เช็ก! แนวทางดำเนินงานจ่ายเงินช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา 2,000 บาท

ตามมติ คณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือนและประชาชน ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีมาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อลดภาระให้แก่ผู้ปกครองในอัตรา 2,000 บาท ต่อนักเรียน 1 คนนั้น

เพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมในการขอรับจัดสรรงบประมาณตามโครงการ ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาดำเนินการตามแนวทาง ดังนี้

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ดำเนินการดังนี้

  1. เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารไว้กับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจหนึ่งบัญชีชื่อบัญชี “ชื่อหน่วยงาน (โครงการเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา COVID-19)” เพื่อรองรับเงินที่ขอเบิกจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลังพร้อมส่งข้อมูลชื่อและเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคารให้กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด แล้วแต่กรณีเพื่อให้กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัดจัดทำข้อมูลหลักผู้ขาย (ปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงการคลังด่วนที่สุด ที่ กค 0402.2/ ว 75 ลงวันที่ 24 เมษายน 2563)
  2. แจ้งให้โรงเรียนในสังกัดทราบ เพื่อเตรียมในการดำเนินงานตามแนวทางที่กำหนด
  3. ตรวจสอบข้อมูลนักเรียน ผู้ปกครอง รายละเอียดเกี่ยวกับธนาคารที่ผู้ปกครองประสงค์จะให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร (ชื่อธนาคาร ชื่อบัญชีเงินฝากธนาคาร เลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร)ที่โรงเรียนจัดส่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้ถูกต้อง ครบถ้วน
  4. ตรวจสอบการจัดสรรวงเงินกู้ ที่ได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ถูกต้อง ครบถ้วน พร้อมทั้งวางแผนการเบิกจ่ายเงินกู้ในระบบ GFMIS เมื่อได้รับแจ้งการโอนเงินกู้มาตั้งจ่ายณ หน่วยเบิกจ่าย กรณีไม่ถูกต้องตรงกันขอให้ประสานข้อมูลกับสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐานสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยตรง
  5. ตรวจสอบการโอนเงินกู้ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้โอนมาตั้งจ่ายณ หน่วยเบิกจ่าย ให้ถูกต้องตรงกับการแจ้งจัดสรรวงเงินกู้ ตามข้อ 4 กรณีไม่ถูกต้องตรงกันขอให้ประสานสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักการคลังและสินทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
  6. เบิกเงินกู้ในระบบ GFMIS โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเร็ว
  7. โอนเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ปกครอง ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่ได้รับเงินจากคลัง
  8. การจ่ายเงิน การรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลังให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลังพ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
  9. รายงานผลการดำเนินงานให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทราบพร้อมแจ้งให้โอนเงินกู้กลับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรณีมีเงินเหลือจ่าย

 

โรงเรียนที่มิใช่เป็นหน่วยเบิก ดำเนินการดังนี้

  1. แจ้งประชาสัมพันธ์ผู้ปกครองของนักเรียนให้รับทราบและเข้าใจถึงหลักการให้ความช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรี โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะดำเนินการโอนเงินกู้ตามโครงการดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ปกครองโดยตรง
  2. รับทราบและตรวจสอบ ข้อมูลจำนวนนักเรียนที่ยืนยันตัวตนจากระบบ DMC ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2564 กรณีไม่ถูกต้อง ครบถ้วน ขอให้ประสานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่โรงเรียนสังกัดอยู่สำหรับการดำเนินงานตามโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
  3. แจ้งผู้ปกครองจัดส่งสำเนาบัตรประชาชนของผู้ปกครองและสำเนาสมุดคู่ฝากธนาคารที่ผู้ปกครองมีความประสงค์จะให้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารกรณี ผู้ปกครองไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคาร ให้ใช้บัญชีเงินฝากธนาคารของนักเรียนแทนได้

โดยผู้ปกครองหมายเหตุในสำเนาสมุดคู่ฝากธนาคาร ของนักเรียน

  1. รวบรวมเอกสารตามข้อ 3 และจัดทำรายละเอียดพร้อมรับรองความถูกต้องของข้อมูลตามแบบรายละเอียดการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ปกครองตามโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) และจัดส่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาโดยเร็ว

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

-สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *