สพฐ.เผยการรับนร.เป็นไปด้วยดี พร้อมปรับเกณฑ์อัตรากำลังครูใหม่!

เมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา ได้เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ประกาศรับสมัครนักเรียนประจำปีการศึกษา 2564 โดยมีปฏิทินการรับนักเรียน ก่อนประถมศึกษารับสมัครวันที่ 20-24 มี.ค. จับสลากวันที่ 28 มี.ค. ประกาศผลและรายงานตัววันที่ 28 มี.ค. และมอบตัววันที่ 4 เม.ย. ประถมศึกษาปีที่ 1 รับสมัครวันที่ 16-20 เม.ย. จับฉลากวันที่ 24 เม.ย. ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 24 เม.ย. มอบตัววันที่ 1 พ.ค. มัธยมศึกษาปีที่ 1 รับสมัครวันที่ 24-28 เม.ย. สอบคัดเลือกวันที่ 1 พ.ค. ประกาศผลวันที่ 5 พ.ค. และมอบตัววันที่ 8 พ.ค.

มัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เปิดสอน ม.ต้นและ ม.ปลาย รับสมัคร วันที่ 24-28 เม.ย. สอบคัดเลือกวันที่ 2 พ.ค. ประกาศผลวันที่ 6 พ.ค. และมอบตัววันที่ 9 พ.ค.นั้น เท่าที่ติดตามการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบปัญหาหรือเรื่องร้องเรียนใด ๆ และยังไม่มีเรื่องใดที่ต้องน่ากังวล โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และโรงเรียนสามารถร่วมกันบริหารจัดการและดำเนินงานในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ทาง รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า “สพฐ.มีนโยบายชัดเจนในการกระจายอำนาจให้ สพท. และโรงเรียนร่วมกันดำเนินการรับนักเรียนได้ตามบริบทและความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ โดยใช้พื้นที่เป็นฐานในการวางแผนการรับนักเรียน เอาข้อผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในปีที่ผ่าน ๆ มาประมวลผลและแก้ไขปัญหา ซึ่งเป้าหมายสุดท้ายที่ทุก สพท.และโรงเรียนจะต้องทำให้ได้คือต้องจัดสรรที่เรียนให้กับเด็กนักเรียนทุกคนให้ได้ และ สพฐ.เองก็ยืนยันมาโดยตลอดว่าเด็กนักเรียนทุกคนต้องมีที่เรียน เพียงแต่จะต้องไม่เลือกว่าต้องเป็นโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงเท่านั้น สพท.จะพยายามเกลี่ยเด็กไปยังโรงเรียนใกล้เคียงกับโรงเรียนที่เคยเลือกไว้ ดังนั้นจึงขอให้ผู้ปกครองสบายใจได้”

และสำหรับข้อสงสัยที่ขณะนี้จำนวนนักเรียนลดลงอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบกับโรงเรียนขนาดกลาง และขนาดเล็กหรือไม่ ว่าที่ร้อยตรีธนุ ได้กล่าวว่า “หากมองในแง่บวก เมื่อจำนวนนักเรียนลดลง เด็กต่อห้องก็ลดลงไปด้วย จาก 40-45 คนต่อห้อง เหลือ 20-25 คนต่อห้อง จะทำให้ครูสามารถดูแลนักเรียนในชั้นเรียนของตัวเองได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ย่อมส่งผลดีในการดูแลเรื่องคุณภาพ ส่วนครูที่บางโรงเรียนอาจจะล้นนั้นขณะนี้ สพฐ.อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำเกณฑ์อัตรากำลังครูต่อเด็กนักเรียน รวมถึงเกณฑ์การย้ายครู เพื่อให้มีความเหมาะสม โดยเกณฑ์การย้ายครูนั้นอาจจะมีการเสนอให้มีการช่วยเหลือในเรื่องของแรงจูงใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ค่าเดินทาง หรือค่าน้ำมันรถ เป็นต้น”

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.facebook.com/312592942736950/posts/743246373004936/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *