ไลอ้อน เร่งเครื่องโปรเจกต์ “อาชีวศึกษาระบบทวิภาคี” ก้าวสู่ปีที่ 9 พร้อมผลิตเยาวชนไทยเข้าระบบการเรียนสายอาชีพควบคู่วิชาชีวิต

บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจพัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม มาตลอดระยะเวลา 55 ปี ได้เห็นความสำคัญของการเปิดโอกาสและพัฒนาเยาวชนเข้าสู่ระบบการศึกษา ผ่านการดำเนิน โครงการ “อาชีวศึกษาระบบทวิภาคี” ซึ่งมีเป้าหมายที่จะผลิตบุคลากรสายอาชีวะ ด้วยรูปแบบของการจัดระบบการศึกษาระบบทวิภาคี ในการประสานความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา นับว่าเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนและได้สร้างเยาวชนมาแล้วถึงปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 8 แล้ว เปิดหลักสูตรร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ จ.ชลบุรี ในการจัดการเรียนการสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาวิชาเมคคาทรอนิกส์ โดยมีรูปแบบการเรียนการสอนแบ่งเป็น การเรียนวิชาพื้นฐานที่วิทยาลัย และการเรียนวิชาบริหารชีวิตและฝึกปฏิบัติที่โรงงานโดยทีมพนักงาน บริษัท ไลอ้อนเป็นผู้สอน

นางวราภรณ์ สุนทรเทพวรากุล ผู้จัดการส่วนทรัพยากรบุคคลและธุรการพื้นที่ศรีราชา บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการอาชีวะศึกษาระบบทวิภาคีปีนี้เป็นปีที่ 8 และเดินหน้าสู่ปีที่ 9 โดยในช่วงเดือนธันวาคม 2567 นี้ จะเริ่มเปิดรับสมัครนักเรียนจำนวน 15 คน โดยตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงปัจจุบัน (ตั้งแต่รุ่น 1-8)  มีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการ 85 คน โดยนักศึกษาจบการศึกษาไปแล้วของทั้ง 5 รุ่น มีจำนวน 59 คน และในส่วนที่จบแล้วมาทำงานกับไลอ้อน มีจำนวน 25 คน ปัจจุบันแบ่งเป็น ปวช. ปี 1 จำนวน 9 คน ปวช. ปี 2 จำนวน 9 คน และ ปวช. ปี 3 จำนวน 8 คน ซึ่งนักศึกษาปี 3 ที่จบการศึกษาบางส่วนจะเข้าศึกษาต่อระดับ ปวส. ที่วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ และอีกส่วนหนึ่งจะเข้าสู่โลกของการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ

“สำหรับหลักสูตรยังเป็นหลักสูตรเดิม ซึ่งนโยบายของไลอ้อนมีเป้าหมายที่จะผลิตบุคลากรสายอาชีวะอย่างต่อเนื่อง และสามารถเป็นโมเดลให้กับบริษัทในเครือฯ นำไปต่อยอดได้ และอยากฝากถึงน้อง ๆ เมื่อมีโอกาสได้เข้ามาร่วมโครงการนี้แล้ว ขอให้มีความมุ่งมั่นและความตั้งใจ ซึ่งการจะจบการศึกษาและสำเร็จในโครงการนี้ได้ มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องและตัวแปรที่สำคัญที่สุดคือตัวของน้องเอง” นางวราภรณ์ กล่าว

มีมุมมองของน้อง ๆ ที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการซึ่งถือได้ว่าเป็นรุ่นพี่ และมุมมองของน้องใหม่ที่ได้มาเข้าร่วมโครงการนี้ ได้มาเปิดใจเปิดความรู้สึกที่ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ทาง ไลอ้อน ประเทศไทย เป็นผู้ใหญ่ใจดี ได้มอบให้

นางสาวกุสุมา ขัติภิรส หรือ น้องพลอย คือหนึ่งในผู้ที่ได้สำเร็จการศึกษาจากโครงการนี้ โดยอยู่ในรุ่นที่ 4 และได้ก้าวสู่การทำงานกับ ไลอ้อน ประเทศไทย มาเป็นระยะเวลา 1 ปี กับตำแหน่งเจ้าหน้าที่สายการผลิต 1 (Toothbrush) ในปัจจุบัน ได้เปิดใจว่า เป็นความโชคดีที่ได้ร่วมโครงการนี้ การได้รับโอกาสทางการศึกษาจากไลอ้อน นับว่าช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวและการเป็นพนักงานไลอ้อนทำให้ได้รับประสบการณ์ต่าง ๆ จากรุ่นพี่ ทุกวันนี้ทำงาน มีเงินเดือน สามารถดูแลตนเองและมีเงินส่งให้ครอบครัว ได้การศึกษาที่ดี จนสำเร็จการศึกษา และมาเป็นพนักงานในวันนี้ มีเงินเดือนที่สามารถดูแลตนเองและส่งให้ที่บ้านได้ด้วย รู้สึกดีใจและภูมิใจที่อายุเท่านี้แต่สามารถดูแลตนเองได้ ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวได้ และมีความกล้าที่จะก้าวออกมาใช้ชีวิตด้วยตนเอง เป้าหมายต่อไปอยากเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นเพื่อนำมาต่อยอดกับการทำงานต่อไป สำหรับน้อง ๆ ที่ได้รับโอกาสนี้ อยากให้ตั้งใจทำให้ดี ทำในสิ่งที่ชอบและถนัด ไม่ย่อท้อ เพราะยังมีเด็กอีกหลายคนที่ยังขาดโอกาสนี้อีกมาก

นายเมธัส แซ่โซ้ง หรือ น้องอาร์ท จบโครงการในรุ่น 3 และได้ร่วมงานกับไลอ้อนมาเป็นระยะเวลา 2 ปี กับตำแหน่งปัจจุบัน Dilution Control Operator เปิดความรู้สึกว่า การได้ร่วมโครงการนี้เป็นโอกาสที่ดีในชีวิต ได้ช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อและคุณแม่ ตลอดเวลาที่เรียนแม้จะจากบ้านมาไกลแต่ยังมีพี่ ๆ น้อง ๆ ที่อยู่ด้วยกัน ทำให้รู้สึกไม่เหงา สิ่งที่ได้จากโครงการนี้ นอกจากการศึกษาในห้องเรียนแล้ว ยังได้ลงมือปฏิบัติหน้างาน แก้ไขหน้างานจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในห้องเรียน อยากฝากน้อง ๆ รุ่นต่อไป ถ้ามีโอกาสตรงหน้าแล้วให้คว้าเอาไว้ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน สำหรับที่นี่ให้ประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากห้องเรียนทั่วไป

นางสาวทิพยรัตน์ สมวงษ์ นักศึกษาในโครงการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ปี 3 กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้เข้าโครงการนี้ เพราะโครงการนี้ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองได้ สิ่งที่ได้รับจากที่นี่คือการได้เรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ได้รับความรู้หลากหลายค่ะ ทั้งด้านทำงาน ด้านการเรียนรู้ ด้านการใช้ชีวิต ได้ลงมือปฏิบัติงานจริง 3 ปี กับที่นี่มีความสุขมาก ทุกคนไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการ อาจารย์ เพื่อน พี่ น้อง เป็นเหมือนคนในครอบครัว อยากฝากถึงน้อง ๆ ที่จะเข้าร่วมโครงการในรุ่นต่อ ๆ ไปว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีและให้โอกาสกับเรามาก ๆ สอนทุกอย่างให้กับเรา ทั้งวิชาชีพ วิชาชีวิต เป้าหมายหลังเรียนจบมีแผนจะศึกษาต่อในระดับ ปวส.

นายสุภนัย จิตต์อารี นักศึกษาในโครงการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ปี 3 กล่าวว่า ก่อนเข้าโครงการมีความลังเลว่าจะไปศึกษาต่อที่ไหน เมื่อได้ทราบว่ามีโครงการนี้จากครูแนะแนว มองว่าสามารถช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย และเมื่อเข้ามาเรียนสิ่งที่ได้รับคือทักษะที่มากกว่าคนอื่น เช่น การทำงาน ความคิด การเเก้ไขปัญหาหน้างานจริง จากประสบการณ์ของพี่ ๆ ที่ทำงานจริง เเละมีความเป็นผู้นำเเละกล้าพูดกล้าเเสดงออกในเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น จากที่ก่อนเป็นคนขี้อายมากไม่กล้าพูดต่อหน้าคนหมู่มาก สำหรับเป้าหมายในชีวิต หลังจากเรียนจบมีแผนจะทำงานต่อควบคู่ไปกับการส่งตัวเองเรียน เพื่อลดภาระของทางบ้าน อยากฝากถึงน้อง ๆ ทุกคนที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้ ขอให้ตั้งใจเรียน ถึงจะเหนื่อยเเค่ไหนอยากทุกคนสู้ อย่ายอมเเพ้อะไรง่าย ๆ บางครั้งอาจจะคิดถึงที่บ้านที่ต้องจากครอบครัวมาเเต่เชื่อว่าถ้าเราจบจากโครงการนี้ไปได้เราจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เข้มแข็ง ครอบครัวน้อง ๆ ต้องภูมิใจในตัวเราอย่างแน่นอน

โครงการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ผลิตบุคลากรในสายอาชีพ มุ่งสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนไทย โดยนอกจากจะได้ความรู้ในการเรียนวิชาพื้นฐานสามัญ และวิชาชีพแล้ว สิ่งที่แตกต่างคือ มีการสอนวิชาทักษะการใช้ชีวิต ที่เน้นปลูกฝังด้านคุณธรรมและจริยธรรม ควบคู่กับการเรียนวิชาการ นอกจากการสนับสนุนทุนการศึกษายังให้สวัสดิการระหว่างเรียน ไม่ว่าจะเป็น ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าบำรุงการศึกษา อุปกรณ์การเรียน ชุดนักศึกษา ชุดปฏิบัติการ รถรับส่ง ค่าสาธารณูปโภค ค่าประกันอุบัติเหตุ ที่พัก และรวมถึงการใช้พื้นที่สวัสดิการพนักงาน อาทิ ห้องออกกำลังกาย ลานเล่นกีฬา พักผ่อนในสวนหย่อม เป็นต้น โดยเมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้รับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และได้ใบรับรองการผ่านงาน รวมทั้งยังมีโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทในอนาคต

ติดตามความเคลื่อนไหวและรายละเอียดรวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ทาง FB : LION Goodness Society และ www.lion.co.th

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *