คณะเภสัชศาสตร์ กับ 6 เรื่องที่ Dek64 ควรรู้!

สวัสดีค่ะ สวัสดีน้อง ๆ Dek64 ทุกคนที่กำลังเตรียมตัว ที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ หลายคนคงจะมีคณะ สาขา ในดวงใจที่อยากจะเข้า แต่สำหรับใครที่ยังลังเลและตัดสินใจไม่ได้ วันนี้พี่มีคณะที่น่าสนใจมาแนะนำ เอาใจสายวิทย์สักหน่อย กับคณะเภสัชศาสตร์ อยากรู้ว่าคณะนี้เรียนอย่างไร เรียนอะไรบ้าง เรียนกี่ปี จบไปแล้วทำงานอะไรได้บ้าง พร้อมแล้ว เราไปทำความรู้จักกับคณะนี้กันเลย Let’s go!!

มาทำความรู้จักคณะเภสัชศาสตร์แบบง่าย ๆ กันเถอะ

คณะเภสัชศาสตร์ หรือ Faculty of Pharmacy เป็นคณะที่เรียนเกี่ยวกับ “ยา” คำว่า “เภสัชศาสตร์” มาจากคำว่า “เภสัช” ซึ่งแปลว่า “ยา” และ “ศาสตร์” ซึ่งหมายถึง “ความรู้” รวมกันแล้ว เภสัชศาสตร์ จึงหมายถึง ความรู้ในเรื่องยาหรือการศึกษาเกี่ยวกับยา ตั้งแต่การปรุงผสม ผลิตและจ่ายยา รวมทั้งการเลือกสรรพคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องการวิจัยพัฒนายาและเภสัชภัณฑ์ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา เภสัชจลนศาสตร์ เภสัชพลศาสตร์ ผลข้างเคียงของการใช้ยาแต่ละชนิด การประเมินการใช้ยา การบริหารจัดการเรื่องยาและกฎหมายเกี่ยวกับยา และยังครอบคลุมไปถึงเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารเสพติด สารพิษ และวัตถุหรือสารออกฤทธิ์ประเภทต่าง ๆ อีกด้วย

  1. คณะเภสัชศาสตร์มีสาขาอะไรบ้าง ?

คณะเภสัชศาสตร์จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ สาขาวิชาเภสัชศาสตร์ (สายผลิต) และ สาขาวิชาบริบาลเภสัชกรรม (สายคลินิก) มีความแตกต่างกัน

  • สาขาวิชาเภสัชศาสตร์ (สายผลิต)

จะเน้นการศึกษาในด้านการผลิตยา การค้นคว้าหาตัวยา และการควบคุมคุณภาพมาตรฐานของยาแต่ละชนิด รวมถึงการวิจัยยาและคิดค้นสูตรยาใหม่ ๆ อีกด้วย โดยส่วนมากแล้วสาขาวิชาเภสัชศาสตร์จะอยู่ในสายงานด้านการผลิต จะทำงานประจำที่โรงงานอุตสาหกรรมการผลิตยา

  • สาขาวิชาบริบาลเภสัชกรรม (สายคลินิก)

จะเน้นการศึกษาด้านการบริบาลเภสัชกรรม คือ จะต้องรู้วิธีการใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับผู้ป่วย การแนะนำให้ความปรึกษากับผู้ป่วยเกี่ยวกับวิธีการรับประทานยาหรือใช้ยาอย่างถูกต้อง และยังรวมถึงการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับผู้ป่วย อีกด้วย โดยส่วนมากแล้วงานในสาขาวิชาบริบาลเภสัชกรรมจะทำงานประจำอยู่ที่โรงพยาบาล คลินิก ร้านขายยา สถานบริการสุขภาพ ฯลฯ

 

  1. รายชื่อวิชาที่เด็กเภสัชศาสตร์จะได้เรียน

ในการเรียนคณะเภสัชศาสตร์ ทุกคนที่เรียนจะต้องเรียนรู้อีกหลายรายวิชา ทั้งที่เกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องยา เพราะรายวิชาเหล่านั้นต่างก็จำเป็นเพื่อใช้เป็นความรู้พื้นฐาน ซึ่งหลักสูตรมาตรฐานที่ใช้เรียนในคณะเภสัชศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะแตกต่างกันออกไป

ตัวอย่างรายวิชาพื้นฐาน :

  • แคลคูลัส (Calculus)
  • หลักเคมี (Principal of chemistry)
  • เคมีอินทรีย์ (Organic Chemistry)
  • เคมีเชิงฟิสิกส์และการนำไปประยุกต์ใช้ (Physical Chemistry and Applications)
  • ฟิสิกส์เบื้องต้น (Introductory physics)
  • เซลล์และชีววิทยาระดับโมเลกุล (Cell and Molecular Biology)
  • ชีวเคมีการแพทย์พื้นฐาน (Basic Medical Biochemistry)
  • สรีรวิทยาการแพทย์ (Medical Physiology)
  • กายวิภาคศาสตร์พื้นฐาน (Basic Anatomy)
  • ปรสิตวิทยาทางการแพทย์ (General Medical Parasitology)
  • จุลชีววิทยาทางการแพทย์ (Medical Microbiology)
  • หลักการสาธารณสุข (Principle of Public Health)
  • ประสบการณ์สาธารณสุขในชุมชน (Public Health Experience in Community)
  • ภาษาอังกฤษพื้นฐาน (Fundamental English)
  • ภาษาอังกฤษพัฒนา (Developmental English)
  • ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ (English for Academic Purposes)
  • ภาษาอังกฤษวิชาชีพ (Professional English)

วิชาที่เกี่ยวข้องกับเภสัชศาสตร์ :

  • บทนำสู่วิชาชีพเภสัชกรรม (Introduction to Pharmacy Profession)
  • บทนำทางเภสัชกรรมสำหรับเภสัชศาสตร์ (Introduction to Pharmaceutics for Doctor of Pharmacy)
  • การควบคุมคุณภาพเภสัชภัณฑ์สำหรับเภสัชศาสตร์ (Pharmaceutical Quality Control for Doctor of Pharmacy)
  • เภสัชกรรมสำหรับเภสัชศาสตร์ (Pharmaceutics for Doctor of Pharmacy)
  • บทนำสู่เภสัชเวท (Introduction to Pharmacognosy)
  • เภสัชเวทสำหรับเภสัชศาสตร์ (Pharmacognosy for Doctor of Pharmacy)
  • เภสัชวิทยา (Pharmacology)
  • ชีวเภสัชกรรมและเภสัชจลนศาสตร์ (Biopharmaceutics and Pharmacokinetics)
  • เภสัชเคมีสำหรับเภสัชศาสตร์ (Pharmaceutical Chemistry for Doctor of Pharmacy)
  • เภสัชบำบัดประยุกต์ (Applied Pharmacotherapeutics)
  • กฎหมายทางเภสัชกรรม (Laws in Pharmacy)
  • เภสัชสนเทศสำหรับเภสัชศาสตร์ (Pharmacoinformatics for Doctor of Pharmacy)
  • เภสัชระบาดวิทยาเบื้องต้น (Basic Pharmacoepidemiology)
  • การทบทวนข้อมูลยาใหม่ (Current Drug Review)
  • การบริหารทางเภสัชศาสตร์และบทบาทเภสัชกร (Pharmacy administration and Pharmacist role)
  • จริยธรรมเชิงวิชาชีพ (Professional Ethics)
  • การจัดการคุณภาพในองค์กรสุขภาพ (Quality Management in Health Care Organization)
  • ระเบียบวิธีวิจัยและสถิติสำหรับบริบาลเภสัชกรรม (Research Methodology and Biostatistics for Pharmaceutical Care)
  • เภสัชเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น (Basic Pharmacoeconomics)
  • การสื่อสารเชิงวิชาชีพ (Professional Communication)
  • เภสัชศาสตร์สังคมและพฤติกรรม (Social and Behavioral Aspects in Pharmacy)
  • บทนำสู่ปฏิบัติการทางบริบาลเภสัชกรรม (Introduction to Clerkship for Doctor of Pharmacy)
  • การฝึกงานวิชาชีพเภสัชกรรม (Pharmacy Training)
  • โครงงานวิจัยทางเภสัชศาสตร์ (Research Project in Pharmaceutical Sciences)

 

  1. เภสัชศาสตร์ต้องเรียนกี่ปีกันนะ ?

ต้องบอกก่อนเลยว่าระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาแตกต่างกันในแต่ละประเทศ พี่ได้รวบรวมมาไว้คร่าว ๆ  สำหรับใครที่สนใจในหลักสูตรของต่างประเทศ สามารถดูประกอบการตัดสินใจเรียนต่อกันได้เลยจ้า

  • สหภาพยุโรป รวมถึงสหราชอาณาจักร เดิมเรียน 4 ปีได้ ภ.บ. (Pharm.)
  • ประเทศออสเตรเลีย เดิมใช้เวลา 3 ปี ปัจจุบันเรียน 4 ปี ได้ ภ.บ. (Pharm.)
  • สหรัฐอเมริกา เดิมใช้เวลา 4-5 ปี ได้ ภ.บ. (Pharm.) ปัจจุบันต้องเรียนหลักสูตรเตรียมเภสัชศาสตร์ ใช้เวลา 2-3 ปี และบางมหาวิทยาลัยต้องเรียนจบปริญญาตรี 4 ปีก่อน จากนั้นจึงเรียนต่อ Doctor of Pharmacy (Pharm.D.) อีก 4 ปี รวมระยะเวลาเรียน 6-8 ปี มีฐานะเทียบเท่ากับ แพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) (Doctor of Medicine : MD)

 

                 ในส่วนของประเทศไทยเอง ใช้เวลาเรียน 6 ปี ได้วุฒิเภสัชศาสตรบัณฑิต (ภ.บ.) (Doctor of Pharmacy : Pharm.D.) ซึ่งตลอดระยะเวลาการเรียนทั้ง 6 ปีนี้ น้อง ๆ จะได้รับความรู้ที่อัดแน่นแน่นอน

 

  1. แล้วเภสัชศาสตร์ต้องเรียนอะไรบ้าง ?

 ในชั้นปีที่ 1-2 จะเป็นการศึกษาด้านเตรียมเภสัชศาสตร์ จะศึกษาในหมวดวิชาพื้นฐานทั่วไป ประกอบด้วยวิชาในด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ความรู้เกี่ยวกับวิชาชีพเบื้องต้น ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์พื้นฐาน และ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

ในชั้นปีที่ 3-4 จะเป็นการศึกษาวิชาเฉพาะทางเภสัชศาสตร์ จะศึกษาในหมวดวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน ชีวเภสัชศาสตร์ กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา สาธารณสุข หลักในการเกิดโรค และจุลชีววิทยา และศึกษาวิชาทางด้านวิชาชีพ ทฤษฎี ปฏิบัติการ และการฝึกงาน ประกอบไปด้วย เภสัชวิเคราะห์ เภสัชศาสตร์สัมพันธ์ อาหารและเคมี โภชนาการศาสตร์ บทนำเภสัชภัณฑ์ เภสัชพฤกษศาสตร์ ชีวเภสัชกรรมและเภสัชจลนศาสตร์ เภสัชเวท เภสัชกรรมและการบริหารเภสัชกิจ เภสัชวิทยาและเภสัชวิทยาคลินิก นิติเภสัชและจริยธรรม พิษวิทยา เภสัชอุตสาหกรรม เภสัชเคมี และ การปฏิบัติฝึกงาน

ในชั้นปีที่ 5-6 จะเป็นการศึกษาในหมวดวิชาสาขาที่นักเรียนสนใจ เน้นความชำนาญทางวิชาชีพ มีให้เลือก 2 สาขาที่ได้พูดไปเบื้องต้น ระหว่างทางกว่าจะถึงชั้นปีนี้ น้อง ๆ ก็ยังพอมีเวลาหาตัวตน เพื่อที่จะเลือกเรียนในสิ่งที่ตนเองสนใจ และทำให้ให้เกิดเป็นความชำนาญ สามารถนำไปใช้ได้จริงในการปฏิบัติงานด้วยนะ

 

  1. คณะเภสัชศาสตร์เปิดสอนที่ไหนบ้าง ?
  • คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย >> https://www.chula.ac.th/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ >> https://tu.ac.th/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล >> https://mahidol.ac.th/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ >> https://swu.ac.th/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ >> https://www.cmu.ac.th/web/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา >> https://www.buu.ac.th/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ >> https://www.psu.ac.th/th/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น >> https://kku.ac.th/2307
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร >> https://www.su.ac.th/th/index.php
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร  >> https://www.nu.ac.th/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี >> https://www.ubu.ac.th/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม >> http://www.web.msu.ac.th/#page=page-1&std=std-1
  • วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต >> https://www2.rsu.ac.th/home
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ >> https://www.hcu.ac.th/index.php
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา >> https://www.up.ac.th/th/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ >> https://pharmacy.payap.ac.th/info/home/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม >> https://siam.edu/
  • สำนักวิชาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ >> https://pharmacy.wu.ac.th/
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย >> https://www.western.ac.th/index.php/th/

 

  1. เปิดค่าเทอมของคณะเภสัชศาสตร์
  • คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภาคการศึกษาละ  :  26,500 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://www.reg.chula.ac.th/NewStudyFee_2563.pdf

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ภาคการศึกษาละ  :  52,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://web.reg.tu.ac.th/registrar/_link/_4_admission/ad58/admissions58_3.pdf

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ตลอดหลักสูตร  :  210,550 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : http://www.student.mahidol.ac.th/portal/document/announce/2562/announce-10072019-2.pdf

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ภาคการศึกษาละ  :  30,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://admission.swu.ac.th/file_staff_upload/file_news/7820191125032318.PDF

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ภาคการศึกษาละ  :  20,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : http://202.28.24.114/finance/scan/14.pdf

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

ตลอดหลักสูตร  :  900,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://docs.google.com/spreadsheets/d/1FUBb8BdMzh3WxivBZ5fxz4WuN0VLmqAIFknYExg_fRo/edit#gid=0

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ภาคการศึกษาละ  :  28,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://reg.psu.ac.th/reg/fee/fee_tree_2561.pdf

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ภาคการศึกษาละ  :  18,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://admissions.kku.ac.th/suggest/%e0%b8%84%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%98%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a1%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a8%e0%b8%b6%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b2/

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

(ภาคปกติ) ภาคการศึกษาละ  :  23,000 บาท

(ภาคพิเศษ) ภาคการศึกษาละ  : 75,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://admission.su.ac.th/file-faculty/08_sutcas63-Pharmacy.pdf

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ชั้นปีที่ 1 – 5  ภาคการศึกษาละ  :  22,000 บาท

ชั้นปีที่ 6  ปีการศึกษาละ  :  44,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://www.admission.nu.ac.th/pdf/web/viewer.html?file=pdf/%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%20%E0%B8%9B.%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5.pdf

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

(ภาคปกติ) ภาคการศึกษาละ  :  29,500 บาท

(โครงการพิเศษ) ภาคการศึกษาละ  :  45,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://www.ubu.ac.th/web/files_up/04f2016072809353061.pdf

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ภาคการศึกษาละ  :  32,500 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://admission.msu.ac.th/upload/procedure-63.pdf

  • วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต

ตลอดหลักสูตร  :  1,799,200 – 1,832,300 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://www2.rsu.ac.th/info/admissions-fee

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

ปีการศึกษาละ  :  90,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://www.hcu.ac.th/charges

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา

ภาคการศึกษาละ  :  35,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://www.up.ac.th/th/up_news/admission63/index.html#p=10

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ

ตลอดหลักสูตร : 997,050 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : http://pradmission.payap.ac.th/html_pyu/fee-thai.html

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม

ตลอดหลักสูตร  :  1,034,750 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://siam.edu/tuition-fees/

  • สำนักวิชาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ภาคการศึกษาละ : 30,400 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://pharmacy.wu.ac.th/?page_id=140

  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

ตลอดหลักสูตร  :  1,200,000 บาท

รายละเอียดค่าเทอม : https://www.western.ac.th/index.php/th/apply/courses/bd-cost

 

  1. จบแล้วทำงานที่ไหน ?   
  • เภสัชกรการอุตสาหกรรม เช่น เภสัชกรฝ่ายผลิต เภสัชกรฝ่ายควบคุมคุณภาพ เภสัชกรฝ่ายขึ้นทะเบียน เภสัชกรฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฯลฯ จะปฏิบัติงานในโรงงานการผลิตหรือบริษัทจำหน่ายยาทั้งของรัฐและเอกชน
  • เภสัชกรโรงพยาบาล เช่น เภสัชกรผู้รับผิดชอบในการจ่ายยา เภสัชกรผู้ให้ปรึกษาด้านยา เภสัชกรผู้ผลิตยาในโรงพยาบาล ฯลฯ
  • เภสัชกรชุมชน เช่น เภสัชกรร้านยา เภสัชกรประจำสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิ หรือเป็นเจ้าของกิจการร้านยา เป็นต้น
  • เภสัชกรการตลาด ซึ่งจะทำหน้าที่ในการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยา
  • ทำงานในหน่วยงานของรัฐ เช่น เภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภคด้านสาธารณสุข เภสัชกรการศึกษา ฯลฯ
  • ทำงานในหน่วยงานของรัฐและเอกชน เช่น เภสัชกรโรงพยาบาล ศูนย์อนามัย สถานีอนามัย
  • ผู้ประสานงานวิจัยทางคลินิก

นอกจากนี้ก็จะเป็นสายอาชีพอื่นที่เกี่ยวกับยาด้วยค่ะ เช่นเป็น detail ยา หรือเจ้าหน้าที่ตามบริษัทเครื่องสำอางนั่นเอง

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ น้อง ๆ Dek64  อ่านมาถึงตรงนี้แล้วพอจะสนใจอยากเรียนคณะนี้หรือเปล่า สำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ อนาคตเป็นของเรา เราควรจะเลือกเรียนในสิ่งที่ถนัดและเราก็ชอบสิ่งนั้นด้วย นอกจากจะทำให้ประสบความสำเร็จในการเรียนแล้ว เรายังจะมีความสุขตลอดระยะเวลาที่เรียนอีกด้วย พี่ขอเป็นกำลังใจให้ Dek64 ทุกคนเลยนะคะ

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

teen.MThai.com , clinicya.com , Dek-D , Campus star , True ปลูกปัญญา และ sangfans.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *