แก้ “หนี้ครู” คืบหน้า ศธ. จัดตั้งสถานีแก้ครูไปแล้วกว่า 558 สถานีทั่วประเทศ — 17 มิถุนายน 2565

แก้ "หนี้ครู" คืบหน้า ศธ. จัดตั้งสถานีแก้ครูไปแล้วกว่า 558 สถานีทั่วประเทศ — 17 มิถุนายน 2565
แก้ “หนี้ครู” คืบหน้า ศธ. จัดตั้งสถานีแก้ครูไปแล้วกว่า 558 สถานีทั่วประเทศ — 17 มิถุนายน 2565

 

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูทั้งระบบตามนโยบายของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งประกาศให้ปี 2565 เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน”

 

กระทรวงศึกษาธิการได้เร่งขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการดำเนินตามมาตรการ  7 เรื่อง ได้แก่

  1. การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ให้สมกับเป็นสินเชื่อสวัสดิการ
  2. ตัดเงินเดือนของข้าราชการ การทำให้ครูมีเงินเหลือใช้หลังจากชำระหนี้ ไม่น้อยกว่า 30% หรือไม่น้อยกว่าเดือนละ 9,000 บาท
  3. การคุมยอดหนี้ที่ครูจะสามารถกู้ได้ ไม่ให้เกินศักยภาพที่จะชำระคืนได้ด้วยเงินเดือน
  4. การปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้เจ้าหนี้ทุกรายสามารถแบ่งเงินเดือน 70% ได้อย่างเพียงพอ
  5. การประกาศกำหนดกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตัดเงินเดือน
  6. การแก้ปัญหากรณีครูผู้กู้และผู้ค้ำประกันถูกฟ้องร้องดำเนินคดี
  7. การช่วยครูแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ

 

นายธรกรยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการได้จัดตั้งสถานีแก้หนี้ครูทั่วประเทศแล้ว 558 สถานี

  • ระดับจังหวัด 77 แห่ง
  • ระดับเขตพื้นที่การศึกษา 245 แห่ง
  • ระดับส่วนกลาง เช่น สป. กศน. ก.ค.ศ. สอศ. 236 แห่ง เพื่อให้สามารถรองรับครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือแก้หนี้ 41,128 คน ได้อย่างครอบคลุม

ขณะนี้สถานีแก้หนี้ทุกแห่งกำลังวิเคราะห์ข้อมูล และติดต่อขอข้อมูลจากผู้ลงทะเบียน เพื่อรวบรวม วิเคราะห์ จัดทำข้อมูลการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ขอให้เชื่อมั่นแนวทางดำเนินงานแก้หนี้สินครูทั้งระบบเกิดขึ้นได้จริง เพื่อให้หนี้สินของครูทั่วประเทศที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ 4 แสนคน และที่เกษียณอายุราชการแล้วอีก 5 แสนคน รวม 9 แสนคน รวมยอดหนี้สวัสดิการหักเงินเดือน ข้าราชการ 1.4 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 108 แห่ง ยอดหนี้ 9 แสนล้าน และสถาบัน การเงิน 3 แห่ง ธนาคารออมสินอาคารสงเคราะห์ กรุงไทย ยอดหนี้ 5 แสนล้านบาท ได้รับการแก้ไขตาม แนวทางดังกล่าว โดยมีหนี้เสียหรือเป็น NPLs ไม่เกิน 1-2% เท่านั้น

 

“นายกรัฐมนตรี ตั้งใจขับเคลื่อนโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตครูและครอบครัว ช่วยลดความกังวล ซึ่งจะส่งผลให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สร้างคุณภาพของนักเรียนและเยาวชนของประเทศให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ” นายธนกรฯ กล่าว

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : แนวหน้า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *