ใครอยากเรียนครู ต้องดูทางนี้!

อยากเรียนครู ต้องทำอย่างไร ?

“ครู” คือ อาชีพที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน เพราะตั้งแต่เด็กจนโต ครูเป็นอาชีพที่ใกล้ชิดกับเรามากที่สุด และด้วยบุคลิก กริยา ท่าทาง การแต่งตัวในชุดที่ทรงเกียรติ ทำให้มีแรงบันดาลใจอยากเป็นในแบบที่คุณครูเป็นบ้าง อยากสอนหนังสือ อยากเขียนบนกระดาน อยากตรวจการบ้านเด็ก ๆ พร้อมเซ็นลายเซ็นที่เป็นของเรา ใช่ค่ะ ครั้งหนึ่งพี่ก็เคยมีความฝันที่อยากเป็นครูบ้าง แต่เมื่อโตขึ้น ความฝันก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่สำหรับใครที่ยังมีความใฝ่ฝันอันแน่วแน่ที่อยากเป็นครูให้ได้ ในวันนี้พี่ ๆ Eduzones เลยพาน้อง ๆ ที่อยากเรียนครูมาดูกันว่า เราต้องเตรียมตัวอย่างไร สอบอะไรบ้าง ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย!

 

อยากเรียนครู ใช้คะแนนอะไรบ้าง ?

น้อง ๆ คนไหนที่อยากเรียนครู สามารถเข้าศึกษาต่อในคณะศึกษาศาสตร์ ครุศาสตร์ และครุศาสตร์อุตสาหกรรม ซึ่งแต่ละคณะมีการใช้คะแนน ดังนี้

  • 9 วิชาสามัญ ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์1 ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์2 วิทยาศาสตร์ทั่วไป และสังคมศึกษา (ขึ้นอยู่กับสาขาวิชาที่น้อง ๆ จะเรียน)
  • O-NET ตามระเบียบจะต้องสอบทั้ง 5 วิชา คือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และสังคมศึกษา
  • GAT/PAT ซึ่งตามระเบียบจะต้องสอบ GAT, PAT5 (อาจจะสอบ PAT1, PAT2, PAT3, PAT4, PAT6 และPAT7 เพิ่มเติม ตามสาขาที่เรียน)

* ส่วนคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมต้องสอบ PAT1, PAT2

GAT คือการสอบวัดความถนัดทั่วไป แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ

– ส่วนที่ 1 GAT เชื่อมโยง การอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ เชื่อมโยง ภาษาไทย

– ส่วนที่ 2 GAT อังกฤษ ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ

PAT5 คือ ข้อสอบวัดความถนัดทางวิชาชีพครู แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

  1. ความรู้พื้นฐาน เช่น ความรู้พื้นฐานวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคม เป็นต้น
  2. ข้อสอบวัดแววความเป็นครู เช่น ข้อสอบแนวจิตวิทยาครู ข้อสอบเชาว์ปัญญา ทักษะการสื่อสารเบื้องต้น เป็นต้น
  • GPAX คือ เกรดเฉลี่ยสะสม ส่วนมากการสมัครคัดเลือกเข้าระดับอุดมศึกษาจะใช้เกรดเฉลี่ยสะสม 5-6 เทอม
  • Portfolio คือ แฟ้มสะสมผลงาน ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การแข่งขันทักษะต่าง ๆ ประวัติส่วนตัว การทำกิจกรรม จิตอาสา และผลงานที่เด่น ๆ ของน้อง ๆ และเกรดเฉลี่ย 4-5 เทอม

* เนื่องจากครูนั้นมีหลายสาขา เช่น ครูคณิตศาสตร์ ครูสังคม ครูพละ ครูศิลปะ ครูเคมี ครูวิทยาศาสตร์ ครูสายภาษาต่าง ๆ และอื่น ๆ จึงทำให้การสอบในแต่ละสาขาต้องเลือกวิชาสอบที่แตกต่างกันออกไป

 

สอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อ มีทั้งหมดกี่รอบ ?

          สำหรับน้อง ๆ ที่อยากเป็นครู ปีนี้ TCAS64 มีการสอบคัดเลือกศึกษาต่อ 4 รอบ ดังนี้

  • รอบที่ 1 Portfolio ในการรับตรงรอบพอร์ตนี้ จะมีการพิจารณาจากเกรดของเรา ใช้เกรด 4-5 เทอม และแฟ้มสะสมผลงานเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวเรามากที่สุด ในแฟ้มสะสมผลงานนั้นควรมีผลงาน การทำกิจกรรมต่าง ๆ ของน้อง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันทักษะวิชาการต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นจุดที่ทำให้คณะกรรมการเห็นถึงความสามารถของเรา เพราะฉะนั้นหากน้อง ๆ คนไหนที่รู้ตัวว่าอยากเรียนในคณะหรือสาขาใด ควรที่จะร่วมกิจกรรม หรือสร้างผลงานที่เกี่ยวข้องกับสาขานั้นเยอะ ๆ นะคะ
  • รอบที่ 2 โควตา ในรอบนี้จะเป็นรอบที่เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่อยากเรียนใกล้บ้าน และมีความสามารถพิเศษ ซึ่งรอบโควตาเป็นรอบที่ทางมหาวิทยาลัยจะกำหนดคุณสมบัติพิเศษของผู้สมัครคือเป็นบุคคลในพื้นที่หรือโรงเรียนในเครือข่าย โครงการของมหาวิทยาลัย หรือคุณสมบัติจากความสามารถพิเศษ เช่น โควตานักกีฬา โควตาเรียนดี เป็นต้น ซึ่งรอบนี้จะใช้คะแนนที่แตกต่างกันไปตามเกณฑ์ของแต่ละมหาวิทยาลัย วิชาที่ใช้ คือ GAT, PAT1, PAT7, GPAX (5-6 เทอม), วิชาสามัญ (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์2 วิทยาศาสตร์ทั่วไป และสังคมศึกษา)
  • รอบที่ 3 Admission ในระบบ TCAS64 ปีนี้ เป็นการรวม Admission 1 และ Admission 2 เข้าด้วยกัน ซึ่งจะสมัครวันเดียวกัน ผ่าน MyTCAS และน้อง ๆ สามารถเลือกอันดับได้สูงสุดถึง 10 อันดับ แต่ติดได้แค่ 1 อันดับ ต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการเลือกอันดับหรือสละสิทธิ์ดี ๆ นะคะ ส่วนเกณฑ์คะแนนการรับคัดเลือกโดยขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย โดยน้อง ๆ ควรเตรียมคะแนน GAT/PAT (PAT1,PAT7), GPAX (6 เทอม), O-NET และวิชาสามัญ (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์1 ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์2 วิทยาศาสตร์ทั่วไป และสังคมศึกษา) ทั้งนี้ก็ตามสาขาที่เรียนนะคะ

– สัดส่วนคะแนนรูปแบบที่ 1 คือ GPAX 20%, O-NET 30%, GAT 20%, PAT 5 30%

– สัดส่วนคะแนนรูปแบบที่ 2 คือ GPAX 20%, O-NET 30%, GAT 10%, PAT 5 20%, PAT (เลือก 1 วิชา)20%

ในการสมัครต้องศึกษารายละเอียดให้ดีเพราะแต่ละสาขาวิชาใช้คะแนนที่แตกต่างกัน ต้องรอบคอบเพื่อจะได้เลือกอันดับที่เซฟที่สุดนะคะ

  • รอบที่ 4 Direct Admission หรือ รับตรงอิสระ เป็นรอบสำหรับผู้ที่ยังไม่มีสิทธิ์รับเข้าศึกษา และยังไม่ยืนยันสิทธิ์ในรอบก่อนหน้า ซึ่งรอบรับตรงอิสระเป็นรอบที่ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยล้วน ๆ เพราะรอบนี้จะมีการกำหนดเกณฑ์คะแนนการคัดเลือกที่แตกต่างกัน น้อง ๆ ควรเตรียมคะแนน GAT/PAT (ตามสาขาที่เรียน), GPAX (6 เทอม), O-NET และวิชาสามัญ เป็นต้น และรอบนี้สามารถยื่นได้มากกว่า 1 ที่ แต่ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาได้แค่ 1 ที่เท่านั้นน้า เรียกว่าระบบ TCAS64 นี้มีการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน ๆ พอสมควร เพราะฉะนั้นก่อนการสมัครน้อง ๆ จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดมาอย่างละเอียดนะคะ

ถ้าไม่ได้เรียนสายครูโดยตรง แต่อยากเป็นครูได้ไหม ?

มีใครหลายคนที่เกิดข้อสงสัยว่า ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้จบจากคณะที่เรียนครูโดยตรง แล้วสามารถเป็นครูได้หรือไม่ เนื่องจากอาชึพครู นับว่าเป็นอาชีพที่เปิดกว้างมาก ๆ ค่ะ สำหรับใครที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีแต่ไม่ใช่สาขาครู ก็สามารถเป็นครูได้ แต่!!!! ต้องเรียนต่อวิชาชีพครู อีก 1 ปี จึงจะได้ใบประกอบวิชาชีพครู และสามารถบรรจุเป็นข้าราชการครูได้

นอกจากนี้ผู้ที่จบจากสาขาวิชาอื่น ที่อยากเป็นครู สามารถสมัครเป็นครูได้จากประกาศรับสมัครจากทางโรงเรียน ซึ่งอาจจะเป็นครูผู้ช่วยสอน หรือตำแหน่งตามที่ทางโรงเรียนต้องการ และระหว่างนั้นโรงเรียนจะยื่นขอหนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้ และระหว่างนี้ภายใน 2 ปี เราต้องเรียนเพื่อเอาใบประกอบวิชาชีพครู และเมื่อได้ใบประกอบวิชาชีพครูแล้ว ก็สามารถไปสอบบรรจุได้เลยค่า

 

ครูเป็นอาชีพที่ทรงเกียรติ ทุกอาชีพที่เกิดขึ้นได้ ล้วนมีครูเป็นผู้ชี้นำ และนอกจากนั้นครูยังเป็นบุคคลที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศชาติไปในทางที่ดีขึ้น จึงไม่แปลกใจเลยที่ “ครู” เป็นอาชีพที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน พี่ Eduzones เป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ที่มุ่งมั่นที่จะเรียนครู ขอให้สอบติดและได้เป็นหนึ่งในแม่พิมพ์ที่มีคุณภาพของประเทศ ไม่มีอะไรเกินความพยายามของเราอยู่แล้วค่ะ สู้ๆ นะคะน้องๆ !

 

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *