ก้าวทัน…โลจิสติกส์ผลักดันสมุนไพรไทย ไปสู่ตลาดโลก

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สถาบันการศึกษาชั้นนำด้านธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรมบริการในอาเซียน (A Leading University in Trade & Services in ASEAN) ร่วมกับ คณะวิศวะกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (THPD) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งและกระจายสินค้าแบบครบวงจร

มีการจัดงานครบรอบ ๑๐ ปี และ ๒๐ ปี Logistics Engineering UTCC โครงการ THPD x UTCC New Biz & Innovation Idea Hackathon โดยเป็นงานที่ UTCC ได้ร่วมกับไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ได้จัดเสวนาขึ้นภายใต้หัวข้อ “ก้าวทัน…โลจิสติกส์ผลักดันสมุนไพรไทย ไปสู่ตลาดโลก” พร้อมจัดการแข่งขัน “THPD x UTCC & New Biz & Innovation Idea Hackathon” เพื่อค้นหาสุดยอดไอเดียต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ในด้านการให้บริการด้านโลจิสติกส์ ขนส่ง และการกระจายสินค้าแบบครับวงจร ตามนโยบาย Digital Economy

รองศาสตราจารย์ ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเปิดงาน พร้อมกล่าวว่า สาขาวิชาวิศวกรรมโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เราสร้างบุคลากรด้านโลจิสติกส์ออกสู่ตลาดแรงงานแล้วกว่า 2,000 คน ซึ่งเราเน้นทักษะในการออกแบบและวางแผน บริหารจัดการกระบวนการโลจิสติกส์ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน  ซึ่งเรามั่นใจว่าเป็นหนึ่งในสายงานด้านโลจิสติกส์ที่มีความต้องการสูงของตลาดแรงงานและมีเงินเดือนสูง โดยสามารถประกอบอาชีพที่หลากหลายทั้งการเป็นเจ้าของกิจการด้านโลจิสติกส์ วิศวกรจัดซื้อและคลังสินค้า วิศวกรขนถ่ายวัสดุ วิศวกรวิเคราะห์ระบบ วิศวกรพัฒนาระบบธุรกิจ วิศวกรบริหารจัดการวัสดุคงคลัง วิศวกรวางแผนและควบคุมการผลิต ด้วยหลักสูตรที่เราให้นักศึกษาได้ฝึกประสบการณ์กับผู้ที่มีอาชีพด้านนี้โดยตรงจะส่งผลให้นักศึกษาได้นำระบบโลจิสติกส์ของไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น โดยการนำเทคโนโลยี  นวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ มาใช้บริหารจัดการคลังพัสดุ ลดค่าใช้จ่ายด้านขนส่งให้เหมาะสมกับสถานการณ์ธุรกิจ ซึ่ง THPD ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แก่ธุรกิจไทยมาตลอด 10 ปี โดยไม่หยุดที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์มาให้บริการแก่ลูกค้าเช่นเดียวกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ของเราก็ฉลองครบรอบ 20 ปี ที่ได้เปิดการเรียนการสอนด้านโลจิสติกส์ ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่เปิดสอนสาขาด้านโลจิสติกส์ เพื่อสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพเพื่อเข้าสู่โลกธุรกิจและพร้อมจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ระดับโลกที่เชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น

นาย ธวัช จรุงพิรวงศ์ ประธานวิสหากิจชุมชน Thai Herb Center  กล่าวว่า มีความสนใจในสมุนไพรของไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกัญชา เพราะเริ่มสนใจกัญชาจากการเจ็บป่วยของเพื่อน ซึ่งอาการของเพื่อนดีขึ้นหลังจากแพทย์รักษาด้วยกัญชา หลังจากนั้นก็มีการศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง ตั้งแต่กระบวนการปลูก ไปจนถึงช่องทางการส่งออกสู่ตลาดโลก รวมถึงต้องทลายกำแพงการกีดกันทางการค้า ซึ่งปัจจุบันมีการแจกให้มีการทดลองใช้มาแล้วถึง ๖ ปี

นาย แพทย์กิตติ โล่สุวรรณารักษ์ รองผู้อำนวยการสถาบันกัญชาทางการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรหรือยารักษาโรค การขนส่งนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะในกระบวนการผลิตยาหรือสมุนไพรบางชนิด ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อให้ประสิทธิภาพของยาหรือสมุนไพรนั้นไม่เกิดการเสื่อมสภาพลง และจะต้องมั่นใจได้ว่าหน่วยงานที่ขนส่งผลิตภัณฑ์นั้นจะสามารถรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์นั้นเอาไว้ได้ ซึ่งทางไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ก็ถือเป็นระบบขนส่งที่มีความน่าเชื่อถือ และมีคุณสมบัติในการขนส่งรวมถึงรักษาประสิทธิภาพของยาและสมุนไพรให้คงคุณภาพดังเดิม

ดร. พีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น เราได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมพรีเมียร์ สมาร์ท ฟาร์ม (Premier Smart Farm) และวิสาหกิจชุมชนไทยเฮิร์บเซ็นเตอร์ โดยการนำของ ดร.มณิสรา บารมีชัย คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ดร.ภคพงศ์ อมรกุล รองคณบดีฝ่ายวิชาการ  มีคุณธวัช จรุงพิรวงศ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ ให้ความรู้การผลิตกัญชาทางการแพทย์และการผลิตสมุนไพร “ผลไพร”  ได้แก่ ยาน้ำมันนวดผลไพร ยาดมสมุนไพรผลไพรและยาหม่องผลไพร ซึ่งเป็นการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้ดำเนินการปลูกกัญชาทางการแพทย์ตามมาตรฐานระดับสากลจากสถาบัน SGS ประเทศโคลอมเบียและเป็นฟาร์มปลูกกัญชาทางการแพทย์แห่งแรกในทวีปเอเชียที่ผ่านการรับรองมาตรฐานดังกล่าวด้วย ผ่านการรับรองมาตรฐานการปลูกและเก็บเกี่ยวที่ดีเพื่อนำไปสู่การบูรณาการความร่วมมือด้านโลจิสติกส์และด้านวิชาการเพื่อผลักดันและยกระดับสมุนไพรไทยสู่ตลาดการค้าโลก  นอกจากจะมุ่งมั่นผลิตกัญชาทางการแพทย์แล้ว ยังมีความพยายามที่จะยกระดับการผลิตกัญชาทางการแพทย์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์สมุนไพรผลไพร เพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ  ทั้งนี้เพื่อสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจ เรามีเป้าหมายที่ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีการผลิตกัญชาทางการแพทย์ที่มีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญที่ทันสมัย เชื่อว่าจะมีบทบาทสำคัญต่อการผลักดันการผลิตกัญชาทางการแพทย์ทั้งในไทยและในระดับเอเชีย ซึ่งรวมทั้งสมุนไพรอื่นๆ บริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะได้ร่วมมือด้านโลจิสติกส์และด้านวิชาการเพื่อผลักดันและยกระดับสมุนไพรไทยสู่ตลาดการค้าโลกต่อไปในอนาคตให้สมกับที่เราเป็นผู้นำด้านการขนส่ง ‘ส่งยาก ส่งเย็น ส่งใหญ่ ส่งเยอะ ’

นาย ฉัตรชัย พานิชศุภภรณ์ ผู้อำนวยการองค์การควบคุมวัตถุเสพติด ให้ข้อมูลว่า ในส่วนของกัญชานั้น เป็นสิ่งผิดกฏหมายมาแล้วหลายปี แต่ในปี ๒๕๖๒ เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการกัญชา เมื่อมีกฎหมายขออนุญาตปลูกกัญชาได้ แต่การปลูกนั้นต้องมีใบอนุญาตครบถ้วน เพราะยังถือว่าเป็นสารเสพติด จนกระทั่งปี ๒๕๖๕ – ๒๕๖๖ ที่กัญชาถูกกฎหมาย ซึ่งในปัจจุบันไม่มีการควบคุมการปลูก แต่ในส่วนของผู้ประกอบการที่จะมีการส่งออกสารสกัด หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชานั้น จะมีการควบคุมช่อดอกของกัญชาไม่ให้มี THC ไม่เกิน 0.๒ และต้องมีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง

นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในปัจจุบันสมุนไพรไทยเป็นที่น่าสนใจของทั้งคนไทยและตลาดต่างประเทศ และหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับสมุนไพรของไทย และต่อยอดให้เป็นอันดับต้นๆของโลก ส่วนในด้านของการขนส่งยารักษาโรคนั้น มีความสำคัญอย่างมาก เพราะต้องขนส่งด้วยระบบขนส่งที่มีคุณภาพ และสามารถมั่นใจได้ว่ายาจะไปถึงมือของผู้ป่วยโดยที่คุณภาพของยานั้นยังคงเดิมอยู่ ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานแพทย์ใช้ระบบขนส่งยารักษาโรคให้แก่ผู้ป่วยโดยใช้ระบบไปรษณีย์ไทย ซึ่งมีบริการขนส่งยาโดยเฉพาะ จึงมั่นใจได้ว่ายาจะถูกส่งถึงมือผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน และสมุนไพรหลายชนิดก็มักจะอยู่ตามวัดเป็นส่วนใหญ่ ทางวัดไผ่ล้อมจึงมีการปลูกและดูแลรักษาพันธุ์ของสมุนไพรไทยเอาไว้หลายชนิด ซึ่งปัจจุบันวัดไผ่ล้อมก็ถือเป็นแหล่งขับเคลื่อนของสมุนไพรไทย รวมถึงแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนโบราณให้แก่ชุมชนอีกด้วย

ทั้งนี้การแข่งขันไอเดียต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ THPD x UTCC New Biz & Innovation Idea Hackathon” จากผู้สมัครนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย นักศึกษาระดับปวส. นักศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า เพื่อชิงรางวัลและทุนการศึกษามูลค่ารวม ๑๐๐,๐๐๐ บาท และทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นั้น ทีมที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขัน ได้แก่…

ลำดับที่ ๑. ทีม Digiquay จากโรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม

ลำดับที่ ๒. ทีม PNS จากสถาบันการบินพลเรือน

ลำดับที่ ๓. ทีม นวัฒตัวน้อย  จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนได้ทัศนศึกษา ณ ศูนย์กระจายสินค้า บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด อัพเดทเทรนด์แห่งอนาคตของระบบโลจิสติกส์จากกูรูผู้รู้ตัวจริงในระบบอุตสาหกรรม ตลอดจนได้เรียนรู้การทำงานจริงจากทีม Mentor ของไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

สรุป ในการจัดงานเสวนาในครั้งนี้ ได้มอบความรู้ให้แก่ผู้เข้าร่วมมากมาย ทั้งในเรื่องของแนวทางการขับเคลื่อนสมุนไพรไทย ออกสู่ตลาดโลก โดยใช้ระบบ Logistics ของไทยซึ่งก็มีการเติบโตและพัฒนาการให้บริการในหลายด้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความรู้มากมายแก่ผู้ประกอบการ ที่มีความคิดริเริ่มสร้างผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรของไทย โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าร่วมงานเสวนาในครั้งนี้จะได้รับความรู้และแนวทางประกอบอาชีพไม่มากก็น้อย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *