สรุปบทสำรวจ การเรียนในห้องเรียน ยังจำเป็นอยู่ไหมในปัจจุบัน แบบสำรวจจากความคิดเห็นชุมชน EDUZONES

การเรียนในห้องเรียน เป็นการเรียนแบบผู้เรียนและผู้สอนได้พบกันแบบต่อหน้า เป็นรูปแบบการเรียนที่ใช้โดยทั่วกันมาอย่างยาวนาน จนมาถึงยุคที่มีการเรียนออนไลน์ขึ้นมาทดแทนการเรียนในห้องเรียน และในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยีเข้าถึงได้ง่ายขึ้น มีแหล่งการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น ผู้คนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองผ่านเทคโนโลยีและสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ จึงเกิดประเด็นคำถามที่ว่า การเรียนในห้องเรียน ยังจำเป็นอยู่ไหมในปัจจุบัน ขึ้นมา

จากผลสำรวจผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Eduzones , Wiriyah Eduzones และ ครู Eduzones โดยเก็บข้อมูลภายในวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 จากความคิดเห็นทั้งหมด 51 ความคิดเห็น พบว่าสามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

 

1.การเรียนในห้องเรียน ยังจำเป็น

         ความคิดเห็นส่วนใหญ่นั้นมีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน คือ การเรียนในห้องเรียนนั้น “ยังจำเป็น” อยู่มาก สำหรับผู้เรียน เพราะการเรียนในห้องเรียนนั้นเป็นการทำให้ผู้เรียนได้ฝึกเข้าสังคม ได้พบปะ สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เพื่อเติบโตขึ้นในอนาคตและต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น การเรียนในห้องเรียนจึงเปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นในการฝึกให้ผู้เรียนได้เข้าสังคม การเรียนในห้องเรียนนั้นทำให้ผู้เรียนได้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับเนื้อหาและผู้สอนมากกว่าการเรียนในรูปแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะกับผู้เรียนที่เป็นเด็กเล็กนั้น การเรียนในห้องเรียนถือว่าจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ผู้ปกครองสามารถฝากบุตรหลานให้ครูช่วยดูแลได้ขณะที่ออกไปทำงาน และหลายความคิดเห็นได้กล่าวว่าการเรียนในห้องเรียนไม่ควรมีผู้เรียนเยอะจนแออัด ควรมีจำนวนที่เหมาะสม อยู่ในอัตราที่ครูสามารถดูแลได้ทั่วถึง การเรียนในห้องเรียนจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างความคิดเห็น

จำเป็นเพราะ เด็กต้องได้ฉลาดทั้ง IQ และ EQ ต้องได้เรียนรู้มารยาททางสังคมอม เริ่มจากสังคมในห้องเรียน”

– “จำเป็น เสมือนเป็นสถานที่ที่พบปะ เพื่อการสร้างปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนระหว่างกัน ที่มิใช่เพียงแค่ การเรียน การสอน หนังสือ ความรู้ เท่านั่น”

– “จำเป็นค่ะ เพราะเด็กต้องเรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคม เติบโตไปในอนาคตก็ต้องอยู่และทำงานร่วมกับคนอื่นได้และเรียนรู้วิชาชีวิตในสังคม เพื่อให้มีชีวิตที่มีความสุขตามอัตภาพของบุคคลนั้นๆ โดยไม่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่เข้าใจคนอื่นและสังคมตามความเหมาะสม ช่วยลดอัตตา อีโก้ เท่านี้เขาเหล่านั้นก็สามารถมีความสุขในแบบของตนได้”

– “ช่วงชั้นประถมศึกษายังคงมีความจำเป็นที่ต้องมีรูปแบบของห้องเรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาการเรียนรู้ตามกระบวนการของหลักสูตรครับ.”

– “ไว้หลบแดดหลบฝนครับ”

– “ในประเทศเราอาจยังจำเป็นค่ะ ดูได้จากช่วงโควิดเด็กอ่านหนังสือไม่ได้ ไมสนใจงานที่มอบหมาย เทคโนโลยียังเข้าไม่ถึง ต้องยอมรับในส่วนนี้ก่อนค่ะ”

 

2.การเรียนในห้องเรียน จำเป็นอยู่บ้าง

         ในความคิดเห็นบางส่วนนั้นได้ให้ความคิดเห็นว่า การเรียนในห้องเรียนยัง “จำเป็นอยู่บ้าง” หรือ “จำเป็นน้อยลง” เพราะปัจจุบันนั้นได้มีการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบเพิ่มมากขึ้น เช่น การเรียนออนไลน์ การเรียนนอกห้องเรียน การเรียนด้วยตนเองผ่านสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้หลากหลาย ไม่จำเป็นต้องเรียนในห้องเรียนช่องทางเดียวก็ได้

ตัวอย่างความคิดเห็น

– “ถ้าแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนมีมากและหลากหลายไม่จำกัดเฉพาะในอินเตอร์เนต เช่น พิพิธภัณฑ์ ศูนย์วิจัยที่ให้ความรู้เรื่องต่างๆ หอศิลป์ ศูนย์กีฬา ห้องสมุดที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ทันสมัยอัพเดทความรู้มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระจายทั่วประเทศทุกคนเข้าถึงได้ง่าย มีขนส่งสาธารณะราคาถูกคุณภาพดีที่จะพาเด็ก พาคนโตที่สนใจเรียนรู้ไปถึงได้โดยง่าย ห้องเรียนก็จะลดความสำคัญลงได้”

– “แท้จริงแล้ว จะเรียนในห้องเรียน หรือ เรียนเองนอกห้องเรียน ก็ได้ เพราะจริง ๆ แล้ว ตัวผู้เรียนนั้นสำคัญและเป็นผู้กำหนดการศึกษา และเครื่องมือทางการศึกษาล้วนแต่อยู่ภายในตัวผู้เรียนทั้งหมดอยู่แล้ว โรงเรียน ครู ห้องเรียน ล้วนแต่เป็นแสง เสียง ที่ผ่านกระทบประสาทสัมผัสเท่านั้น แต่ความมีสมาธิ สนใจ ตั้งใจ การประมวลผลตีความจากประสาทสัมผัส เป็นของผู้เรียนที่กำหนดเอง ที่โรงเรียน ครู ห้องเรียน ไม่สามารถล่วงเลยเข้าไปได้”

– “เหมือนโลกเรามีโทรทัศน์​ก็ไม่ต้องเลิกฟังวิทยุ เอาไว้ใช้เป็นทางเลือก

ใช้เวลา​ที่อยากใช้”

– “มีความจำเป็นน้อยมาก เด็กต้องเรียนโดยการสร้างประสบการณ์ตรง ฝึกคิด ฝึกทำ สร้างองค์ความรู้ได้เอง”

– “ต้องนิยามคำว่า ห้องเรียน ก่อน สมัยหนึ่งที่มีการปฏิรูปการศึกษาเมื่อ 2542 พูดกันว่า ที่ไหนที่มีกิจกรรมการเรียนรู้ ที่นั่นก็เรียก ห้องเรียน แต่ถ้านิยามว่า ห้องเรียน คือ ห้องสี่เหลี่ยม และในห้องเรียนนั้นอัดแน่นไปด้วยนักเรียน 56 คน ในโรงเรียนขนาด 3500 คน ต่อให้มีหลักสูตรสมรรถนะ ก็ไม่มีทางทำให้บรรลุอะไรได้เลย ห้องเรียนในนิยามแบบหลังนี่เองที่ความจำเป็นลดลง สู้ห้องเรียนในชนบทขนาด 12 – 18 คน ต่อห้องเรียนไม่ได้เลย”

 

3.การเรียนในห้องเรียน ไม่จำเป็น

         กลุ่มที่ให้ความคิดเห็นว่า การเรียนในห้องเรียนนั้น “ไม่จำเป็น” โดยให้เหตุผลว่าปัจจุบันมีรูปแบบการเรียนที่หลากหลาย เป็นยุคที่สามารถเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ง่าย จึงไม่จำเป็นต้องไปเรียนในห้องเรียน

ตัวอย่างความคิดเห็น

– “ห้องเรียนที่เหมือนเดิมไม่ส่งเสริมความอยากรู้ไม่จำเป็นครับ”

– “น่าจะดีกว่าบางมิติจริงๆ ที่เรียนออนไลน์แทนไม่ได้

แต่ถ้าถามว่า “จำเป็นไหม” ผมว่าไม่จำเป็นแล้วครับ”

– “หลักการใช้สถานที่ที่เรียนรู้ ไม่ใช่ตัวประเด็นสำคัญ ยุคนี้คือยุค5จี ไปแล้ว เพราะเราไปเรียนเพราะต้องการเอาความรู้หรือปัญญา และเอาปัญญาไปแลกเอาเงิน อำนาจและชื่อเสียง ตอนนี้ความรู้และเงินมันอยู่บนอากาศไปหมดแล้ว ห้องเรียนคุณต้องจำเป็นไหม

สิ่งที่มนุษย์จะเรียนรู้แล้วเอาชีวิตรอดพ้นแต่ละมิติหรือยุคได้คือ เรียนตามModelของตนเอง”

– “ไม่ครับ”

– “ความจำเป็นอยู่ที่สังคมส่วนใหญ่ยอมรับหรือไม่ถ้าวันนึงจะไม่มีห้องเรียน

นักการเมืองที่คนส่วนใหญ่ถูกใจมีนโยบายว่าไม่ควรมี ก็ไม่มีก็ได้ค่ะ เพราะเขาจะปฏิรูปอยู่แล้วไม่ใช่หรือ”

 

จากผลการสำรวจประเด็นหลักเรื่อง การเรียนในห้องเรียน ยังจำเป็นอยู่ไหมในปัจจุบัน ได้รับการแสดงความคิดเห็นไปในทางที่หลากหลาย โดยส่วนมากความคิดเห็นมาจากผู้ที่เป็นผู้สอน ซึ่งแสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันคือ การเรียนในห้องเรียนยังจำเป็นมาก ๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้เรียนที่เป็นเด็กซึ่งเป็นวัยที่กำลังต้องการการเรียนรู้และกำลังเจริญเติบโต ยากที่จะเรียนรู้ด้วยตนเอง จึงจำเป็นที่จะต้องเรียนในห้องเรียนที่มีครูเป็นผู้คอยสอนและคอยชี้แนะให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วการเรียนในห้องเรียนยังจำเป็นอยู่ไหม ในยุคที่เทคโนโลยีเข้าถึงง่ายและมีแหล่งการเรียนรู้ที่มากกว่าในห้องเรียนแบบนี้ ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง สามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ที่ คลิก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *