หลักสูตรฐานสมรรถนะคืออะไร ?
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดแผนปฏิบัติการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 เป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ สำหรับแผนปฏิบัติการที่ได้ปรับปรุงใหม่ มีสาระสำคัญอยู่ 2 ประการ คือ ประการที่หนึ่ง วางแผนนำหลักสูตรฐานสมรรถนะไปใช้ในกรอบเวลา 3 ปี คือ ปีการศึกษา 2565 ให้เริ่มใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะ สำหรับระดับประถมศึกษาในโรงเรียนที่มีความพร้อม จากนั้นปีการศึกษา 2566 ให้ใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะ สำหรับระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนที่มีความพร้อม และทุกโรงเรียนในระดับประถมศึกษา และในปีการศึกษา 2567 ให้ใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะในโรงเรียนทุกโรง
หลักสูตรฐานสมรรถนะคืออะไร
สมรรถนะ คือภาพรวมของ 3 สิ่ง ได้แก่ ความรู้ ทักษะ และเจตคติ ซึ่งเชื่อมโยงสอดคล้องกันและแยกจากกันไม่ได้ ทั้ง 3 อย่างมีความหมายดั้งนี้
- ความรู้ คือ สิ่งที่ได้จากวิชานั้น ๆ มีการกระตุ้นความคิด
- ทักษะ คือ สิ่งที่สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
- เจตคติ คือ การเปิดใจให้ผู้คนรอบข้าง การใฝ่หาความจริง การเข้าเคารพตนเองและผู้อื่น มีความอยากรู้อยากเห็นสิ่งใหม่ และมีความสร้างสรรค์
แต่เดิมหลักสูตรปัจจุบันเน้นไปเพียงแค่ตัวเดียวคือ ความรู้ ไม่ได้รวมถึง ทักษะ และเจตคติที่มากพอ จึงทำให้เด็กนักเรียนไม่สามารถทำงานได้ดีเมื่อจบการศึกษาออกมาแล้ว
หลักสูตรฐานสมรรถนะ จะกำหนดมาตรฐานสมรรถนะ (Competency Standards) ขึ้นเป็นสมรรถนะเบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ โดยทั่วไปมี 2 ลักษณะ คือ
- สมรรถนะหลัก (Core Competency) มีลักษณะเป็นสมรรถนะข้ามวิชาหรือคร่อมวิชา คือเป็นสมรรถนะที่สามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นแก่ผู้เรียนได้ในสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่หลากหลาย หรือสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนให้เรียนรู้สาระต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
- สมรรถนะเฉพาะ (Specific Competency) เป็นสมรรถนะเฉพาะวิชา / สาขาวิชาที่จำเป็นสำหรับวิชานั้น ๆ ซึ่งสมรรถนะทั้ง 2 ประเภทนั้น ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะหลัก หรือสมรรถนะเฉพาะ ต่างก็มีระดับตั้งแต่ง่ายไปยาก ซึ่งหลักสูตรจะกำหนดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบไต่ระดับ ไปตามระดับความสามารถของตน
หลักสูตรฐานสมรรถนะจะถูกเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
- มีการปลดล็อกตัวชี้วัด เด็กเรียน 7 สาระการเรียนรู้ แทน 8 สาระการเรียนรู้
- ช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ปีที่ 3 เวลาเรียนลดลงจาก 1000 ชั่วโมงเป็น 800 ชั่วโมง
- สอนอ้างอิงสมรรถนะมากกว่าอิงเนื้อหา
- เน้นกิจกรรมการเรียนรู้ เน้นปฏิบัติ โดยเชื่อมโยงกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
- มีการบูรณาการข้ามศาสตร์มากยิ่งขึ้น
- สอนอิงสมรรถ ประเมินอิงสมรรถนะ
- หลักสูตรมีความยืดหยุ่นขึ้น
- ให้ความสำคัญกับบริบทสิ่งแวดล้อม ให้นักเรียนได้มีการพัฒนาศักยภาพของตนเองหลายบุคคล
เหตุผลที่ต้องเปลี่ยนหลักสูตร
เนื่องจากโลกในปัจจุบัน เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และไม่มีความแน่นอนอยู่ตลอดเวลา เมื่อเด็กนักเรียนที่จบมาก็เกิดว่างงานเป็นจำนวนมาก เด็กที่จบมาทำงานไม่เป็น สิ่งที่จะแก้ปัญหาคือให้เด็กได้มีเครื่องมือติดตัว โดยเน้นสอนให้เด็กทำเป็น มีพฤติกรรมทางอารมณ์และทักษะที่เหมาะสมมากกว่าที่ให้เรียนแต่เนื้อหาความรู้ ถ้าเน้นสอนสิ่งเหล่านี้ เด็กก็จะสามารถนำไปปรับใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปทิศทางไหน
หลักสูตรฐานสมรรถนะเน้นอะไรบ้าง
- ยึดให้เด็กเป็นศูนย์กลางในด้าน ความถนัด ศักยภาพ และความสนใจ
- เน้นกิจกรรมการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์จริง
- 3 เรื่องที่ครูสอนต่อเนื่อง ได้แก่ สอนความรู้ ฝึกทักษะให้เด็กปฏิบัติ พัฒนาทัศนคติอารมณ์และอุปนิสัย
- มีการกำหนดบูรณาการข้ามศาสตร์ ด้วยความร่วมมือจากคุณครูในโรงเรียน
- ประเมินผลที่สมรรถนะของเด็ก
การประเมินผล
- เน้นการรวบรวมหลักฐานการเรียนรู้มากกว่าการเรียนแบบให้เด็กแข่งขันทำข้อสอบ
- เน้นการประเมินเพื่อพัฒนา ประเมินเพื่อสรุปผลด้วยวิธีการหลากหลายสอดคล้องกับช่วงวัย
- เน้นประเมินที่ดูจากการพัฒนาของเด็กมากกว่าประเมินในกระดาษที่ให้คุณครูกรอกเอกสาร
การตัดสินผลการเรียน
- ตามผลลัพท์การเรียนรู้โดยกำหนดเป็นระดับผลการเรียนซึ่งสะท้อน ถึงความก้าวหน้า ของผู้เรียน เช่น กำหนดเป็นระบบสัญลักษณ์ ระบบตัวอักษร ฯลฯ
- จากการพัฒนาสมรรถนะหลักของผู้เรียน เป็นไปตามระดับความสามารถ (ระดับต้น กำลังพัฒนา สามารถและเหนือความคาดหวัง)
โครงสร้างเวลาเรียน(ร่าง)ช่วงชั้นที่ 1 (ประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 3)
โครงสร้างเวลาเรียน(ร่าง)ช่วงชั้นที่ 2 (ประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6)
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของเด็กไทยในโลกปัจจุบัน จากเดิมที่มีสมรรถนะ 5 ด้าน ได้ปรับให้เป็นสมรรถนะ 6 ด้าน
- การจัดการตนเอง
- การคิดขั้นสูง
- การสื่อสาร
- การรวมพลังทำงานเป็นทีม
- การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง
- การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน
ซึ่งการเพิ่มสมรรถนะ “การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน” มีเป้าหมายเพื่อให้เด็กไทยมีสมรรถนะทั้งด้านวิทยาศาสตร์ รู้เท่าทันเทคโนโลยีดิจิทัล และอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน
หลักสูตรฐานสมรรถนะถูกคิดค้นขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เข้าถึงหลักสูตรที่เหมาะกับนักเรียนจริง ๆ และได้ความรู้ ทักษะ เพื่อนำไปปรับใช้ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด และให้นักเรียนได้พัฒนาสมรรถนะที่เหมาะสมกับตนเอง โดยในวันที่ 11 ตุลาคม ทางรัฐมนตรีวา่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะมีการประกาศความพร้อมของการนำหลักสูตรฐานสมรรถนะในช่วงชั้นต้นไปใช้ในโรงเรียนนำร่อง 265 โรง เพื่อทำการวิจัยเพื่อนำผลการวิจัยมาสรุปรวมกับผมการรับฟังความคิดเห็นและจากการรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถาม (คลิก) จากข้อมูล 3ทางนี้ จะมีคุณค่าและประโยชน์ในการพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะ