แนะ 5 เทคนิค ช่วยเดาศัพท์ภาษาอังกฤษ

 

ปัญหาในการอ่าน การฝึก รวมไปถึงการทำข้อสอบภาษาอังกฤษของหลายคนก็คือการที่เราไม่รู้จักความหมายของคำศัพท์ ซึ่งการที่เราไม่รู้ความหมายนั้นในบางครั้งเราเช่นการทำข้อสอบเราก็ไม่สามารถที่จะมาเปิดหาความหมายได้ทุกครั้ง แต่การที่เราไม่รู้ความหมายและไม่สามารถเปิดหาความหมายได้นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถทำข้อสอบ หรือแปลความหมายของเนื้อหานั้นๆ ได้เลย เพราะแม้ไม่รู้ความหมายเราก็สามารถที่จะเดาความหมายของคำศัพท์ได้ วันนี้เราจึงมีเทคนิคดีๆ ในการเดาคำศัพท์ต่างๆ มาฝากกันค่ะ

 

เทคนิคที่ 1 เดาจากเครื่องหมายวรรคตอน (Punctuation Clues)

ในบางครั้งเครื่องหมายวรรคตอนที่ตามหลังคำศัพท์บางคำ ก็เป็นตัวช่วยบอกความหมายหรือ อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำศัพท์ที่อยู่ข้างหน้าได้ เช่น เครื่องหมาย (-) (:) (;) () อย่างเช่นในประโยคที่ว่า

-You can take an escalator, moving staircase, up to the second floor.

ถ้าเราไม่รู้ความหมายของคำว่า escalator แต่เราจะเดาได้ว่า moving staircase ซึ่งอยู่หลังเครื่องหมาย comma เป็นตัวช่วยเดา ว่าแปลว่า escalator นั้นแปลว่า “บันไดเลื่อน”

หรือตัวอย่างที่สองหากเราไม่รู้ความหมายของคำว่า  “parentheses” แต่จากประโยคที่ว่า

– Traffic signs tell drivers and pedestrians (walkers) what to do and what not to do while driving, riding and walking

เราจะเดาได้จากคำว่า walkers ซึ่งอยู่หลังเครื่องหมายวงเล็บนั้น เป็นตัวช่วยเดาได้ว่า pedestrian แปลว่า คนเดินเท้า เป็นต้น

 

 

เทคนิคที่ 2 เดาจากการพูดซ้ำหรือคำที่มีความหมายเหมือน (Restatement and Synonym Clues)

ให้ลองสังเกตจากคำว่า or หรือสังเกตจากการพูดซ้ำหรืออธิบายคำศัพท์ซ้ำ เช่น

– The dromedary, or commonly called a camel, stores fat in its hump.

ถ้าเราไม่รู้ความหมายของคำว่า dromedary แต่เราจะเดาได้จากคำว่า camel ซึ่งอยู่หลัง or commonly called เป็นตัวช่วยเดา ว่า dromedary นั้นแปลว่า อูฐ เป็นต้น

 

 

เทคนิคที่ 3 เดาศัพท์จากตัวอย่าง (example)

เราสามารถเดาคำศัพท์ได้จากการยกตัวอย่างเพื่อบอกความหมายของศัพท์ โดยดูได้จากคำ ต่อไปนี้คือ for example, such as, for instance, including เช่นประโยคที่ว่า

-She is very touchy. For example, she usually gets angry when her teacher makes comments on her work.

ประโยคนี้แม้เราไม่ทราบว่า “touchy” แปลว่าอะไรแต่ในประโยคหลังคำว่า For example, ก็ได้อธิบายความหมายของคำว่า “touchy” ที่แปลว่า โกรธ/โมโหง่ายไว้ เราก็จะสามรถเดาความหมายของคำๆ นี้ออกมาได้ หรือในประโยค

-Do you participate in one of the more popular avocations, such as jogging, tennis, or stamp collecting? ที่คำศัพท์หลังคำว่า such as ได้อธิบายความหมายของคำว่า “avocations” ที่แปลว่า งานอดิเรก ไว้เป็นต้น

 

 

เทคนิคที่ 4 เดาจากคำที่มีความหมายตรงกันข้าม (Contrast and Antonym Clues)

การแสดงความขัดแย้งเป็นการเปรียบเทียบเพื่อบอกความต่างกัน หรือความขัดแย้งกัน ก็สามารถใช้เดาความหมายของคำศัพท์ต่างๆ ได้เช่นกัน สำหรับคำศัพท์ที่แสดงถึงการเปรียบเทียบ ได้แก่ although, but, even if, even though, however, in comparison to, in contrast (to), in opposition to, in spite of, instead of, nevertheless, on the other hand, whereas, while ตัวอย่างการเดาความหมายจากการเปรียบเทียบความหมายตรงข้าม เช่น

– The man was portly, but his wife was thin.

ถ้าเราไม่รู้ความหมายของคำว่า portly แต่เราจะเดาได้จากคำตรงข้ามกับนั่นคือ thin ซึ่งอยู่หลัง but เป็นตัวช่วยแปลได้ว่า portly นั้นมีความหมายว่า อ้วน หรือในประโยคที่ว่า

– The science project was easy, whereas the math homework was arduous.

คำศัพท์ว่า arduous นี้เราจะเดาได้จากคำตรงข้ามอย่าง easy ซึ่งอยู่หลัง whereas ก็จะทำให้รู้ว่า arduous แปลว่า ยาก เป็นต้น

 

 

เทคนิคที่ 5 การเดาศัพท์จากการเปรียบเทียบ (comparison)

เทคนิคนี้เป็นการชี้แนะหรืออธิบายความหมายของคำศัพท์โดยการเปรียบเทียบ ซึ่งคำศัพท์ที่เป็น keyword คือ as, as…………as, like, similar to, likewise, as if, as though, comparing to, comparing with เป็นต้น

สำหรับตัวอย่างประโยคที่แสดงถึงการเดาโดยการเปรียบเทียบ เช่น

– He is cunning as an old fox; don’t trust him.

ในประโยคนี้ที่เราจะสามารถรู้ความหมายของคำว่า cunning ได้จากประโยคที่อยู่หลังคำว่า as ก็จะทำให้ทราบว่า คำๆ นี้มีความหมายว่า เจ้าเล่ห์ เหมือนกับหมาจิ้งจอกนั่นเอง หรือในประโยคที่ว่า

– An elephant is immense, comparing to a mouse.

ประโยคนี้หากเราไม่รู้ความหมายของคำว่า “immense” เราก็สามารถเดาความหมายของคำนี้ได้ว่าหมายถึง ใหญ่โต/มโหฬาร จากการเปรียบเทียบ (comparing to) กับหนู เป็นต้น

 

 

แม้เราจะสามารถเดาคำศัพท์หลายๆ คำได้จากเทคนิคทั้ง 5 ที่กล่าวมาข้างต้นได้ก็ตาม ได้ในการเรียนรู้หรือฝึกฝนภาษาอังกฤษนั้นการท่องคำศัพท์ก็ยังเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นตัวช่วยสำคัญในการที่จะพัฒนาทั้งการอ่าน การเขียน รรวมไปถึงการสนทนาภาษาอังกฤษของเราด้วย ซึ่งหากใครต้องการเพิ่มคลังคำศัพท์ให้มากขึ้นก็สามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมกันได้ที่ >>> แนะ 5 หนังสือสำหรับการเรียนรู้ศัพท์ภาษาอังกฤษ

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

IELTS Centre โรงเรียนติวเพื่อเตรียมสอบภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ

Home

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *