สพฐ.สั่งรร.จัดส่งถุงยังชีพการศึกษา-อาหารกลางวันให้นร. ช่วงเรียนออนไลน์ที่บ้าน

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) นายอัมพร พินะสา กล่าวภายหลังการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนท์ ว่า ตนได้สื่อสารและทำความเข้าใจให้ทุก สพท.รับทราบถึงการดำเนินการเรื่องการจัดการเรียนการสอนท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19

 

โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ขอให้โรงเรียนทุกแห่งจะสร้างมาตรการการป้องกันตัวเพื่อไม่ให้ติดเชื้อโควิด รวมถึงจะต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รวมถึงประกาศมาตรการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้โรงเรียนจะต้องตรวจติดตาม ประเมินตรวจสอบรายงานผลทุกวัน ทั้งนี้จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพของเด็กเป็นสำคัญ ส่วนโรงเรียนที่อยู่ในจังหวัดพื้นที่สีแดงจะต้องปิดเรียนทั้งหมด ส่วนจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมตามโซนสีส้ม สีเหลือง และสีเขียว ให้พิจารณาตามประกาศของจังหวัดและหากภาพรวมมีความเรียบร้อยให้จัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ

 

นอกจากนี้ เลขาฯ กพฐ. กล่าวต่อว่า สำหรับการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์เราไม่กังวล โดยขอให้โรงเรียนที่ปิดเรียนได้ถอดบทเรียนจากการปิดสถานศึกษารอบที่มีการระบาดของโควิดรอบแรกมาบริหารจัดการได้ ส่วนโรงเรียนในพื้นที่ใดที่บ้านเด็กไม่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีครูผู้สอนสามารถ จัดถุงยังชีพการศึกษาที่ประกอบไปด้วยใบงาน แบบฝึกหัด และแบบเรียน

 

ดังนั้นแม้จะมีการปิดเรียนเกิดขึ้นเราจะไม่ให้เกิดผลกระทบกับเด็กในเรื่องการเรียนรู้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้ย้ำให้จัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าจะไม่มีการเลื่อนปิดภาคเรียนหรือเลื่อนการสอบต่างๆ เพราะจะกระทบกับการนับชั่วโมงเรียนและส่งผลไปถึงนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีผลต่อการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาด้วย ดังนั้น หากสถานการณ์โควิดยังไม่คลี่คลาย สพฐ.จัดหารูปแบบการจัดสอบใหม่เอง

 

 “เรื่องโครงการอาหารกลางวัน หากโรงเรียนใดที่มีการปิดเรียนให้จัดส่งอาหารกลางวันที่บ้านนักเรียน หรือปรุงอาหารไว้ที่โรงเรียนและผู้ปกครองมารับ ซึ่งหากผู้ปกครองหรือโรงเรียนไม่สะดวกให้โรงเรียนสามารถโอนเงินเข้าบัญชีผู้ปกครองแทน ขณะที่อาหารเสริมนมโรงเรียนให้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แจกจ่ายให้ผู้ปกครองที่บ้านแทนตามความเหมาะสม” นายอัมพร กล่าว

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

-https://www.thaipost.net/main/detail/89002

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *