กทม. โต้ห้องเรียนสู้ฝุ่น ยืนยันวางแผนชัดเจน พร้อมมีแผนสำรองหากงบไม่ผ่าน : 12 กันยายน 2566

.

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ​ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงประเด็นดรามา งบประมาณติดเครื่องปรับอากาศในห้องเด็กเล็ก ว่าทางสำนักการศึกษามีการคำนวณค่าไฟไว้แล้ว เป็น 3 แบบ แบบแรกเป็นการเปิดเครื่องปรับอากาศเวลานอน 2 ชั่วโมง อยู่ที่ประมาณ 12.48 บาทต่อวันต่อเครื่องหรือประมาณ 2,995.2 บาทต่อปีต่อเครื่อง, กรณีที่ 2 เปิดเครื่องปรับอากาศ 4 ชั่วโมง อยู่ที่ประมาณ 24.96 บาทต่อวันต่อเครื่องหรือประมาณ 5,990 บาทต่อปีต่อเครื่อง และสุดท้ายแบบที่ 3 เปิดเครื่องปรับอากาศเวลานอน 8 ชั่วโมง อยู่ที่ประมาณ 49.92 บาทต่อวันต่อเครื่องหรือประมาณ 11,980.9 บาทต่อปีต่อเครื่อง ซึ่งทางกทม. ก็วางแผนใช้งบประมาณจากรัฐบาลมาจัดการค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เป็นงบรายหัว 640,000 ล้านบาท ที่ทางกทม.ใช้ไปเพียง 30% ยังคงมีส่วนที่เหลือเพียงพอค่าไฟอยู่

.

หากยื่นเสนอโครงการนี้ไม่ผ่าน ทางกทม. ก็ใช้แผนสำรอง 2 แผน คือ จะหาวัสดุมาปิดห้อง ในรูอากาศ เช่น หน้าต่าง ม่าน หรือช่องอากาศตรงประตู และใช้พัดลมเพื่อเติมอากาศสะอาด โดยเป็นแผนที่มีการใช้จริงทางภาคเหนืออยู่แล้ว อยู่ในระหว่างพิจารณาว่าใช้วิธีใดเพื่อเรางปิดช่องเหล่านี้ให้เร็วที่สุด อีกแผนคือการโซลาร์เซลล์ตามที่มีการเสนอมาให้กับทางกทม. ซึ่งส่วนนี้คงต้องอาศัยความร่วมมือกับทางเอกชน

.

ส่วน ประเด็นที่งบประมาณดูมากเกินความจำเป็นนั้น เป็นเพราะมีการคำนวณค่าวัสดุอุปกรณ์เพื่อเตรียมความพร้อมห้องเรียน เช่น ค่าผนัง ค่าพัดลมดูดอากาศ ร่วมเข้าไปด้วย จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด

.

นอกจากนี้ ก็ได้มีการยื่นของบประมาณจัดซื้อเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งผ่านการอนุมัติจากสภากทม.แล้ว ที่แยกโครงการเพราะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ และผู้รับเหมาคนละส่วนกัน

.

ปัจจุบัน เด็กเล็กที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรุงเทพประมาณ 82,290 คน ซึ่งมีโครงการที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กเล็ก รวมไปถึงเตรียมปรับปรุง ก่อสร้าง ซ่อมแซมสถานที่ต่าง ๆ พร้อมเตรียมแผนที่จะเพิ่มปริมาณการดูแลเด็กอ่อนให้ได้

.

เอกสารเพิ่มเติม : แถลงข่าวห้องเรียนปลอดฝุ่น_12_กย_66

รับชมแถลงย้อนหลังได้ที่ : คลิก