นายเนรมิต ไก่แก้ว นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ประเภทเรื่องสั้น จากการส่งงานเขียนเข้าร่วมประกวดในโครงการประกวดงานเขียน “เกียรตินิยมวรรณศิลป์” ประจำปีการศึกษา 2564 ภายใต้หัวข้อ “ร่วงหล่น” ผลงานเรื่อง “เมื่อสิ้นสดัม เชือกปะกำก็ร้าง สไนก็ไร้เสียง” โดยใช้นามปากกา “เนรมิตร สิทธิศักดิ์” จัดโดย ชมรมวรรณศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับเกียรติบัตรพร้อมเงินรางวัล 1,000 บาท พร้อมหนังสือรวมผลงานที่ได้รับรางวัลและของที่ระลึก เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2565

นายเนรมิต กล่าวว่า หลังจากที่ได้เห็นประกาศ โครงการประกวดงานเขียน “เกียรตินิยมวรรณศิลป์” ประจำปีการศึกษา 2564 โดยชมรมวรรณศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้หัวข้อ “ร่วงหล่น” ผมครุ่นคิดอยู่หลายวันว่าจะเขียนเรื่องสั้นออกมาอย่างไรดี เพื่อให้ตรงกับหัวข้อ “ร่วงหล่น” ซึ่งต้องสื่อความไปรูปแบบของการโรยราตามสัจธรรมของชีวิต พอดีนึกขึ้นได้ว่า เมื่อไม่กี่เดือนก่อนที่จะเขียนเรื่องสั้นนั้น ผมได้มีโอกาสรับฟังเรื่องการออกจับช้างของชาวกูย ที่เล่าโดย คุณตาสุย ประอาง ซึ่งในขณะนั้นถือได้ว่าท่านคือหมอช้างเพียงคนเดียวและคนสุดท้ายของจังหวัดศรีสะเกษที่ยังมีชีวิตอยู่

หากพูดถึงเรื่องชาวกูยจับช้างในจังหวัดศรีสะเกษ เยาวชนรุ่นหลังคงหลงลืมไปหมดแล้วว่า แต่ก่อนนั้น จังหวัดศรีสะเกษก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีความยิ่งใหญ่ในด้านการจับช้าง แต่ทว่าปัจจุบันคงเหลือให้เห็นเพียงร่องรอยของเชือกปะกำที่ใช้จับช้างเท่านั้น ผมจึงคิดว่าเรื่องสั้นที่ชื่อ “เมื่อสิ้นสดัม เชือกปะกำก็ร้าง สะไนก็ไร้เสียง” จะสามารถสื่อความตามหัวข้อ “ร่วงหล่น” ได้เป็นอย่างดี เพราะภายในเรื่องได้กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของการจับช้างของชาวกูย จนถึงความเสื่อมที่ร่วงโรยตามกาลเวลา เพราะเมื่อไม่มีหมอสดัมช้างแล้ว เชือกปะกำและสะไน ที่ยังหลงเหลืออยู่ก็หมดความหมายไปด้วย ส่วนเนื้อหาของเรื่องสั้นเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ผมอยากชวนให้ทุกท่านอดใจรอและคอยติดตามจากโครงการประกวดงานเขียน “เกียรตินิยมวรรณศิลป์” ประจำปีการศึกษา 2564 นะครับ

สำหรับนามปากกาที่ใช้ ผมได้นำนามสกุลเก่าของคุณยายมาต่อท้ายชื่อของผมจึงเกิดเป็นนามปากกา “เนรมิตร สิทธิศักดิ์” นั่นเองครับ

…………………….

ฝ่่ายประชาสัมพันธ์ : ข่าว