พี่แฮนด์จะมาแนะนำในภาพรวมนะครับ เพื่อให้น้องๆได้มีข้อมูล เผื่อไว้ได้อ่านเตรียมตัวกันก่อนที่จะเลือกอันดับ เลือกคณะกันในเดือนหน้า ซึ่งน้องๆต้องไปศึกษารายละเอียด ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อโอกาสของน้องๆเองนะครับ
.
1. การเลือกมี 10 อันดับ #ติดตามลำดับที่เลือก ที่เดียวเท่านั้น! ติดอันดับ1 ที่เหลือตัดทิ้ง ไม่ติด1 ดูอันดับต่อไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นถ้ารักจริง อันดับต้นๆ อย่ามองว่าเสี่ยง จำไว้  “เลือกคือมีโอกาส ไม่เลือกเลย โอกาสเป็นศูนย์เน้อ‬”
.
‪2. #การดูคะแนนต่ำสุด ในปีที่ผ่าน ๆ มา ที่สอบติดเป็นวิธีที่ดูได้ครับ แต่ไม่ใช่ทุกมหาวิทยาลัยจะมีให้ดู และบางมหาวิทยาลัยถึงแม้จะมีให้ดูก็ไม่ใช่ดูแค่อย่างเดียว ต้องดูคะแนนเกณฑ์คัดเลือกที่ใช้ด้วยว่าปีนี้คะแนนเฉลี่ยแต่ละวิชามีแนวโน้มขึ้นลงอย่างไร/ดูจำนวนรับสาขาที่จะสมัคร/จำนวนผู้สมัคร/ พวกนี้ประกอบกันด้วย

และอย่าลืมว่า  คะแนนต่ำสุดไม่ได้เป็น #คะแนนที่คงที่ มันเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้‬ การดูย้อนหลังควรดูย้อนหลายปี แล้วให้นึกภาพคะแนนเป็นเส้นกราฟ ถ้าเส้นนิ่ง ๆ มาตลอด แล้วคะแนนเราเหนือกว่าเส้น ถือว่ามีโอกาสติดสูงครับ‬
.
3. ‪สาขาที่คะแนนต่ำสุดปีที่ผ่านๆมาเหวี่ยงๆ มองดูเหมือนเป็น #กราฟขึ้นๆลงๆ ต้องดูให้ดี ถ้ามีที่แล้วต่ำ ปีนี้มีสิทธิ์สูงขึ้น เพราะคนจะกล้าเลือกมากขึ้น ไม่ควรไว้อันดับท้าย ๆ ยกเว้นว่าคะแนนเราดีพอ ‬
.
‪4. เพราะฉะนั้นการเลือกอันดับให้เซฟ ๆ ควรดูว่าอันดับท้าย ๆ เช่น ตั้งแต่อันดับ 4-5 ลงไป(ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเลือกกี่อันดับ) เรามีคะแนนที่มากกว่าคะแนนต่ำสุดย้อนหลังหลายปีมากพอ หรือเป็นคณะที่ดูแล้วคะแนนต่ำสุดย้อนหลังเป็นกราฟเส้นตรงมั้ย แต่เกณฑ์คัดเลือกของรอบ3 คะแนนต่ำสุดบางมหาวิทยาลัยไม่ได้เปิดให้ดูย้อนหลัง น้องๆอาจพิจารณาจาก ความนิยมของสาขาหรือมหาลัยได้‬ประกอบกันได้ หรือดูจากสิ่งที่บอกไว้ในข้อ2 คือพวกคะแนนสอบ จำนวนรับ เทรนด์
.
‪5. จำนวนรับ มีผลมาก ต่อคะแนนต่ำสุด เช็กย้อนหลังดีๆ ถ้าปีนี้รับน้อยกว่ามีที่แล้วมาก อาจมีผลให้คะแนนต่ำสุดคณะนั้นสูงขึ้น เพราะอัตราการแข่งขันน่าจะสูงขึ้น ไม่ควรไว้ใจ เลือกไว้ในอันดับท้ายๆ ถึงแม้เราจะคะแนนสูงกว่าคะแนนต่ำสุดเยอะ‬
.
‪6. #เกณฑ์คัดเลือก ของรอบที่3 นั้น มหาวิทยาลัยจะเป็นผู้กำหนด เพราะฉะนั้นน้อง ๆ เช็กดีๆ แต่ละคณะของมหาวิทยาลัยเกณฑ์ไม่เหมือนกัน เช็ก เรามีคะแนนครบมั้ยตามที่เกณฑ์คัดเลือกระบุไว้ อย่าคิดจะเลือกโดยที่ไม่มีคะแนน เพราะถึงแม้ปีนี้ ทปอ. จะเปลี่ยนกฎให้ที่ถึงแม้ไม่มีคะแนนบางวิชาที่ใช้ในการคัดเลือก(มีวิชาไม่ครบ) ก็สามารถให้ยื่นสมัครได้ แต่ถ้าพูดถึงความเป็นจริงหากเราขาดวิชาใดวิชาหนึ่งไปที่ใช้ในเกณฑ์คัดเลือก ก็เท่ากับเราจะขาดค่าน้ำหนักที่ใช้ในวิชานั้นไปเลย เท่ากับจะมีโอกาสยากมาก ๆ ในการติด อาจทำให้เสียโอกาสในการเลือกอันดับไปเสียเปล่า

ส่วนเรื่องเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำ น้อง ๆ ควรจะเช็กก่อนยื่นสมัครว่าคณะที่เราจะเลือกมีเกณฑ์ขั้นต่ำมั้ย เรามีคะแนนสูงกว่ามั้ย เพราะหากคณะที่เราต้องการจะยื่นมีกำหนดเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำของบางวิชา ถ้าเราไม่ได้สอบหรือมีคะแนนวิชานั้น ๆ เราจะไม่สามารถยื่นสมัครได้เลย ส่วนหากคะแนนไม่ถึงในปีนี้ก็ดีหน่อยที่ทางระบบของ ทปอ. ระบบจะมีการกรองคะแนนขั้นต่ำให้หากเราไม่ถึงก็จะสมัครไม่ได้
.
‪7.#คะแนนสำคัญกว่าอันดับ ไม่ว่าเราเลือกไว้อันดับไหน ถ้าเราคะแนนสูงกว่าเราติดก่อนครับ เราเลือกไว้อันดับ6 เค้าเลือกไว้อันดับ1 ถ้าเราคะแนนเยอะกว่า แล้วอันดับ 1-5 เราไม่ติด ยังไงเราก็ติดก่อนครับ‬ ยกเว้นบางคณะสาขา ที่จะกำหนดไว้เป็นพิเศษว่าจะเลือกพิจารณาจากคนที่เลือกในอันดับไม่เกินเท่านี้หรือเพิ่มคะแนนให้ถ้าไว้ในอันดับ1 ซึ่งก็น้อยมาก ๆ และส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยจะไม่กำหนดแบบนั้น

น้อง ๆ ไม่ควรจะกลัวเสี่ยงเกินไป โดยไปเลือกคณะ/สาขา ที่กำหนดกติกาแบบนั้นไว้อันดับ1 ถ้า** ไม่ได้มีความรักความชอบที่อยากเรียนจริง ๆ เพราะอย่างที่บอกตั้งแต่ในข้อ1 ว่ากติกาในรอบ3 คือติดตามอันดับที่เลือก เลือกก่อนติดก่อน ถ้าไม่ชอบจริง ๆ จะเป็นการเสียอันดับโดยใช่เหตุ เพราะติดแล้วก็ไม่เรียน สละสิทธิ์อยู่ดี
.
8.#คุณสมบัติ เป็นสิ่งสำคัญ เช็กให้ดีว่าคุณสมบัติเราถูกต้อง คณะที่เราจะยื่นเค้าระบุอะไรไว้บ้าง อ่านให้ดี เอาให้ครบ อย่าให้หลุด อย่าให้พลาด
.
9.เช็กให้ละเอียด รอบคอบ สมัครแล้วต้องยืนยันสาขาและต้อง #จ่ายเงิน การสมัครถึงจะสมบูรณ์ และต้องให้จบภายในกำหนด อย่าให้เลย ไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งเสียดายตอนหลัง ถ้าเราทำไม่ทันตามกำหนดเวลานะครับ
.
10.กลัวไม่กล้าเลือก ถ้ากลัว ก็หาข้อมูลเพิ่ม #ความกลัวมาจากการไม่รู้ ลองดู ลองอ่าน เช็กข้อมูล วิธีการสมัครต่างๆ ให้แม่น ให้เป๊ะ ตัวเองจะเป็นคนที่ช่วยตัวเองได้ดีที่สุดครับ แต่ถ้ายังงง ไม่เข้าใจ ก็สามารถสอบถามได้ที่ IB นะครับ

#Admission #แอดมิชชัน #เลือกคณะ