กระทรวง อว. เร่งใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ลดค่าใช้จ่าย ได้งานรวดเร็ว

กระทรวง อว. เร่งใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ลดค่าใช้จ่าย ได้งานรวดเร็ว

กระทรวง อว. เร่งใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ลดค่าใช้จ่าย ได้งานรวดเร็ว
กระทรวง อว. เร่งใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ลดค่าใช้จ่าย ได้งานรวดเร็ว

กระทรวง อว. เร่งใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ลดค่าใช้จ่าย ได้งานรวดเร็ว

.

เมื่อวันที่ 3 มกราคม น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า อว. ได้ออกประกาศ เรื่องการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์และลายมือชื่อดิจิทัลภายใต้ใบรับรองดิจิทัล Thai University Consortium (TUC) ซึ่งพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เพื่อให้หน่วยงานและสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งในสังกัด อว. สามารถปรับใช้ในงานทางธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานภายใน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งภายใต้ระบบ TUC นี้ อว. จะให้หน่วยงานและสถาบันอุดมศึกษาในสังกัด ติดต่อ (รับ-ส่ง) เอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

.

เช่น ระหว่าง สถาบันอุดมศึกษาด้วยกัน ระหว่างสำนักงานปลัด อว.และสถาบันอุดมศึกษา ระหว่างองค์การมหาชน องค์กรอิสระ และรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น โดยจะเริ่มในปี 2567 นี้ ในกลุ่มเอกสารประเภท หนังสือเวียนแจ้งเรื่องทั่วไป หนังสือตอบโต้ทั่วไป และหนังสือเชิญประชุม อบรม สัมมนา ซึ่งเอกสารเหล่านี้มีจำนวนมาก เมื่อเปลี่ยนมาใช้ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ลายมือชื่อดิจิทัลภายใต้ใบรับรองดิจิทัล TUC นี้ จะช่วยลดการใช้เอกสารกระดาษได้จำนวนมาก ลดค่าใช้จ่าย ทำให้การส่งเอกสารเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง เชื่อถือได้ และป้องกันการสูญหายของเอกสารได้ โดยหากมีหน่วยงานราชการใดสนใจมาขอใช้ระบบนี้ อว. ก็ยินดีให้การสนับสนุน

.

ด้าน ผศ.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายดิจิทัล มข. กล่าวถึงแนวทางการนำระบบการลงลายมือชื่อดิจิทัลภายใต้ใบรับรองดิจิทัล TUC ที่ มข. เป็นผู้พัฒนาและเป็นต้นแบบในการใช้ มาใช้ทั้งกระทรวง อว. ว่า นี่เป็นวิธีการที่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานใน อว. มาก ทำให้การรับส่งหนังสือหรือเอกสารระหว่างกันอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ สามารถตรวจสอบและขยายผลไปสู่การใช้งานในทุก ๆ เอกสารโดยเฉพาะเอกสารสำคัญ เช่น ทรานสคริปส์ หนังสือรับรองต่าง ๆ ใบเสร็จรับเงิน รวมถึงการทำข้อตกลงต่าง ๆ

.

“ที่ผ่านมา มข. ได้นำร่องใช้การลงลายมือชื่อดิจิทัลภายใต้ใบรับรองดิจิทัล TUC ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เป็นจำนวนไม่น้อย เพราะการต้องจัดซื้อลายมือชื่อลักษณะเดียวกันจากผู้ออกใบรับรองดิจิทัลสากลจะมีค่าใช้จ่าย 1,500 ต่อคนต่อปี รวมแล้วต้องใช้งบประมาณถึงปีละ 15 ล้านบาท ซึ่งหากนำการลงลายมือชื่อดิจิทัลภายใต้ใบรับรองดิจิทัล TUC มาใช้ในทุกหน่วยงานใน อว. ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับประเทศชาติได้เป็นจำนวนมาก และยังสามารถขยายถึงนักศึกษาที่ต้องทำธุรกรรมกับมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่สำคัญยังเป็นการสร้างกำลังคนของประเทศที่เข้าใจเรื่องธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้อีกด้วย” ผศ.เด่นพงษ์ กล่าว

.

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : มติชน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *