คณะบริหารธุรกิจ ม.หอการค้าไทยโชว์ศักยภาพสร้างนักธุรกิจตัวจริงสู่ภาคอุตสาหรรม4.0

คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีความมุ่งมั่นส่งมอบการเรียนการสอนเชิงประยุกต์จากงานวิจัยและประสบการณ์การปฏิบัติงานจริงด้านธุรกิจ เพื่อสร้างผู้นำธุรกิจที่มีความเป็นผู้ประกอบการและมีความรับผิดชอบต่อสังคม สร้างองค์ความรู้ใหม่ด้านบริหารธุรกิจจากงานวิจัยและบริการวิชาการด้วยความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม ล่าสุดได้จัดงาน I’m marketer @UTCC 2020”โครงการนี้จัดขึ้นมาจากแนวคิดให้นักศึกษาสามารถช่วยแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัวได้ โดยการนำธุรกิจที่บ้านนักศึกษามาต่อยอดพัฒนาและสร้างให้เป็นระบบมากขึ้น ภายใต้การเรียนการสอนและเปิดร้านจริง ธุรกิจนั้นก็มีร้านจริงเป็นของตนเอง เพียงแต่ในโครงการนี้จะนำมาเปิดอีกสาขาที่ตั้งอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะเป็นการสร้างแบรนด์และสร้างสาขาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นให้เกิดการต่อยอดมากกว่าการที่ทำอยู่ที่บ้าน อีกทั้งนักศึกษาเองก็จะได้นำความรู้ที่เรียนมาทั้งหมดและการปฏิบัติงานจริงที่ทำในโครงการไปต่อยอดให้กับธุรกิจของที่บ้านได้ด้วย

 

ดร.สิริพันธ์ วงศ์อินทวัง อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “ “โครงการ I’m Marketer @UTCC” มีการคัดเลือกธุรกิจมาก่อนว่าต้องเป็นร้านค้าที่มาจากธุรกิจในครอบครัวหรือของตนเองในกลุ่มนักศึกษา ต่อมาจะดูในเรื่องแนวทางการจัดร้านเพื่อเปิดร้านค้าจริงได้ จากนั้นก่อนที่จะเริ่มตั้งร้านแต่ละทีมมีการนำเสนอรูปแบบร้านที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีการออกแบบเรื่อง Display  การจัดร้าน รวมถึงภายในร้านตัวสินค้าที่นำมาจัดจำหน่ายจะต้องมาการจัดให้เป็นระเบียบและมีการแบ่งกลุ่มสินค้าระหว่างสินค้าโชว์กับสินค้าขายจริงว่าต้องเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงการสื่อสารไปยังภายนอก เนื่องจากตอนนี้นักศึกษาขายหน้าร้านที่มหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียว การสร้างแบรนด์ออกไปสู่ภายนอกทั้งหมดมีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเข้ามาช่วยในการขาย แต่ละร้านค้าจะต้องมีการไลฟ์สดในแต่ละวันและแชร์ไลฟ์สดนั้นกลับไปยังโรงเรียนเก่าที่เคยเรียนจบมา ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถสั่งซื้อได้ทั้งที่ร้านค้าและทางออนไลน์ ผ่านการโปรโมททั้งหมด เป้าหมายของโครงการนี้ต้องการให้นักศึกษาตระหนักถึงธุรกิจของครอบครัวที่อาจจะเป็นตัวที่เราสามารถนำมาต่อยอดได้ในอนาคต เป้าหมายแรก คือตระหนักธุรกิจในครอบครัวก่อน เป้าหมายที่สอง คือ การเรียนการตลาดในยุคปัจจุบันภาคทฤษฏีก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งแต่ในความเป็นจริงยุคนี้เป็นยุคของการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริง ถ้าได้เรียนรู้แบบปฏิบัติจริงจะรู้ว่าอะไรที่สามารถทำแล้วคิดว่าถูกแต่ความเป็นจริงอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ถ้านักศึกษาทำแล้วยอดขายไม่ขึ้นจะมีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไรเพราะฉะนั้นการเรียนรู้ผิด เรียนรู้ถูกในการทำงานจะเป็นตัวสร้างประสบการณ์ให้กับนักศึกษามากขึ้น และอีกส่วนหนึ่ง คือ ตอบสนองแนวนโยบายของมหาวิทยาลัย เพราะไม่ได้เน้นเรียนทฤษฏีแต่เน้นในเรื่องการปฏิบัติเพราะเมื่อนักศึกษาเรียนรู้และจบไป สิ่งที่คุณจะต้องได้กลับไป คือ สามารถลงมือทำจริงได้ โดยวิชานี้ไม่ใช้วิชาเดียวที่ลงมือปฏิบัติจริงแต่เป็นทุกวิชาในสาขาการตลาดของมหาวิทยาลัย”

นายอนาวิน วะจีประสี เจ้าของร้าน เวอร์ ไป ป่ะ นักศึกษาคณะบริหาร สาขาการตลาด ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เล่าว่า “ธุรกิจขนมปังของกลุ่มผมมีหน้าร้านอยู่ที่ตลาดนัดจัตุจักร มีการนำมาต่อยอดและพัฒนาการเพิ่มตัวไส้เข้ามาให้มีตัวเลือกที่หลากหลายเมนูมากขึ้นให้กับลูกค้า และความแตกต่างของธุรกิจกลุ่มผมเป็นธุรกิจขนมปังปิ้งที่มีการปิ้งสดทุกชิ้น ในส่วนของตัวไส้อัดแน่นและเยิ้มมากกว่าร้านค้าทั่วไปที่ขายตามท้องตลาด อีกทั้งในเรื่องของไส้ที่เราเพิ่มมาใหม่ 3 ไส้นั้นจะเป็นไส้ผลไม้ที่มีเนื้อผลไม้และสามารถทานได้ง่ายอีกด้วย การที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้มาจากวิชาการจัดการค้าปลีกที่ทำให้กลุ่มพวกผมได้เรียนจริงและปฏิบัติจริงควบคู่กันไป ทำให้เรารู้ถึงขั้นตอนการขายแบบค้าปลีก การจัดร้าน รวมถึงการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันกับธุรกิจที่ทำอยู่ วิชานี้ถือว่าเป็นประโยชน์กับนักศึกษามาก ๆ ในการที่จะทำธุรกิจของตนเองให้มั่นคง ได้กำไรเพิ่มขึ้นและสามารถที่จะลดต้นทุนได้ก็ถือว่าเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี”

นางสาวณัฐสินี พึ่งแพง เจ้าของร้านปั้นสิบ นักศึกษาคณะบริหาร สาขาการตลาด ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เล่าว่า “ธุรกิจขนมปั้นสิบนี้เป็นธุรกิจของที่บ้านของเพื่อนในทีมเดียวกัน เป็นธุรกิจที่มีการทำมาดั้งเดิมอยู่แล้วและมีเพียงไส้ปลาเพีงไส้เดียว ทางทีมเลยนำมาต่อยอดจากโครงการครั้งนี้ โดยการเพิ่มไส้ให้มีความหลากหลายและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่มให้มากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าอีกด้วย และจุดเด่นคือขั้นตอนวิธีการทำขนมปั้นสิบนั้นเราทำมือทุกชิ้นและทำเองทุกกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะฉะนั้นทุกอย่างจะต้องถูกหลักอนามัยและมีคุณภาพมาก รสชาติอร่อยถูกปาก โดยจะทำสดใหม่ตลอดเวลา เพื่อที่จะได้สร้างความมั่นใจและน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า การเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ทีมงานจะนำความรู้ทีได้รับในเรื่องของการเพิ่มไส้ใหม่ ๆ หรือพัฒนาสูตรใหม่ ๆ ไปต่อยอดให้มีความหลากหลายมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้นเป็นการเพิ่มยอดขายให้กับตัวธุรกิจอีกด้วย”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *