อนาคตดีเริ่มที่มหานคร มหาวิทยาลัยเอกชนที่ไม่ได้มีดีแค่วิศวะ
เมื่อพูดถึงมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ที่มีความโดดเด่นในด้าน คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี,คณะบริหารธุรกิจ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ จะไม่พูดถึงที่นี่ไม่ได้เลย นั่นก็คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร หรือ MUT (Mahanakorn University Technology) ซึ่งม.เทคโนโลยีมหานคร ยังเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนอันดับ 1 ของประเทศไทย จากผลงาน 3 ด้าน คือด้านนวัตกรรม ด้านสังคม และด้านวิจัยด้วยนะ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา
วันนี้ ทาง Eduzones จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ทั้ง 3 คณะสุดฮอตของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ว่าหลักสูตรการเรียนการสอนของที่นี่เป็นยังไง และถ้าน้องๆต้องการจะเข้าเรียนจะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง รวมไปถึงค่าใช้จ่ายคร่าวๆที่น้องๆจะต้องใช้ รวมถึงหอพักด้วยนะ ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเล๊ย
เริ่มกันที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มีการเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 และทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ก็ได้มุ่งเน้นและให้ความสำคัญเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้หลักสูตรที่มีเนื้อหาเข้มข้น และจากการจัดอันดับ 54 Best universities for Engineering in Thailand จาก EduRank มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครยังเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนอันดับ 1 ด้านวิศวกรรมศาสตร์ และยังได้อันดับที่ 17 ของประเทศไทยอีกด้วย คลิกที่นี่เพื่อดูอันดับ
การันตีด้วยผลงานและรางวัล ดังนี้
- พ.ศ.2556 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากผลงานรถไถอัจฉริยะ ในงาน วันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2556
- พ.ศ.2556 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ผลงาน กันไฟ ในกลุ่มสิ่งประดิษฐ์เพื่อการป้องกันและแก้ปัญหาภัยพิบัติและฟื้นฟู
- พ.ศ.2564 นักศึกษาคณะวิศวกรรมเคมี ได้รับรางวัลพระราชทาน เหรียญรางวัลเรียนดีจากในหลวงรัชกาลที่ 10
- พ.ศ.2565 นักศึกษาคณะวิศวกรรมไฟฟ้า ได้รับรางวัลพระราชทาน เหรียญรางวัลเรียนดีจากในหลวงรัชกาลที่ 10
- พ.ศ.2565 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เปิดตัวหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดขนาดเล็ก D-EMPIR Version 4 ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงกลาโหม
ซึ่งหากน้องๆสนใจที่จะสมัครเข้าเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สิ่งที่น้องๆจะได้รับคือการเรียนในหลักสูตรที่มีเนื้อหาเข้มข้น พร้อมใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งภายในห้องเรียนและห้องปฏิบัติการก็ได้ออกแบบให้ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรม เพื่อให้น้องๆได้เรียนรู้เหมือนอยู่ในสถานที่จริง เพื่อเพิ่มทักษะที่มีความจำเป็นกับการทำงานในอนาคตของน้องๆอีกด้วย
จากข้อมูลของสำนักปลัด อซ. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ยังมีนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์มากที่สุดในมหาวิทยาลัยเอกชนอีกด้วย คลิกเพื่อดูอันดับ
เรียกได้ว่าครบครันในใหลายๆด้านเลยทีเดียว และคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีเองก็มีสาขาวิชามากมายให้น้องๆได้เลือกศึกษาตามความถนัดเลยนะ ไม่ว่าจะเป็น
หลักสูตรปริญญาตรี
- สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้ากำลัง
- สาขาวิชาวิศวกรรมสื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์
- สาขาวิชาวิศวกรรมควบคุมอุตสาหกรรมและเครื่องมือวัด
- สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
- สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล
- สาขาวิชาวิศวกรรมกระบวนการและอุตสาหการ (สาขาวิศวกรรมกระบวนการ)
- สาขาวิชาวิศวกรรมกระบวนการและอุตสาหการ (สาขาวิศวกรรมอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์)
- สาขาวิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์และออโตเมชัน
- สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (สาขา Embedded loT and Network)
- สาขาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (สาขา Data science and System Management)
- สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมโมบายซอฟต์แวร์
- สาขาวิชาวิศวกรรมเครือข่ายและความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์
- สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัล มัลติมีเดียอาร์ต
หลักสูตรปริญญาโท
- สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
- สาขาวิชาเทคโนโลยีและการจัดการพลังงาน
- สาขาวิชาวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารงานก่อสร้าง
- สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล
- สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า (สาขาย่อยของวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์)
- สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า (สาขาย่อยวิศวกรรมระบบวัดคุม)
- สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า (สาขาย่อยวิศวกรรมไฟฟ้ากำลัง)
- สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า (สาขาย่อยวิศวกรรมโทรคมนาคม)
- สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า (สาขาย่อยวิศวกรรมคอมพิวเตอร์)
- สาขาวิชาเทคโนโลยีและสารสนเทศ
หลักสูตรครบครันขนาดนี้น้องๆไม่มาสมัครเรียนไม่ได้แล้วนะ สำหรับน้องๆคนไหนที่สนใจและยังไม่รู้ว่าการสมัครเข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครนั้นมีขั้นตอนยังไง วันนี้ทาง Eduzones ได้รวบรวมรายละเอียดมาไขข้อข้องใจให้น้องๆได้หายสงสัยกันแล้ว
สำหรับวิธีการสมัครเรียนนั้นมีขั้นตอนดังนี้
- สมัครเรียนผ่านเว็บไซต์ mut.ac.th แจ้งข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ คลิกที่นี่
- ลงทะเบียนเรียนด้วยตัวเองที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร อาคาร MII สำนักประชาสัมพันธ์และบริการวิชาการ เปิดรับสมัคร-ลงทะเบียน ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด 9:00-17:00 น.
- ลงทะเบียนเรียนผ่านทางออนไลน์ (แจ้งความประสงค์ ลงทะเบียนเรียนผ่านทางออนไลน์ กับเจ้าหน้าที่02-988-4021-24 ได้ทุกวัน)
- ค่าสมัคร 300 บาท สามารถชำระผ่านธนาคารกรุงเทพทุกสาขา หรือ ที่มหาวิทยาลัยฯ
ในส่วนของค่าเทอมนั้น จะมีความแตกต่างกันไปตามหลักสูตรและสาขาที่เลือก โดยจะเริ่มต้นที่ประมาณ 35,000 – 41,000 บาท ต่อเทอม
หรือหากน้องๆอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคณะวิศวะกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร คลิกที่นี่
เรามาต่อกันที่ คณะบริหารธุรกิจ กันเลยดีกว่าครับ หากน้องๆเลือกเรียนหลักสูตรนี้ น้องๆจะได้ฝึกการสร้างแผนธุรกิจที่น้องๆจะนำไปใช้งานได้จริงครบทุกกระบวนการระหว่างเรียนด้วยตัวน้องๆเอง โดยจะมีคณาจารย์คอยทำหน้าที่ Coach ตั้งแต่ปี 1 ไปจนถึงเมื่อน้องๆจบการศึกษา และนอกจากนี้ ทางคณะบริหารธุรกิจก็ยังได้มีการนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นจุดเด่นของทางมหาวิทยาลัย มาประยุกต์ในการเรียนการสอนอีกด้วย ส่วนด้านผลงานและรางวัลของคณะบริหารธุรกิจ มีดังนี้
หลักสูตรปริญญาตรี
- สาขาวิชาโลจิสติกส์สากลและการจัดการอุตสาหกรรม
- สาขาวิชาการจัดกาและการเป็นผู้ประกอบการยุคดิจิทัล
- สาขาวิชาการตลาดยุคดิจิทัล
- สาขาวิชาการจัดการข้อมูลเพื่อนวัตกรรมทางธุรกิจ
- สาขาวิชาบัญชีบัณฑิต
หลักสูตรปริญญาโท
- สาขาวิชาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
วิธีการสมัครเข้าเรียนมีขั้นตอน ดังนี้
- สมัครเรียนผ่านเว็บไซต์ mut.ac.th แจ้งข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ คลิกที่นี่
- ลงทะเบียนเรียนด้วยตัวเองที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร อาคาร MII สำนักประชาสัมพันธ์และบริการวิชาการ เปิดรับสมัคร-ลงทะเบียน ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด 9:00-17:00 น.
- ลงทะเบียนเรียนออนไลน์ (แจ้งความประสงค์ ลงทะเบียนเรียนออนไลน์ กับเจ้าหน้าที่ 02-988-4021-24 ได้ทุกวัน)
- ค่าสมัคร 300 บาท สามารถชำระผ่านธนาคารกรุงเทพทุกสาขา หรือ ที่มหาวิทยาลัยฯ
สำหรับค่าเทอมของคณะบริหารธุรกิจนั้น อยู่ที่ประมาณ 31,775 บาท ต่อเทอม ทุกสาขาวิชา
หรือหากน้องๆคนไหนอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคณะบริหารธุรกิจ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร คลิกที่นี่
มากันที่คณะสุดท้ายกันเลยดีกว่า กับ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกที่ได้รับการอนุมัติหลักสูตร สัตวแพทยศาสตร์บัณฑิต และภายในห้องที่ใช้ในการเรียนการสอนของคณะสัตวแพทยศาสตร์ นั้นมีให้น้องๆได้เรียนเสมือนปฏิบัติงานจริงกันเลยทีเดียว มีทั้งห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาลสัตว์เล็ก โรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อให้น้องๆที่จะเข้ามาเรียนได้รับทั้งความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาทักษะด้วยการรักษาจริง และนอกจากนี้ ทางคณะสัตวแพทยศาสตร์ยังมีการเปิดสอนในสาขาวิชาการพยาบาลสัตว์ ที่มุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ในทักษะการรักษาที่ใช้งานได้จริง และเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมในการประกอบอาชีพควบคู่กันไปด้วย
ส่วนผลงานและรางวัลของคณะสัตวแพทยศาสตร์ก็ไม่น้อยหน้าคณะอื่นนะ
- พ.ศ.2556 ได้รับรางวัล Special prize ด้านการแพทย์และสุขภาพ ผลงานเรื่อง อุปกรณ์ตรวจจับเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแบบพกพา ด้วย ISFET เซนเซอร์ ในงาน วันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2556
- พ.ศ.2565 นักศึกษา คณะสัตวแพทยศาสตร์ ได้รับรางวัล ต้นกล้าแห่งความดี สาขาเยาวชนดีเด่น
- พ.ศ.2566 ได้รับเหรียญทองแดง รางวัลผลงานนวัตกรรมสายอุดมศึกษา เรื่อง ขุดตรวจอิไลซาที่ผลิตขึ้นเองสำหรับตรวจหาแอนติบอดีต่อเชื้อก่อโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า ในงาน มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2566
หากน้องๆต้องการเข้าเรียนที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ ตลอดหลักสูตร 6 ปีนั้น น้องๆจะได้เรียนรู้สัตว์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ เพื่อให้น้องๆได้เป็นคุณหมอที่รักษาสัตว์ได้ทุกชนิด และสามารถปฏิบัติการรักษา การผ่าตัด พร้อมกับหาแนวทางป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังสัตว์อื่น หรือติดต่อระหว่างสัตว์และคน อีกทั้งน้องๆยังจะได้ศึกษาค้นคว้าเพื่อสร้างสรรค์งานวิจัย เพื่อพัฒนาวิชาชีพสัตวแพทย์ให้เจริญก้าวหน้าอีกด้วย ซึ่งคณะสัตวแพทยศาสตร์ มีสาขาวิชาให้น้องๆได้เลือกเรียน ดังนี้
- สาขาวิชาสัตวแพทยศาสตร์
- สาขาวิชาการพยาบาลสัตว์
ซึ่งหากน้องๆเลือกเรียน สาขาวิชาการพยาบาลศาสตร์ จะมีความแตกต่างกับสัตวแพทยศาสตร์ คือสัตวแพทยศาสตร์ จะเรียนหลักสูตร 6 ปีและได้รับใบประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง ที่ผ่านการรับรองโดยสัตวแพทย์สภา ซึ่งสัตวแพทย์จะมีหน้าที่บำบัดรักษาโรคสัตว์ ส่วนนักการพยาบาลสัตว์ จะเรียนหลักสูตร 4 ปี โดยปฏิบัติงานด้านการพยาบาลสัตว์ในสัตว์เลี้ยง ปศุสัตว์ และสัตว์ป่า เช่น การดูแลสัตว์ขณะเจ็บป่วย เป็นผู้ช่วยผ่าตัด การป้องกันโรคสัตว์ เป็นต้น
ขั้นตอนการสมัครเข้าเรียนสาขาวิชาสัตวแพทยศาสตร์นั้น มีดังนี้
สามารถสมัครเข้าเรียนได้ผ่าน 2 ช่องทาง
ช่องทางที่ 1. รับผ่านทาง TCAS
– การสอบ กสพท. (จำนวนรับ 10 คน)
– การสอบ Admissions (จำนวนรับ 40 คน)
สัดส่วนคะแนนสอบ G-PAX 10%, TGAT 30%, A level (MATH 1) 10%, A level (Chemistry) 20%, A level (Biology) 30%
ช่องทางที่ 2.การรับตรงที่มหาวิทยาลัย (Direct Admission)
– โครงการโควตาพิเศษ (จำนวนรับ 20 คน) >>คลิก<<
– การสอบตรง (จำนวนรับ 30 คน)
สอบในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2567
– เวลา 9:00 – 12:00 น. สอบวิชา ชีววิทยา (60 ข้อ) และ วิชาเคมี (60 ข้อ)
– เวลา 13:00 – 14:30 น. สอบวิชา ภาษาอังกฤษ (60 ข้อ)
(สัดส่วนคะแนนสอบวิชาชีววิทยา 35%, วิชาเคมี 30% และ วิชาภาษาอังกฤษ 35% และ ประกาศผลการสอบคัดเลือก 28 พฤษภาคม 2567)
(ติดตามรายละเอยดเพิ่มเติมจากหน้าเว็บไซต์ของคณะ คลิกที่นี่ )
ขั้นตอนการสมัครเข้าเรียนการพยาบาลสัตว์ มีดังนี้
สมัครเรียนผ่านเว็บไซต์ www.mut.ac.th แจ้งข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ คลิกที่นี่
ลงทะเบียนเรียนด้วยตัวเองที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร อาคาร MII สำนักประชาสัมพันธ์และบริการวิชาการ เปิดรับสมัคร-ลงทะเบียน ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด 9:00-17:00 น.
ลงทะเบียนเรียนออนไลน์ (แจ้งความประสงค์ ลงทะเบียนเรียนออนไลน์ กับเจ้าหน้าที่ 02-988-4021-24 ได้ทุกวัน)
ค่าสมัคร 300 บาท สามารถชำระผ่านธนาคารกรุงเทพทุกสาขา หรือ ที่มหาวิทยาลัยฯ
ค่าเทอมของสัตวแพทยศาสตร์ อยู่ที่ 105,025 บาท ต่อเทอม สาขาพยาบาลสัตว์ อยู่ที่ 47,675 บาท ต่อเทอม
และนอกจาก 3 คณะที่ได้กล่าวมานั้น ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ยังมีหลักสูตร โปรแกรม 2+2 อีกด้วยนะ น้องๆหลายคนคงกำลังสงสัยว่าโปรแกรม 2+2 คืออะไร และเรียนยังไง วันนี้ EDUZONES ได้รวบรวมข้อมูลมาให้น้องๆแล้ว มาดูกันเลย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ได้จัดโครงการพิเศษ 2+2 เรียนต่อปริญญาตรีต่างประเทศกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่ประเทศออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร ในหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งเริ่มต้นเรียน 2 ปีแรกที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร อีก 2 ปีหลังเรียนที่มหาวิทยาลัยคู่สัญญา เรียนจบ 4 ปี ได้ปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยคู่สัญญาปลายทาง ได้แก่
University of New South Wales (UNSW)
James Cook University (JCU)
Oxford Brookes University ตามลำดับ หากน้องๆสนใจสมัครเข้าเรียนหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
หลังจากที่น้องๆได้รู้ข้อมูลต่างๆของแต่ละหลักสูตรในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครกันแล้ว หรืออาจมีน้องๆบางคนสนใจที่จะสมัครเข้าเรียน ทาง EDUZONES ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับหอพักในมหาวิทยาลัยมาฝากน้องๆด้วยนะ
โดยหอพักของมหาวิทยาลัยนั้น มีเพียงหอพักหญิงเท่านั้น เป็นห้องพักขนาด 20 ตร.ม มีสิ่งอำนวยความสะดวก ดังนี้
- เตียงขนาด 3.5 ฟุต
- เครื่องปรับอากาศ
- เครื่องทำน้ำอุ่น
- โต๊ะ – เก้าอี้ทำงาน
- พื้นที่พักผ่อน
- ครัวกลาง
- พื้นที่ส่วนกลาง
- เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ
- CCTV
หอพักในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครนั้น ราคาอยู่ที่ 4,500 บาทต่อเดือน (ค่าประกันแรกเข้า 4,000 บาท)
ซึ่งหากน้องๆคนไหนสะดวกพักอยู่หอพักใกล้มหาวิทยาลัย เราก็ได้รวบรวมห้องพักรอบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครมาฝากน้องๆด้วยนะ คลิกที่นี่
เป็นยังไงบ้างสำหรับการรีวิวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เราเชื่อว่าน้องๆคงจะได้ข้อมูลกันเต็มที่แล้ว หากน้องๆคนไหนสนใจเข้าสมัครเรียน สามารถคลิกลิงก์และกรอกข้อมูลตามที่เราแจ้งไว้ได้เลย และหากน้องๆคนไหนมีข้อสงสัยหรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมัครเข้าเรียนหรือเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม