“เห็นด้วยไหม? ถ้าให้หยุดเรียนทั่วประเทศ 1 ปี” จากความคิดเห็นของชาวชุมชน eduzones

ด้วยมีประเด็นที่คณบดีศึกษาฯ มก.ได้ออกมาเสนอให้หยุดเรียนทั่วประเทศ 1 ปี หลังจากที่มีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาแล้วพบว่าการเรียนออนไลน์นั้นไร้ประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบต่อเด็ก ทำให้เด็กไทยเครียด และมีสถิติการโดดเรียนออนไลน์กว่า 20%

ทางแฟนเพจ eduzones จึงได้มีการสำรวจความคิดเห็นในหัวข้อ “เห็นด้วยไหม? ถ้าให้หยุดเรียนทั่วประเทศ 1 ปี” ผ่านโพสต์ https://www.facebook.com/eduzonesdotcom/photos/a.488877586170/10159430888331171/  ซึ่งชาวชุมชน eduzones ได้ร่วมให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นข้างต้น ดังนี้ค่ะ

 

จากความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่กับหัวข้อดังกล่าวให้ความเห็นว่า “ไม่เห็นด้วย” ถ้าจะหยุดเรียนพร้อมกันทั่วประเทศ 1 ปี โดยมีเหตุผลไปในทิศทางเดียวกัน เช่น

ไม่เห็นด้วย เพราะไม่ควรหยุดเรียนแต่ให้หยุดการประเมินผลแทน การหยุดเรียน 1 ปี เท่ากับเด็กต้องหยุดการเรียนรู้ไปด้วย ควรให้เด็กได้เรียนออนไลน์ไประหว่างช่วงที่ไปโรงเรียนไม่ได้ แต่ให้ปรับวิธีการประเมิน ตัดการประเมินผลด้วยเกรดออกไป ให้สามารถเลื่อนชั้นอัตโนมัติ ทำให้เด็กได้เรียนรู้ แต่ไม่ต้องกังวลกับการวัดประเมินผล

ไม่เห็นด้วย เพราะสามารถปรับหลักสูตรให้เหมาะสมกับรูปแบบการเรียนได้ ด้วยการเรียนออนไลน์ทำให้มีในหลายวิชาที่ไม่สามารถเรียนผ่านระบบออนไลน์ได้ ดังนั้นจึงควรปรับเอาวิชาที่ไม่สามารถเรียนออนไลน์ได้ หรือวิชาที่ไม่จำเป็นออกไป อย่างเช่น วิชาพละศึกษา การงานอาชีพ ลูกเสือ เป็นต้น ให้เด็กได้เรียนเฉพาะที่วิชาที่จำเป็นและเรียนผ่านระบบออนไลน์ได้เท่านั้น

ไม่เห็นด้วย เพราะควรพัฒนาการเรียนรูปแบบออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ การหยุดเรียนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ดังนั้นควรปรับรูปแบบการเรียนออนไลน์หรือการเรียนที่บ้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งสื่อการสอน วิธีการสอน การสื่อสารกับเด็ก สถานศึกษา ทุกฝ่ายควรเรียนรู้และพัฒนาไปให้ทันกับสถานการณ์ เพราะเป็นอีกรูปแบบการเรียนที่เด็กสามารถใช้เรียนรู้ได้ในอนาคต

ไม่เห็นด้วย เพราะทำให้เด็กเรียนจบช้าไปอีก 1 ปี ซึ่งอาจกระทบกับการเรียนต่อ การสอบ หรือเกณฑ์การรับสมัครในระบบการศึกษาต่างๆ ในอนาคตได้ เพราะถึงจะหยุดเรียนแต่อายุของเด็กไม่ได้หยุดไปด้วย

ไม่เห็นด้วย เพราะไม่รู้สถานการณ์จะดีขึ้นเมื่อไหร่ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ไม่ดีขึ้นในระยะเวลา 1 ปีนี้ เท่ากับว่าการหยุดเรียนไปนั้นเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ และอาจต้องเลื่อนการหยุดเรียนออกไปเรื่อยๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งระบบการศึกษาไทยในอนาคต

ไม่เห็นด้วย เพราะควรรีบให้เด็กกลับมาเรียน onsite ให้เร็วที่สุด เราไม่ควรปล่อยให้เด็กห่างการเรียนและโรงเรียนนานขนาดนั้น ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรีบนำวัคซีนมาฉีดให้แก่เด็กและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้เด็กสามารถกลับมาเรียนแบบปกติให้ได้เร็วที่สุด

ไม่เห็นด้วย เพราะเด็กที่พร้อมก็จะเสียโอกาสไปด้วย ในสถานการณ์ที่ต้องเรียนในรูปแบบออนไลน์ก็มีเด็กอีกหลายคนที่สามารถเรียนผ่านออนไลน์ได้ การหยุดเรียนทั้งประเทศเด็กๆ ที่พร้อมจะเรียนเสียเวลาตรงนี้ไป รวมถึงจะกระทบกับคนที่วางแผนการเรียนหรือการทำงานไปแล้วด้วย

ไม่เห็นด้วย เพราะอาจส่งผลไปถึงการจ้างงานครู เมื่อหยุดการเรียนการสอน เท่ากับครูเองก็หยุดไปด้วย ซึ่งสำหรับครูในโรงเรียนรัฐบาลอาจไม่กระทบ แต่สำหรับครูโรงเรียนเอกชน ที่เมื่อไม่มีการเรียนการสอน ไม่ได้ทำงาน และโรงเรียนไม่ได้รับการจ่ายค่าเทอม ก็อาจส่งผลให้มีการเลิกจ้างครูเกิดขึ้น

 

แต่นอกจากเสียงส่วนใหญี่ไม่เห็นด้วยกับการหยุดเรียน 1 ปีทั้งประเทศตามเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว ก็มีเสียงบางส่วนที่ “เห็นด้วย” กับความคิดนี้ โดยมีเหตุผลต่างๆ เช่น

เห็นด้วย เพราะไม่ใช่เด็กทุกคนที่มีอุปกรณ์พร้อมเรียนออนไลน์ การเรียนออนไลน์จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่พร้อมทั้งสมาร์ทโฟน หรือแท็ปเล็ต รวมถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งไม่ใช่ทุกครอบครัวที่พร้อมจะซัพพอร์ตตรงนี้ บางครอบครัวมีลูกหรือเด็กหลายคนในบ้านต่างระดับชั้นกัน แต่มีอุปกรณ์สำหรับการเรียนแค่ชุดเดียวก็ทำให้เด็กทุกคนไม่สามารถเรียนได้ เป็นต้น

เห็นด้วย เพราะเด็กปฐมวัยไม่สามารถเรียนด้วยตัวเองได้ เด็กต้องมีผู้ปกครองคอยสอนขณะเรียนด้วย ทำให้เวลาที่ลูกเรียนพ่อแม่ผู้ปกครองต้องคอยประกบ ซึ่งในครอบครัวที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องทำงานไม่สามารถมาช่วยสอนได้เกิดปัญหา เด็กเรียนไม่รู้เรื่อง พ่อแม่ทำงานไม่ได้ ดังนั้นควรรอเปิดเรียนให้เด็กได้ลงสนามในเวลาที่พร้อมทั้งหมดจะดีกว่า

เห็นด้วย เพราะการเรียนออนไลน์นานๆ ทำให้เด็กเครียด การเรียนผ่านหน้าจอวันละ 7-8 ชั่วโมง ทำให้เด็กเบื่อ และเกิดความเครียดในการเรียน มีความอยากเรียนรู้ที่ลดลง โดยเฉพาะในหลายบ้านที่สิ่งแวดล้อมไม่เอื้อต่อการเรียนยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนของเด็กลดลงและเกิดความเครียดเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

เห็นด้วย เพราะการเรียนออนไลน์อาจทำให้เรียนจบมาไม่มีประสิทธิภาพ  ด้วยการเรียนในรูปแบบออนไลน์นั้นทำให้ไม่สามารถเรียนในบางวิชาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยเฉพาะสำหรับเด็กในระดับมหาวิทยาลัย หรือสายวิชาชีพที่ต้องมีการทดลอง เข้าแลป หรือการลงมือปฏิบัติ เพราะเราคงไม่สามารถทดลองวิทยาศาสตร์ หรือฝึกซ่อมรถ สร้างตึกผ่านการเรียนในรูปแบบออนไลน์ได้  เป็นต้น

เห็นด้วย เพราะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ในช่วงที่ไม่สามารถเรียนได้อย่างเต็มที่ แต่เด็กและผู้ปกครองยังต้องจ่ายค่าเทอมอยู่ ซึ่งการเรียนในบางวิชา หรือบางคณะก็ไม่คุ้มค่ากับค่าเทอมที่จ่ายไป หรือบางบ้านที่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ตสำหรับการเรียนออนไลน์ให้ลูก การหยุดเรียนเพื่อเซฟค่าใช้จ่ายตรงนี้น่าจะดีกับตัวเด็กและผู้ปกครองที่ต้องหาเงินมาจ่ายในช่วงสถานการณ์และเศรษฐกิจแบบนี้มากกว่า

เห็นด้วย เพราะควรให้เวลาสำหรับการไปค้นหา/เรียนรู้ด้วยตนเอง ด้วยสถานการณ์ที่ไม่สามารถเรียนได้อย่างเต็มที่ และการเรียนออนไลน์ก็ทำให้เด็กจำนวนไม่น้อยเกิดความเครียด ควรหยุดการเรียนแล้วให้เด็กได้ไปเรียนรู้เรื่องที่สนใจด้วยตนเอง

เห็นด้วย เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรใช้เวลานี้ในการวางแผนรับมือเมื่อเปิดเรียน ด้วยที่ผ่านมาการเรียนการสอนในประเทศไทยเกิดการติดขัดเป็นอย่างมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรใช้ช่วงเวลานี้ในไปวางแผนรับมือว่าควรทำอย่างไรเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ จะทำให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้ด้วยวิธีไหน จะทำอย่างไรในช่วงเวลาที่เสียไปกับการปรับรูปแบบการเรียนจะดีกว่าการดันทุรังเรียนไปแก้ไปอย่างไม่ได้ประสิทธิภาพ

 

จากความคิดเห็นของชาวชุมชน eduzones เกี่ยวกับประเด็นนี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่า การหยุดและไม่หยุดเรียนในช่วงสถานการณ์แบบนี้มีข้อดีที่แตกต่างกันไป ซึ่งเราคงต้องดูกันต่อไปว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะดำเนินการไปในทิศทางใดต่อไป อย่างไรก็ตามทางแฟนเพจ  eduzones ก็ขอเป็นหนึ่งกำลังใจสำหรับให้น้องๆ นักเรียน นักศึกษาที่ต้องเผชิญกับการเรียนและการใช้ชีวิตที่ยากลำบากในช่วงนี้ทุกคนค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *