มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (St. George’s University: SGU) ในประเทศเกรเนดา เวสต์อินดีส ประกาศรับนักศึกษาแพทย์ชาวไทยที่มีความมุ่งมั่นทะเยอทะยาน เพื่อศึกษาที่มหาวิทยาลัย นอร์ทธัมเบรีย (Northumbria University) อันนับเป็นการกรุยทางเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เริ่มต้นอาชีพแพทย์ในสหราชอาณาจักร ความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ กับมหาวิทยาลัยนอร์ทธัมเบรียเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติ รวมทั้งนักศึกษาไทยได้มีโอกาสใช้ชีวิตในเมืองนิวคาสเซิล อะพอน ไทน์ โดยสามารถศึกษาในสหราชอณาจักรได้มากถึง 50% ของหลักสูตร และได้รับปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิต (MD) จาก SGU โดยนักศึกษาสามารถส่งใบสมัครสำหรับปีการศึกษาที่จะเริ่มในเดือนกันยายน 2565 ได้แล้วในตอนนี้ แพทย์หญิงบุญนุช มธุรสตระกูล ซึ่งมีภูมิลำเนาจากประเทศไทยและเป็นแพทย์ที่เพิ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมการแพทยสภากรุงนิวยอร์คกล่าวว่า “ฉันชอบที่จะผจญภัยเพราะฉันอยากเดินทางท่องเที่ยวมากๆ การเรียนที่นี่ได้พาฉันมาที่สหรัฐอเมริกาผ่านทางประเทศเกรเนดา และการใช้เวลาปีแรกในสหราชอาณาจักรที่มหาวิทยาลัยนอร์ทธัมเบรียก็เป็นเหมือนความฝัน สำหรับนักศึกษาไทยที่กำลังพิจารณาก้าวต่อไปถ้าพวกเขาพยายามให้หนักพอ ความฝันของพวกเขาจะกลายเป็นจริงได้” ก่อนที่จะศึกษาที่ SGU แพทย์หญิงบุญนุช มธุรสตระกูล จบการศึกษาจากวิทยาลัยนานาชาติมหิดล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ SGU มีความร่วมมือด้วยเป็นอย่างดี นับตั้งแต่เริ่มเป็นพันธมิตรความร่วมมือในหราชอาณาจักรในเดือนมกราคม 2550 จนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยได้ต้อนรับนักศึกษาแพทย์มากกว่า 2,000 คน รวมถึง 14 คนจากประเทศไทย ที่เดินทางมาเรียนที่นิวคาสเซิลแล้ว วิทยาเขตในเมืองของมหาวิทยาลัยนอร์ทธัมเบรีย เมืองนิวคาสเซิล อะพอน ไทน์ ได้ลงทุนมากกว่า 250 ล้านปอนด์บนที่ดินของมหาวิทยาลัยเองในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่นักศึกษาที่มุ่งหวังจะเป็นแพทย์จากทั่วโลก รวมทั้งจากประเทศไทย เพื่อให้พวกเขาสามารถออกแบบกำหนดอนาคตของพวกเขาได้ นักเรียน SGU ทุกคนอาศัยอยู่ที่ทรินิตี้ สแควร์ ที่พักของมหาวิทยาลัยที่เกตส์เฮด ซึ่งใช้เวลาเดินเพียง 20 นาทีหรือนั่งรถไฟใต้ดินจากวิทยาเขตในเมืองก็ถึงได้อย่างรวดเร็ว “การอาศัยและศึกษาในสภาพแวดล้อมนานาชาติจะทำให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์การศึกษาทางการแพทย์อย่างรอบด้านและพบกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นรากฐานของอาชีพแพทย์ที่ประสบความสำเร็จ” ดร.เจมส์ โคอีย์…