Gourmet & Cuisine Young Chef 2023” ต่อยอดปั้นเชฟ New Gen หน้าใหม่ ป้อนวงการอาหารเมืองไทย

 

         นิตยสารกูร์เมท์ แอนด์ ควีซีน จับมือพาร์ทเนอร์ชั้นนำในธุรกิจอาหารเมืองไทย จัดงานแถลงข่าวการแข่งขัน “Gourmet & Cuisine Young Chef 2023 ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อปั้นยังเชฟรุ่นใหม่ป้อนอุตสาหกรรมอาหาร ปลุกกระแส Soft Power รังสรรค์เมนูสุดพรีเมียมด้วยวัตถุดิบและเครื่องครัวคุณภาพระดับโลก ในวันที่ 12 กรกาคม 2566 ณ บริเวณโซน Central Court ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

           สำหรับการแข่งขัน Gourmet & Cuisine Young Chef เป็นการแข่งขันทำอาหารระดับอุดมศึกษา จัดโดนิตยสารกูร์เมท์ แอนด์ ควีซีนเพื่อเฟ้นหาเฟไทยในกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่มาประดับวงการอาหาร ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท สอดคล้องกับกระแสการเติบโตของตลาดธุรกิจอาหารที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

​         พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยโฉมหน้าทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะไปแข่งขันชิงชัยกันต่อในรอบชิชนะเลิศ ในวันที่ 6 สิงหาคม 2566 The Food School Bangkok ทั้ง 10 ทีมที่เข้ารอบได้แก่ 1) ทีม Burnt  มหาวิทยาลัยสวนดุสิต 2) ทีม HYBRID  วิทยาลัยดุสิตธานี 3) ทีม Origin  วิทยาลัยดุสิตธานี 4) ทีม PIM Power Team สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ 5) ทีม Sulada วิทยาลัยดุสิตธานี 6) ทีม The Gardener   มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 7) ทีมข้าวหน้าเป็ด  วิทยาลัยดุสิตธานี 8) ทีมคาปีบาโจ้  วิทยาลัยดุสิตธานี ศูนย์การศึกษาเมืองพัทยา 9) ทีมดาร์กแคนดี้ วิทยาลัยดุสิตธานี 10) ทีมฮาครื่น    มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

         ภริตา วิริยะรังสฤษฎ์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Gourmet & Cuisine เปิดเผยว่า จากการแข่งขันในปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นศักยภาพของเยาวชนรุ่นใหม่ที่เกินความคาดหมาย ในปีนี้จึงสามารถออกโจทย์ที่มีความชาเลนจ์มากขึ้น ในส่วนของน้องๆ ที่ส่งผลงานเข้าประกวดในปีนี้ก็จะได้เห็นผลงานตัวอย่างจากรุ่นพี่ ทำให้สามารถศึกษาแนวทางโจทย์ ค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ และมีการเตรียมตัวที่พร้อมมากขึ้น สำหรับคอนเซ็ปต์การแข่งขันในปีนี้คือ “Fusion Borderless ให้อิสระในการผสมผสานแนวคิดจากอาหารนานาชาติโดยเน้นที่การใช้วัตถุดิบและอุปกรณ์ตามโจทย์อย่างโดดเด่นและสร้างสรรค์ ซึ่งจะทำให้น้องๆ นำเอาประสบการณ์มาใช้ได้อย่างเต็มที่

         กฤตนัน สนธิจิรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ บรนด์ จำกัด เปิดเผยว่า สินค้าของ Tecnogas เป็นแบรนด์ที่ได้รับมาตรฐานจากอิตาลี มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 50 ปี ในประเทศไทยเองทำตลาดมามากกว่า 30 ปี จึงได้รับความไว้วางใจจากคนไทยทุกรุ่นทุกวัย ในการแข่งขัน Gourmet & Cuisine Young Chef 2023 ทาง Tecnogas มีความตั้งใจให้สินค้าของแบรนด์ซึ่งมีชื่อเสียงด้านมาตรฐาน ความทนทาน ตอบโจทย์การทำอาหารทุกประเภท ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้น้องๆ รังสรรค์อาหาร และยังตั้งใจที่จะร่วมพัฒนา Ecosystem ของเชฟไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากลเพื่อพัฒนาวงการอาหารของไทยต่อไป

         จิรชาญ คัมภิรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาด บริษัท ข้าวมาบุญครอง จำกัด เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ข้าวมาบุญครองเป็นแบรนด์สุขภาพอันดับ 1 ที่มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์วงการเชฟและไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค โจทย์ในการแข่งขันครั้งนี้คือผลิตภัณฑ์ข้าวกล้องหอมใหม่ 100% ถือเป็นความท้าทายให้น้องๆ ได้ประลองฝีมือรังสรรค์ข้าวเพื่อสุขภาพให้น่าสนใจ ผ่านไอเดียความครีเอของคนรุ่นใหม่ เพื่อร่วมรณรงค์ให้ผู้บริโภคหันมากินข้าวที่ดีต่อสุขภาพและอร่อยมากยิ่งขึ้น พร้อมร่วมเป็นกำลังใจให้น้องๆ มาช่วยกันสร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับวงการอาหารไทยและเติบโตไปด้วยกัน

         ยี่หร่าน ศันสนีย์ แกทแทนบี้ เดวี่ส์ กรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ธรรมชาติซีฟู้ด รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า “แซลมอน” ถูกเลือกเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับการแข่งขันในปีนี้ จากการพิจารณาในทุกปัจจัยอย่างถี่ถ้วน อาทิ รสชาติ โภชนาการ ความนิยมจากเชฟและผู้บริโภค แซลมอนจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นที่ยอมรับทั้งในด้านรสชาติที่โดดเด่น ปรุงได้ด้วยเทคนิคและการผสมผสานรสชาติที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้เข้าแข่งขันได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์และแสดงทักษะการทำอาหารได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งที่ดีของกรดไขมันโอเมกา3 และโปรตีนคุณภาพสูง ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับประสบการณ์ในการทดลองปรุงอาหารจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมแบบเดียวกับที่โรงแรมระดับห้าดาวหรือร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์เลือกใช้

         พิสมัย ตันหยง รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดภายในประเทศ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ศรีตรังโกลฟส์” เล็งเห็นถึงศักยภาพและความสามารถของเด็กไทยจึงอยากส่งเสริมทุกความตั้งใจของน้องๆ ให้มากที่สุด ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ถุงมือยางที่มีมาตรฐานด้านอาหารรองรับและได้รับความไว้วางใจในระดับสากล หลักๆ คือมาตรฐาน Food Grade ซึ่งมีบทบาทอย่างมากต่อวงการอาหารในเรื่องของการเสริมสร้างสุขอนามัย มาใช้เป็นส่วนสำคัญในการแข่งขัน ทั้งยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพให้กับผู้เข้าแข่งขัน รวมถึงทำให้อาหารทุกจานปราศจากสิ่งปนเปื้อน กินได้อย่างอิ่มอร่อย มั่นใจไร้กังวล    

         รัตนาวดี หวังพิทักษ์ ผู้ดูแลสินค้าแบรนด์ครีมโอ กลุ่มสินค้าบิสกิต บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การนำขนมพร้อมรับประทานมารังสรรค์เป็นเมนูของหวานจานใหม่แสดงให้เห็นถึง Innovation และความเหนือชั้น เมื่อแบรนด์คุกกี้ครีมโอที่ขึ้นชื่อในเรื่องของช็อกโกแลตคุกกี้สอดไส้ครีมทั้งรสชาติวานิลลาและรสช็อกโกแลต และอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ได้ถูกนำมารังสรรค์เป็นเมนูขนมหวานในรูปแบบใหม่โดยน้องๆ ยังเชฟ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมรสชาติของครีมโอให้โดดเด่นยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการจุดประกายการต่อยอดนำครีมโอมาเป็นวัตถุดิบรังสรรค์เมนูของหวานอื่นๆ ได้อีกมากมาย

         ปริม จิตจรุงพร ประธานบอร์ดบริหาร Allied Metals จาก The Food School Bangkok เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นสถานที่ดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เป้าหมายของ The Food School Bangkok คือการสร้างเชฟมืออาชีพให้กับวงการอาหาร ทางโรงเรียนได้รับเกียรติจากสถาบันสอนทำอาหารระดับโลก 3 แห่งมาสอน คือ Tsuji จากประเทศญี่ปุ่น Alma จากประเทศอิตาลี และวิทยาลัยดุสิตธานี การแข่งขันครั้งนี้จะเป็นเวทีหนึ่งในการค้นหาเชฟที่มีพรสวรรค์และสานฝันให้กับเยาวชนที่มีใจรักในการทำอาหาร ทำให้เรามีเชฟรุ่นใหม่ๆ เข้าสู่วงการมากขึ้น เป็นการต่อยอด Soft Power ของประเทศไทย The Food School Bangkok มีความพร้อมทั้งในส่วนของเครื่องครัวและอุปกรณ์ครัวซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เชฟมืออาชีพใช้ เชื่อว่าน้องๆ ทั้ง 10 ทีมจะได้รับประสบการณ์การแข่งขันทำอาหารที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน

          พัทธนันท์ ธงทอง หรือ “เชฟเมย์” รองแชมป์การแข่งขันรายการ Top Chef Thailand Season 1 ได้ให้คำแนะนำสำหรับน้องๆ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศว่า พื้นฐานของอาชีพเชฟคือต้องรู้จักวัตถุดิบและการเลือกนำมาใช้ เพราะถ้าไม่เข้าใจคุณลักษณะทางกายภาพ รสชาติ เนื้อสัมผัส และกรรมวิธีการประกอบอาหารที่เหมาะสม จะทำให้อาหารจานนั้นออกมาไม่สมบูรณ์แบบ ต่อให้ใช้วัตถุดิบดีและราคาแพงแค่ไหนก็ตาม การแข่งขันในครั้งนี้จึงเป็นพื้นที่พิเศษที่มีไว้ให้คนที่มีความฝันและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ได้มาลองฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ดีกลับไปพัฒนาตัวเอง ถือเป็นโอกาสที่ดีของเด็กรุ่นใหม่ที่ได้เข้ามาเข้าร่วม อยากให้น้องๆ ทุกคน ตั้งใจฝึกฝนให้เต็มที่ เตรียมพร้อมกับโอกาสดีๆ ที่รอเราอยู่ ลงมือทำให้ดีที่สุดในวันที่แข่งขันค่ะ”

         ร่วมส่งกำลังใจให้ทั้ง 10 ทีม และติดตามผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ Gourmet & Cuisine Young Chef 2023 ได้ในวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม 2566 ทาง Facebook : Gourmet&Cuisine และwww.gourmetandcuisine.com พร้อมทั้งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินรางวัล Popular Vote โดยการกดไลค์เพื่อโหวตเลือก 1 ใน 10 ทีมที่ชอบที่สุดได้ตั้งแต่ วันที่ 11-31 กรกฎาคม 2566 ทาง Facebook : Gourmet&Cuisine ประกาศผลรางวัลพร้อมกันในวันที่ 6 สิงหาคม 2566

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *