กิจกรรมรับน้องควรยกเลิกหรือไปต่อ?- บทสรุปจากผลสำรวจ จาก Eduzones

รับน้อง หรือ กิจกรรมต้อนรับนักเรียนหรือนักศึกษาใหม่ คือ กิจกรรมที่นิสิตรวมถึงนักศึกษาหรือนักเรียนรุ่นพี่ จัดขึ้นสำหรับ นักศึกษาใหม่ที่เข้ารับการศึกษา เป้าหมายเพื่อทำให้นักศึกษาที่เข้าใหม่ได้ทำความรู้จักกับรุ่นพี่ของสถานศึกษานั้น และเรียนรู้วิธีการประพฤติปฏิบัติตัวในสังคมสถานศึกษานั้น แต่ก็ยังมีข่าวรับน้องที่มีการโซตัสออกมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ จนทำให้เกิดประเด็นที่ว่า “กิจกรรมรับน้องควรยกเลิกหรือไปต่อ?”

วันนี้ Eduzones จะมาสรุปผลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “กิจกรรมรับน้องไปต่อหรือพอแค่นี้” จาก Facebook fanpage : Eduzones และ Wiriyah eduzones ซึ่งเมื่อให้แฟนเพจทุกคนมาร่วมแสดงความคิดเห็นก็ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก แต่ผลสำรวจจะออกมาเป็นยังไง ควรยกเลิกหรือไปต่อ? มาร่วมติดตามไปพร้อมกันเลย!

ผลสำรวจความคิดเห็นจาก Fanpage facebook : Eduzones

จากผลสำรวจ Facebook fanpage : Eduzones  โพสเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565 มีผู้แสดงความคิดเห็นทั้งหมด 12 คน ผลสำรวจออกมาว่า

อันดับที่ 1 ผู้คนบอกว่า “ควรยกเลิกกิจกรรมรับน้อง”

ผลสำรวจแสดงความคิดเห็นที่ออกมามากที่สุด คือ ควรยกเลิกกิจกรรมรับน้อง จำนวน 7 คน จากทั้งหมด 12 คน โดยให้เหตุผลว่า

“คนปฏิบัติไม่มีใจในความรักเอื้ออาทรเอ็นดูน้องที่มาใหม่…..ควรยกเลิก…..ครอบครัวที่สูญเสียเค้าได้รับผลกระทบที่ปวดร้าวจิตใจตลอดชีวิตแสนสาหัส”

“ยกเลิกด่วน”

“ยกเลิกเถอะ”

“ถ้าทำเพื่อสนุกควรยกเลิก…การรับน้องนั้นต้องมีหลักการ…ให้ลำบากด้วยกัน ให้อดทนด้วยกัน…ให้รู้สึกเป็นรุ่น…รักสถาบัน รู้จักรุ่นพี่…เกิดความเหนียวแน่นเป็น…Sotus….Seniority Order Tradition Unity และ Spirit…รู้จักกันมีพี่ มีน้อง…นี่คือการรับน้องที่ดีงาม…”

“ยกเลิก”

“ยกเลิกไปเลยค่ะ”

“ยกเลิกค่ะ ไร้สาระ”

อันดับที่ 2 ผู้คนบอกว่า “ควรมีกิจกรรมรับน้องต่อ”

     ผลสำรวจความคิดเห็นที่ออกมาอันดับรองลงมา คือ ควรมีกิจกรรมรับน้องต่อ จำนวน 2 คน จากทั้งหมด 12 คน โดยให้เหตุผลว่า

“ควรมี แต่เป็นกิจกรรมเป็นการต้อนรับ ด้วยความอบอุ่น แสดงความยินดี ไม่ใช้ความรุนแรง ทั้งทางร่างกายและจิตใจ”

“ควรจัดภายในมหา’ลัย และมีอาจารย์ดูแล ไม่ควรให้รุ่นพี่ไปจัดกันเองข้างนอก”

นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นอื่นๆที่เป็นการแนะนำวิธีการรับน้องแบบใหม่ โดยใช้พิธีกรรมทางศาสนาเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งมีการแสดงความคิดเห็นว่า

“รับน้องบายศรีสู่ขวัญแบบศาสนาพราหมณ์หรือร่วมจุดเทียนรวมใจแบบศาสนาพุทธ ดีที่สุดแล้วแต่ความสมัครใจ ใครอยากเข้าก็เข้า ใครไม่อยากเข้าก็ไม่ต้องเข้า”

ผลสำรวจความคิดเห็นจาก Facebook : Wiriyah Eduzones

     จากผลสำรวจ Facebook : Wiriyah Eduzones โพสเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 มีผู้แสดงความคิดเห็นทั้งหมด 28 คน ผลสำรวจออกมาว่า

อันดับที่ 1 ผู้คนบอกว่า “มีกิจกรรมรับน้องต่อแต่ควรเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมการรับน้อง”

ผลสำรวจแสดงความคิดเห็นที่ออกมามากที่สุด คือ มีกิจกรรมรับน้องต่อแต่ควรเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมการรับน้อง จำนวน 12 คน จากทั้งหมด 28 คน โดยให้เหตุผลว่า

“ส่วนตัวที่ผ่านการรับน้องมาเมื่อ 25 ปีที่แล้ว มันมีข้อดีข้อเสียของมันอยู่ “บ้าง” แต่ข้อเสียก็เยอะ ถ้าจะมีก็ขอให้ปรับรูปแบบเป็นการสมัครใจ ไม่มีความรุนแรง ให้พี่กับกับน้องและเพื่อนๆรุ่นเดียวกันทำกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ ครู อาจารย์ ผู้ปกครอง สามารถตรวจสอบได้ อย่างน้อยๆ ชีวิต Freshy ควรมีสักครั้งที่ได้สัมผัสครับ”

“การรับน้องที่สนุกคือดี ไม่ควรมีความรุนแรง”

“ถ้าจะจัด ครูอาจารย์ก็ควรจะสร้างความรู้ ความเข้าใจ และนำรุ่นพี่จัดอย่างถูกต้อง มันอาจจะใช้เวลาสักห้าปีสิบปีกว่าที่วัฒนธรรมเหล่านี้จะกลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น และวางใจให้รุ่นต่อ ๆ ไปทำด้วยตัวเองได้ คำถามคือแล้วบุคลากรเหล่านี้มีความพร้อมที่จะลงมาด้วยหรือไม่ ถ้าไม่ก็ไม่ต้องจัด มิใช่บอกปัดว่าถ้าแอบจัดจะไม่รับผิดชอบ บทลงโทษชัดเจนว่าไม่เล่นด้วย / ไม่ว่ารับน้องหรือระบบโซตัสก็มีจุดดีหากใช้ด้วยความรู้ความเข้าใจ ระบบนี้มีความแข็งแกร่งในการทำงานมาก แต่มันก็มีข้อเสียมหันต์เหมือนกัน ส่วนตัวแล้วอยากให้คนจัดศึกษาโซตัสให้เข้าใจถึงแก่นก่อน รับน้องมันเป็นมากกว่ากิจกรรม สำหรับบางคนมันส่งผลต่อทั้งชีวิตเขาเลยทีเดียวครับ”

“ไม่ต้องยกเลิกครับ แต่แจ้งสิทธิให้เด็กทุกคนทราบตั้งแต่แรกว่า ปฏิเสธการเข้าร่วมกิจกรรมได้ ไม่มีผลต่ออะไรทั้งสิ้น หากถูกคุกคามกดดันด้านใดก็ตาม ทั้งทางวาจา หรือร่างกาย ให้ฟ้องเอาผิดรุ่นพี่ได้ โดยสถาบันเปิดสายด่วน แจ้งเรื่องร้องเรียน พี่รังแกน้อง ไว้ครับ เดี๋ยวมันจะเลิกประเพณีนี้กันไปเอง เลิกมีรุ่นพี่ รุ่นน้องด้วย”

“รับน้องแบบเป็นกัลยาณมิตร เลิกระบบว้าก เลิกข่มขู่ หยุดการทำร้ายร่างกายและจิตใจน้อง เลิกสร้างปมที่ทำให้เกิดความคับแค้นข้องใจกัน ทำกิจกรรมสร้างสรรค์สร้างความสัมพันธ์รุ่นพี่กับรุ่นน้อง ไอ้ที่รุมเตะกันจนถึงตายนี่เตรียมติดคุกเถอะ”

“จัดเป็นชมรมอาสาดีกว่าครับ รุ่นพี่ช่วยรุ่นน้อง ในด้านกิจกรรมและการเรียน รุ่นน้องเลือกเข้าได้ตามความต้องการ เข้าก็ได้ประโยชน์ ไม่เข้าก็ไม่เป็นไร ที่ผ่านมา เหมือนหาทาส สนองอารมณ์”

อันดับที่ 2 ผู้คนบอกว่า “ควรยกเลิกกิจกรรมรับน้อง”

ผลสำรวจแสดงความคิดเห็นที่ออกมาอันดับรองลงมา คือ ควรยกเลิกกิจกรรมรับน้อง จำนวน 5 คน จากทั้งหมด 28 คน โดยให้เหตุผลว่า

“ควรยกเลิกค่ะ ถ้ามีควรอยู่ในการกำกับดูแลของคณาจารย์”

“พอค่ะ”

“ยกเลิกโดยเด็ดขาด และมีกฎหมายรองรับ สูญเสียไปกี่คนแล้ว ยังคิดกันไมได้อีก”

“ตราบเท่าที่กิจกรรมรับน้องยังหาสาระเพิ่มความเป็นพี่น้องของคณะไม่เจอ ก็อย่าจัดให้รุ่นน้องมันเกลียดรุ่นพี่มากขึ้นเลย”

“ผมเป็นหัวหน้าองค์การนักศึกษาก็จริง แต่ลึกๆในใจอยากให้ยกเลิกมากๆครับ”

“เขายกไปนานแล้วนะ”

    

นอกจากนี้ยังมีการแสดงความคิดเห็นอื่นๆเสริมเข้ามาด้วย เช่น

“รับน้องอยากให้น้องรักหรือน้องเกียจ” “ไม่สนใจว่าจะรัก หรือ เกลียด แค่เคารพ นอบน้อมรุ่นพี่ คือสิ่งที่ต้องการ”

“การรับน้อง มันควรจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการที่จะอยู่ร่วมกันระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง ให้รักสามัคคีกันมากกว่า”

“ตราบใดที่ยังมีอาจารย์อยากให้เด็กเคารพตัวเองโดยไม่ต้องออกแรงเอง ตราบนั้นโซตัสจะยังอยู่”

จากการสรุปผลสำรวจเรื่อง “กิจกรรมรับน้องไปต่อหรือพอแค่นี้” นั้นได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีทั้งคนที่อยากให้ยกเลิกกิจกรรมรับน้องและคนที่อยากให้มีกิจกรรมการรับน้องต่อ ซึ่งทุกคนก็ได้แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ

สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีกิจกรรมการรับน้อง การเคารพสิทธิของบุคคลอื่นก็มีความสำคัญนะคะ ควรให้เลือกทำสิ่งๆนั้นตามความสมัครใจ ไม่ใช้การบังคับขู่เข็ญ และที่สำคัญไม่ควรสนับสนุนความรุนแรงอีกด้วยค่ะ และเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ชาว Eduzones ล่ะคะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมการรับน้องยังไงกันบ้าง? สามารถComment กันเข้ามาได้นะคะ!!

สามารถติดตามข่าวสารการศึกษาได้ที่ Facebook Fanpage : Eduzones Website : www.eduzones.com

Twitter : @eduzones วันนี้ Eduzones ขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ😊

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *