IGCSE ทางเลือกสำหรับคนอยากเข้ามหาวิทยาลัยเร็วขึ้น!

 

ปัจจุบันเราคงได้เห็นว่ามีเด็กอายุ 14-15 เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยกันเร็วขึ้น ซึ่งหลายคนก็อาจจะสงสัยว่ามีวิธีการใดที่ทำให้เราสามารถเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาได้แม้จะอายุยังไม่ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนด วันนี้เราจึงจะพาไปรู้จักกับหลักสูตร IGCSE ทางเลือกสำหรับคนที่อยากเรียนในมหาวิทยาลัยเร็วขึ้นมาฝากกันค่ะ

 

 

 

หลักสูตร International General Certificate of Secondary Educational หรือ IGCSE ถูกจัดทำขึ้นสำหรับนักเรียน ที่มีอายุระหว่าง 14 -16 ปี ให้ได้รับวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (มัธยมศึกษาปีที่ 6) เพื่อนำไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น อาทิ นำไปใช้ศึกษาต่อในหลักสูตร AS, A Level, International Baccalaureate (IB) หรือเพื่อศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย โดยวิธี IGCSE  เดียวที่เปิดโอกาสให้ผู้อายุ 14-15 ปีสามารถเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ เพราะการสอบอย่าง GED นั้นสอบได้เมื่ออายุครบ 16 ปีแล้วเท่านั้น

 

สำหรับหลักสูตร IGCSE มีรายวิชาให้เลือกสอบจาก 5 กลุ่มวิชาอันประกอบไปด้วย

  1. กลุ่มวิชาภาษา (Language)
  2. กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Humanities & Social Science)
  3. กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (Science)
  4. กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics)
  5. กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ (Creative, Technical and Vocational)

 

ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการก็ได้กำหนดไว้ว่าการจะนำผล IGCSE มาเทียบวุฒิ ม.6 ได้นั้น จะต้องมีผลการสอบ IGCSE ไม่ต่ำกว่า 5 วิชาซึ่งแต่ละวิชาจะต้องได้ผลคะแนนตั้งแต่ C ขึ้นไป จึงจะสามารถนำผลสอบไปที่กระทรวงศึกษาธิการเพื่อเทียบวุฒิม.6 และมีสิทธิสมัครเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้

 

 

ซึ่งสำหรับคนที่ต้องการเข้ามหาวิทยาลัยนั้นก็จะมีกระบวนการต่อมาหลังจากสอบ IGCSE ผ่านและมีคุณสมบัติเทียบเท่าหลักสูตรมัธยมปลายของไทยแล้ว นั่นคือ กระบวนการคัดเลือกของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยมักจะต้องการคุณสมบัติอื่นๆ ด้วย เช่นในหลักสูตรอินเตอร์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย มักจะต้องสอบวิชาภาษาอังกฤษ เช่น IELTS, TOEFL, CU-TEP หรือบางมหาวิทยาลัยอาจมีข้อสอบภาษาอังกฤษของตัวเองเพื่อทดสอบ ในขณะที่บางมหาวิทยาลัยอาจขอผลสอบวิชาอื่นๆ ด้วย เช่น SAT, CU-AAT,MUIC  ซึ่งผล IGCSE นี้มักจะใช้สำหรับการไปเรียนต่อในหลักสูตรอินเตอร์ เพราะหากไปยื่นสมัครมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ มักจะไม่สามารถใช้ได้เพราะเนื่องจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมองว่าการสอบ IGCSE ต่ำกว่าการสอบอื่นๆ เช่น A-Level, IB, หรือ GED นั่นเอง และสำหรับผู้ที่สอบ IGSCE ผ่านแล้วและสนใจอยากเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในหลักสูตรปกติของไทยนั้น กระทรวงศึกษาธิก็เปิดโอกาสให้สามารถสอบ GAT, 9 วิชาสามัญ, O-NET, หรือแม้แต่การสอบ กสพท  ได้ ทำให้นักเรียนที่ยังไม่ได้เรียนม.6 แต่สอบ IGCSE ผ่านแล้วมีโอกาสเห็นข้อสอบต่างๆ เหล่านี้ก่อนเพื่อนนั่นเอง

 

นอกจากการได้เห็นข้อสอบต่างๆ ก่อนเพื่อนแล้วการสอบ IGSCE ยังมีข้อดีอย่างอื่นอีก เช่น

-การสอบเตรียมเพื่อสอบจะทำให้เราได้พัฒนาและมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น

-ได้พัฒนาทักษะการวิเคราะห์ให้ดีขึ้น เพราะข้อสอบ IGCSE ไม่เน้นท่องจำ แต่ให้ผู้สอบแสดงเหตุผลและความคิดเห็นแทน

-เพิ่มโอกาสมากขึ้น เพราะหลายๆ คนสอบ IGCSE ผ่านและสามารถไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ก่อนเพื่อนๆ มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยที่เร็วมากขึ้น เป็นต้น

 

 

หลักสูตรหรือการสอบ IGCSE นั้นเป็นเหมือนทางลัดที่จะช่วยให้ผู้ที่ต้องการจะเรียนในระดับอุดมศึกษาได้ไวยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากการสอบ IGCSE นี้แล้วก็ยังมีการสอบที่เป็นตัวช่วยในการเข้ามหาวิทยาลัยได้เร็วยิ่งขึ้นอีก อย่างเช่นการสอบเพื่อเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรอินเตอร์อย่าง GED ซึ่งหากใครสนใจอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลได้ที่ >>> ข้อสอบ GED คืออะไร? สอบผ่านแล้วเข้ามหาวิทยาลัยได้เลยจริงหรือ?

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

: https://www.aims.co.th/igcse-101/

: http://dek-genius.com/igcse-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD/

: http://houseofgriffin.com/blog/?p=40

 

ขอบคุณรูปภาพจาก

: https://www.tutorferry.com/2015/06/igcse.html

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *