจำนวนมหาวิทยาลัยของรัฐมาก กว่า 200 แห่ง ที่เปิดสอนหลักสูตร ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกทั่วแคนาดา ซึ่งมีมาตรฐานเทียบเท่ามหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ

และสำหรับการเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยนั้น โดยทั่วไปจะไม่มีการสอบเข้า แต่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะกำหนดกฎเกณฑ์และมาตรฐานในการรับนักศึกษาเป็นของตัวเอง

โดยหลักสูตรปริญญาตรีใช้ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 3 – 5 ปี และบางมหาวิทยาลัยจะมีปริญญาตรี 2 ประเภท คือ

-ปริญญาตรีแบบทั่วไป (Ordinary Degree) ซึ่งจะใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 3 ปี

-ปริญญาตรีแบบเกียรตินิยม (Honours Degree) ซึ่งจะมีจำนวนหน่วยกิตมากกว่าแบบ Ordinary Degree และจะต้องเขียนวิทยานิพนธ์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท

หลักสูตรปริญญาโท ของแคนาดา ใช้ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 1 ปีครึ่ง – 2 ปี ขึ้นอยู่กับสถาบันและวิชาพื้นฐานของแต่ละหลักสูตร ที่จะต้องเรียนหรือต้องสอบ

หลักสูตรปริญญาเอก  จะใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 2 ปีหลังปริญญาโท หรือ 3 ปีหลังปริญญาตรีแบบเกียรตินิยม (Honour Degree) แต่โดยเฉลี่ยแล้วใช้เวลาประมาณ 3 – 5 ปี หลังจากจบปริญญาโท โดยเป็น Coursework ประมาณ 2 ปี ที่เหลือเป็นการค้นคว้างานวิจัย การเสนอรายงานเชิงวิชาการ และการเขียนวิทยานิพนธ์

 

วิทยาลัย (University College)

หลักสูตรการเรียนการสอนจะใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัย แต่จะเน้นด้านภาคปฏิบัติ ใช้เวลาเรียนประมาณ 1 – 3 ปี โดยมีจุดประสงค์ที่จะผลิตนักศึกษาเพื่อออกสู่ตลาดแรงงาน ให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรเทียบเท่าอนุปริญญา ซึ่งนักศึกษาสามารถใช้โอนเข้าศึกษาต่อยังระดับมหาวิทยาลัยได้อีกด้วย

 

-วิทยาลัยอาชีวะ (Community College)

เปิดสอนหลักสูตรทางด้านวิชาชีพและทางด้านเทคนิค โดยใช้ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 2- 3 ปี ครอบคลุมทักษะวิชาชีพที่สำคัญๆ เช่น ก่อสร้าง, การพาณิชย์, อุตสาหกรรมและการบริการ เป็นต้น

 

-วิทยาลัยฝึกอาชีพ (Career College)

เป็นวิทยาลัยเอกชนซึ่งเปิดหลักสูตรอบรมวิชาชีพในสาขาอาชีพต่างๆ เช่น เลขานุการคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

 

-การศึกษาภาคปฏิบัติ (Co – op Education)

การศึกษาภาคปฏิบัติเป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษา โดยทางสถาบันการศึกษาดำเนินการร่วมมือกับภาคธุรกิจ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ปฏิบัติงานจริง โดยมีระยะเวลาในการฝึกงานประมาณ 2 ภาคการศึกษาก่อนที่จะสำเร็จการศึกษา

 

นอกจากการศึกษาในระบบแล้วที่แคนาดาก็มีสถาบันสอนภาษาด้วยกันหลายแห่ง เนื่องจากแคนาดามีภาษาราชการ 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส จึงมีโรงเรียนซึ่งสอนทั้ง 2 ภาษา สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่เรียกว่า English as a Second Language (ESL) ซึ่งสอนภาษาอังกฤษ และ French as a Second Language (FSL) สำหรับสถาบันที่สอนภาษาฝรั่งเศส

แต่การเรียนภาษาสำหรับนักศึกษาต่างชาตินั้น ก็สามารถเรียนในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยทั่วไปๆ ได้เช่นกัน โดยนักศึกษาต่างชาตินั้นไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ทั้งสองภาษาก็ได้ เนื่องจากมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ จะใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอนอยู่แล้ว

สำหรับผู้ที่สนใจว่าเรียนต้องวางแผนให้ดีเพราะปีการศึกษาในแคนาดาส่วนใหญ่ แบ่งเป็น 2 ภาคเรียนคือ ภาคเรียนที่ 1 (Fall Semester) เดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม ภาคเรียนที่ 2 (Winter Semester) เดือนมกราคมถึงเดือน เมษายน ช่วงหยุดภาคฤดูร้อน (Spring และ Summer) เดือน พฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม สถาบันบางแห่งเปิดสอนหลักสูตร ภาคฤดูร้อนด้วย

 

 

ค่าใช้จ่าย

ค่าเล่าเรียนของที่นี่สำหรับนักเรียนต่างชาติกลับไม่แพงอย่างที่คิดเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างอเมริกา หรือประเทศยอดนิยมอย่างอังกฤษ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยตามสถิติของประเทศแคนาดา ค่าเล่าเรียนโดยเฉลี่ยในระดับปริญญาตรีสำหรับนักศึกษาต่างชาติเมื่อปี 2019 อยู่ที่ CND $27,159 ต่อปี หรือประมาณ 626,000 บาท และ CND $16,497 หรือประมาณ 380,000 บาท สำหรับบัณฑิตศึกษา โดยรัฐที่ถูกจัดอันดับว่ามีค่าใช้จ่ายสำหรับนักศึกษาต่างชาติถูกที่สุดได้แก่ รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์

 

 

คีย์หลักสำคัญที่ทำให้ประเทศแคนาดามีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพนั้นก็คือ การลงทุนกับการศึกษาให้แก่พลเมืองของภาครัฐ เพราะทำให้ประชาชนได้รับคุณภาพการศึกษาที่ดีในราคาที่เอื้อมถึงจึงทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาได้นั่นเอง นอกจากนี้แล้วที่แคนาดายังมีตัวเลือกสำหรับการศึกษาที่หลากหลายทำให้ผู้เรียนมีสิทธิเลือกได้มากขึ้นอีกด้วย ทำให้แคนาดานั้นเป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่สนใจอยากไปเรียนต่อต่างประเทศอีกประเทศหนึ่งเลยทีเดียว

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

: http://www.pasa.co.th/index.aspx?ContentID=ContentID-070713160907900

: https://www.oecglobal.com/CND/CAN_education_sys.html

: https://www.scholarship.in.th/wheres-the-cheapest-place-to-study-in-canada/

: https://www.ccsc.co.th/

 

ขอบคุณรูปภาพจาก

: https://www.gsiedu.com/international-admission-requirements/

: https://www.forexnewsshop.com/canada-money-transfer-guide/

: https://www.huffingtonpost.ca/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *