บ้านสมเด็จฯ เปิดตัวอธิการบดีคนใหม่ “คณกร สว่างเจริญ” พร้อมเปิดงานวันเจ้าพ่อ “ช่วง บุนนาค” ชูนโยบายโกอินเตอร์ขยายความร่วมมือในระดับนานาชาติ

วันที่ 19 มกราคม 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) ผศ.ดร.คณกร สว่างเจริญ ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) ได้เปิดงานวันคล้ายวันถึงแก่พิราลัย สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ประจำปี 2567 ซึ่งเป็นการเปิดงานครั้งแรกหลังการเข้ามารับตำแหน่งอธิการบดี มบส.คนใหม่ โดยมีผู้บริหาร บุคลากร นักศึกษา ศิษย์เก่า นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดย ผศ.ดร.คณกร  กล่าวว่า วันคล้ายวันถึงแก่พิราลัยของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) มหาบุรุษรัตโนดม ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นับเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในอดีตที่จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ยกย่องท่านในหลายด้าน ทั้งด้านความซื่อสัตย์ในการปกครองบ้านเมือง ด้านการทหาร  ด้านการทูตและการต่างประเทศ   ด้านการช่าง ด้านการศาสนา เและ ด้านอักษรศาสตร์และวรรณคดี ด้วยคุณูปการอันเป็นที่ประจักษ์ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณูปการด้านการส่งเสริมสันติวัฒนธรรม การเป็นผู้มีคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริตและความจงรักภักดี การวางรากฐาน ความเจริญให้แก่ประเทศไทย นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่ อันเป็น ส่วนสำคัญที่ทำให้ประเทศสยามในสมัยนั้นเป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ จึงถือได้ว่า มหาบุรุษรัตโนดม (ช่วง บุนนาค) เป็นแบบอย่างของผู้มีธรรมสัตย์สุจริต และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่สยามประเทศ และมหาวิทยาลัย ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ยึดถือแบบอย่างของท่านมาเป็นหลักในการดำเนินงาน และเห็นควรประกาศยกย่องเกียรติคุณของท่านให้เป็นที่ปรากฏโดยทั่วไป

จากนั้นผศ.ดร.คณกร ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์การดำเนินงานหลังเข้ารับตำแหน่งอธิการบดี มบส.คนใหม่ ว่า ตนได้วางแผนยุทธศาสตร์การทำงานไว้เบื้องต้นจะเน้น3 ส่วนก่อน คือ 1. ส่วนของนักศึกษา/บัณฑิต โดยเฉพาะนักศึกษาที่เรียนในสาขาที่ขาดความนิยม ต้องจัดทำหลักสูตรใหม่หรือยุบรวมสาขาวิชาเพื่อสร้างหลักสูตรแห่งอนาคต  และส่งเสริมหลักสูตรสู่คณะให้เป็นวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จ (ต้นแบบครู) แห่งประเทศไทย  การจัดทำหลักสูตรปริญญาควบ/ปริญญาคู่ โดยจะได้วุฒิปริญญาจากมหาวิทยาลัย 2 แห่งหรือมากกว่า ขณะเดียวกันต้องเพิ่มจำนวนการรับนักศึกษาด้วยการพัฒนาแนวทางในการสื่อสารองค์กร การสร้างและสื่อสารแบรนด์และภาพลักษณ์ การสร้างสื่อและการประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยให้มีความชัดเจนและโดดเด่น รวมทั้งส่งหน่วยงานหรือบุคลากรออกไปประชาสัมพันธ์หลักสูตรให้แก่นักศึกษาต่างชาติและเปิดรับนักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนที่ มบส. ที่สำคัญต้องการขยายความร่วมมือไปในต่างประเทศมากขึ้น อย่างประเทศจีนนั้น มบส.มีความสัมพันธ์กันมายาวนานถึง 20 ปี  มีความร่วมมือต่างๆมากมาย และหลังจากนี้มีแผนร่วมกันทำงานในอีกหลายโครงการ และไม่เฉพาะประเทศจีน แต่จะร่วมมือกับประเทศอื่นมากขึ้นด้วย


อธิการบดี มบส.คนใหม่  กล่าวต่อว่า 2. ส่วนพนักงานสายวิชาการ/พนักงานสายสนับสนุน  ทำให้ทุกคนมีความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในอาชีพ ด้วยการสนับสนุนความก้าวหน้าทางวิชาการ โดยมีพี่เลี้ยงแบบตัวต่อตัว สนับสนุนให้บุคลากรทำงานวิจัย ขอทุนวิจัยจากหน่วยงานภายนอก เพื่อผลิตงานวิจัยที่สอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัย ส่งเสริมให้มีการพัฒนาการสอนให้เต็มที่ ลดภาระหรือบทบาทเกี่ยวกับงานเอกสารของผู้สอน และทำงานอย่างมีความสุข  และ3. ส่วนของธุรกิจทางการศึกษา ต้องมีการตรวจสอบ ควบคุม การใช้งบประมาณอย่างละเอียดรอบครอบ เพิ่มโครงการที่มีรายได้ในรูปแบบต่างๆ และลดโครงการที่ไม่จำเป็นหรือไม่เกิดรายได้ให้องค์กรการลดงบประมาณค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นด้านต่างๆ ของมหาวิทยาลัย การนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยเพื่อลดค่าใช้จ่าย เช่น เอกสารดิจิทัลทุกสาขาวิชาพัฒนาโครงการหรือการจัดการอบรมระยะสั้นแบบเกิดรายได้ให้แก่บุคคลภายนอกมหาวิทยาลัย เป็นต้น  นอกจากนี้ต้องขอย้ำวิสัยทัศน์ การทำงาน “พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงและความมั่นคง ให้กับพี่น้องชาวบ้านสมเด็จเจ้าพระยา“

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *