เสียงสะท้อนจากเด็กไทย ปี 2568 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

 

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็กไทยทั่วประเทศ เรื่อง“เสียงสะท้อนจากเด็กไทย ปี 2568” กลุ่มตัวอย่าง เป็นเด็กไทยอายุระหว่าง 6-18 ปี จำนวน 1,030 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม 2568 สามารถสรุปผลได้ ดังนี้

 

1. สิ่งที่เด็กไทยชอบหรือประทับใจที่สุดในวัยเรียน

 

2. นอกเหนือจากห้องเรียน เด็กไทยชอบเรียนรู้จากที่ไหนมากที่สุด

 

3. เด็กไทยคิดว่าตนเองควรมีทักษะอะไรที่สำคัญสำหรับอนาคต

 

4. เด็กไทยอยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงเรื่องอะไร

 

5. วันเด็กปีนี้อยากได้ของขวัญอะไรจากรัฐบาล/นายกรัฐมนตรี

 

6. นอกจากคุณพ่อคุณแม่ ใครคือคนที่เด็กไทยชื่นชมและเป็นแรงบันดาลใจ

 

สรุปวิเคราะห์ผลโพล : เสียงสะท้อนจากเด็กไทย ปี 2568

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็กไทยทั่วประเทศ เรื่อง “เสียงสะท้อนจากเด็กไทยปี 2568” ระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม 2568 กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กไทยอายุระหว่าง 6 – 18 ปี จำนวน 1,030 คน สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า สิ่งที่เด็กไทยชอบหรือประทับใจที่สุดในวัยเรียน คือ การเล่นกับเพื่อน ๆ ในโรงเรียน ร้อยละ 66.21 นอกเหนือจากห้องเรียน เด็กไทยชอบเรียนรู้ จากการดูคลิปหรือเรียนรู้ จากมือถือ/แท็บเล็ตมากที่สุด ร้อยละ 76.99 ทักษะ ที่สำคัญสำหรับอนาคต คือ ทักษะการรู้จักป้องกันและรับมือกับภัยอันตรายทั้งในชีวิตจริงและออนไลน์ ร้อยละ 74.76 ทั้งนี้ เด็กไทยอยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลง คือ โรงเรียนและการเรียนสนุกขึ้น ร้อยละ 61.26 ของขวัญที่อยากได้จากรัฐบาล/นายกรัฐมนตรีในวันเด็กปีนี้ คือ ทุนการศึกษา เงินช่วยเหลือ ร้อยละ 74.37 นอกจากคุณพ่อคุณแม่ คนที่เด็กไทยชื่นชมและเป็นแรงบันดาลใจ คือ ลิซ่า ลลิษา ร้อยละ 47.09 รองลงมา คือ คุณครู ร้อยละ 41.26

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลโพลสะท้อนเสียงของเด็กไทยอายุ 6-18 ปี ว่า “ความสนุก” ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของช่วงวัยนี้ ทั้งการเล่นกับเพื่อนในโรงเรียนและคาดหวังให้การเรียนในห้องเรียนสนุกมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่มุ่งเน้น “เรียนดี มีความสุข” หากสามารถผลักดันให้เกิดขึ้นได้ ย่อมตอบโจทย์ผู้เรียนอย่างแท้จริง ผลโพลยังชี้ให้เห็นว่าเด็กไทยตระหนักถึงภัยมิจฉาชีพออนไลน์ การพัฒนาด้านเทคโนโลยี รวมถึงชื่นชมบุคคลศิลปินระดับโลกอย่าง “ลิซ่า ลลิษา” คุณครู นักกีฬา ไปจนถึงนักการเมืองอย่าง “พิธา” และ “แพทองธาร”

 

นางสาวพรพรรณ บัวทอง
ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
โทร 086-3766533

 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนินทร์ ฐิติเพชรกุล อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต อธิบายว่า การสำรวจนี้สะท้อนประเด็นสำคัญหลายด้านเกี่ยวกับเด็กไทยในปัจจุบัน พฤติกรรมการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงของเด็กไทย คือ เรียนรู้ ผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลจากมือถือหรือแท็บเล็ต ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างชัดเจน แต่ขณะเดียวกันเด็กยังให้ความสำคัญกับการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในโรงเรียน แสดงถึงความจำเป็นในการคงไว้ซึ่ง Social Learning ควบคู่กับ Digital Learning ด้านการตระหนักถึงความปลอดภัย เด็กไทยก็ให้ความสำคัญกับทักษะการป้องกันภัยทั้งในโลกจริงและออนไลน์สูงแสดงถึงความกังวลต่อภัยคุกคามในยุคดิจิทัล และการที่เด็กไทยต้องการทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนแท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์สำหรับเรียนนั้น เป็นการยืนยันว่าความเหลื่อมล้ำทางการศึกษายังคงมีอยู่ สุดท้ายที่เด็กไทยชื่นชมและเป็นแรงบันดาลใจ น่าสนใจที่ศิลปินและนักกีฬาได้รับความนิยมมากกว่านักการเมือง แต่ครูยังคงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของเด็กไทย แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของครูและบุคคลสาธารณะ ยืนยันถึงความสำคัญของตัวแบบทางสังคมต่อการพัฒนาเยาวชนไทย

 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนินทร์ ฐิติเพชรกุล
อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

 

แหล่งข้อมูล : มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *