รู้จักกับ “เฌอปราง BNK48” ไอดอลสายวิทย์ ผู้ใช้ชีวิตดั่งการทดลอง

 

 

หากพูดถึงไอดอลที่โด่งดังที่สุดในยุคนี้ชื่อของ BNK48 วงไอดอลที่รวมสาวๆ ขวัญใจโอตะมากมายก็ต้องติดโผล่มากอย่างแน่นอน โดยเฉพาะชื่อของ captain แห่งวงอย่าง “เฌอปราง” ไอดอลสายวิทย์ขวัญใจน้องๆ หลายคนผู้มีความสามารถรอบด้านทั้งการเรียนและกิจกรรม ไอดอลผู้ใช้ชีวิตของตนเองให้เหมือนกับการทดลอง

 

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

 

เฌอปราง อารีย์กุล หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ แคปเฌอ กัปตันวงไอดอล BNK48 เฌอปรางจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนรุ่งอรุณ และเพิ่งได้เป็นบัณฑิตป้ายแดงจากรั้วมหิดล จากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี

 

เส้นทางที่ดูเหมือนอยู่ห่างกันมากระหว่างวงวารบันเทิงและโลกแห่งวิทยาศาสตร์เริ่มต้นจากความชอบที่จะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ของเธอคนนี้ เฌอปรางเริ่มสนใจด้านวิทยาศาสตร์จากการได้ย้ายเข้าไปเรียนที่โรงเรียนรุ่งอรุณและพบกับครูวิทยาศาสตร์ ที่ชักนำและเป็นไอดอลให้เธออยากเดินทางสายนี้ ประกอบกับที่โรงเรียนมีอุปกรณ์ที่ครบสำหรับการทดลองวิทยาศาสตร์ แต่ยังไม่มีใครในโรงเรียนทำ เธอจึงเป็นคนแรกที่ริเริ่มทำด้วยตนเองเป็นคนแรกในโรงเรียน เริ่มจากการเพาะเลี้ยงพันธุ์ไม้ดอกในขวดโหลที่เธอเริ่มทำทุกอย่างด้วยตนเองจนประสบความสำเร็จออกมาในที่สุด

 

ความชอบในวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการชักชวนจากครูในวันนั้น ทำให้เฌอปรางตั้งเป้าหมายที่จะเข้าเรียนต่อในคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และเธอก็เลือกเข้าเรียนในหลักสูตรนานาชาติ เพราะรู้ว่าตนเองไม่ถนัดทางด้านภาษาแต่คิดว่าในอนาคตภาษาอังกฤษจะจำเป็นอย่างมาก จึงผลักดันตัวเอง พยายามอ่านและสอบภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็น IELTS CU-TEP หรืออื่นๆ จนท้ายที่สุดแล้วก็สามารถเข้าเรียน วิทยาศาสตร์เคมี ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยมหิดลได้ โดยเหตุผลที่เลือกเคมีเพราะเป็นสาขาวิชาที่เป็นพื้นฐานของทุกอย่าง มีทั้งส่วนผสมของเคมีให้จำและมีศาสตร์ของฟิสิกส์ให้ได้คำนวณอีกด้วย

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เฌอปราง วิทย์

 

เฌอปรางชอบวิทยาศาสตร์เพราะการได้ต้องคำถาม ลงมือทดลอง และได้คำตอบจากการทดลองนั้นๆ ซึ่งเธอไม่ได้ทดลองแค่เรื่องราวของวิทยาศาสตร์เท่านั้นแต่เธอยังนำการทดลองมาใช้กับอีกหลายอย่างในชีวิต โดยเธอถือคติที่ว่าถ้าอยากรู้อะไร อยากทำอะไรก็ลงมือทำเลย “ทำให้ดีที่สุดแล้วรอดูผลลัพธ์ของมัน” ความคิดนี้เองที่ส่งผลให้เธอเป็นหญิงสาวที่เก่งไปรอบด้านเพราะเมื่อสนใจอะไรเธอจะลงมือทำมันและไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป ไม่ว่าจะเป็นการไปลงเรียนภาษาญี่ปุ่น การเล่นดนตรี กีฬา รวมไปถึงการอาสาไปเป็นผู้ช่วยอาจารย์ทำงานวิจัย โปรเจคเกี่ยวกับผลงานการทดลองขวดสีน้ำเงิน (The blue bottle experiment) ผลงานต่อยอดจากรุ่นพี่ที่ท้ายที่สุดผลงานนี้ก็ได้รับการตีพิมพ์ลงวารสาร Royal Society Open Science ของสหราชอาณาจักร อีกด้วย

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เฌอปราง บนเวที

 

 

นอกจากนี้เธอยังทำการทดลองมาใช้กับเส้นทางสายใหม่ในวงการบันเทิง กับการเข้ามาเป็นสมาชิกของวงไอดอล BNK48 อีกด้วย โดยเส้นทางสายนี้ของเธอเริ่มจากความชอบในวงรุ่นพี่อย่าง AKB48 เธอจึงอยากรู้ว่ากว่าจะมาเป็นไอดอลที่โด่งดังแบบนี้พวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง เธอจึงนำตัวเองมาทดลองกับเส้นทางสายนี้ แม้จะไม่มีทักษะด้านร้องหรือเต้นเลย แต่ด้วยคติที่ว่า เมื่ออยากรู้อะไรก็ลองทำ และทำให้ดีที่สุดแล้วรอดูผลลัพธ์ เธอจึงเต็มที่กับการฝึกฝนจนผ่านการคัดเลือกจากคนจำนวนมากเข้ามาเป็นสมาชิกแห่ง BNK48 แล้วก้าวมาเป็นกัปตันหนึ่งเดียวของวง

 

นอกจากการตั้งใจและทำอย่างเต็มที่แล้ว สิ่งที่ทำให้เฌอปรางทำทุกอย่างได้มากมายขนาดนี้ ก็คือการจัดสรรเวลาโดยเธอเล่าว่าเธอจะมีสุดหนึ่งเล่มที่จะจัดสรรเวลาในแต่ละวัน แต่ละเดือนว่าต้องทำอะไรตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เขียนว่าในวันนี้เราต้องทำอะไร หรือช่วงที่ทำโครงการช่วงนี้งานควรคืบหน้าอะไรไปบ้างแล้ว พอขยับขึ้นมาเรียนในมหาวิทยาลัยก็ทำตารางชีวิตใน 1 ปีว่าต้องทำอะไรหรือเรียนอะไรบ้าง มีช่วงไหนที่ว่างหรือยุ่ง ถ้าช่วงที่จะยุ่งแล้วก็จะรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนช่วงนั้น เป็นต้น

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เฌอปราง วิทย์

 

และจากการทุ่มเททุกอย่างทำให้ผลลัพธ์ที่เธอได้รับนั้นยิ่งดีเกินคาด เพราะเมื่อเธอกลายมาเป็นศิลปินแล้ว เธอก็ก้าวมาเป็นไอดอลให้กับใครหลายๆ คนและ ทำให้น้องๆ และผู้คนนอกสายงานวิทยาศาสตร์หันมาสนใจวิทยาศาสตร์มากขึ้น และเธอยังได้รับเลือกเป็นทูตของโครงการ เฟมแล็บ (Framelab) การนำเสนอเรื่องราวของวิทยาศาสตร์ระดับโลก เป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปที่ประเทศอังกฤษ  และยังได้่ทราบว่าผลงานวิจัยของเธอมียอดการดาวน์โหลดสูงมากที่สุด ทำให้เธอเห็นว่าเส้นทางทั้งสองนี้สามารถไปด้วยกันและช่วยซัพพอร์ตสิ่งที่เธอต้องการจะเผยแพร่ให้กับคนทั่วไปได้เข้าใจวิทยาศาสตร์เพิ่มมากขึ้นได้ด้วย

 

เพราะเป้าหมายของเธอไม่ใช่แค่การเป็นศิลปินหรือนักวิทยาศาสตร์ แต่เธออยากจะให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ในเมืองไทยขยายวงกว้างมากขึ้น มีบุคลากรที่จะเข้ามาทำงานในสายนี้เพียงพอกับความต้องการ และได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ของบ้านเราที่สามารถทัดเทียมกับต่างชาติได้อีกด้วย

 

และตอนนี้แคปเฌอของเราก็จบการศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยเกียรตินิยมอันดับสองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เห็นแบบนี้ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอคนนี้จึงได้ประสบความสำเร็จทั้งด้านการเรียนและการทำงาน และยังเป็นไอดอลขวัญใจใครหลายคน เป็นเยาวชนตัวอย่างที่ดีทั้งการเรียนและการทำกิจกรรม เพราะเธอได้ทดลองทำในทุกอย่างที่จะได้พัฒนาตนเองอยู่เสมอ และยังมุ่งมั่นกับทุกสิ่งที่อยู่เสมอนั่นเองค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

: https://www.matichon.co.th/uncategorized/news_1326322

: https://www.dailynews.co.th/education/632463

 

 

ขอบคุณรูปภาพจาก

: http://www.soccersuck.com/boards/topic/1811007/1

: https://music.mthai.com/news/newsmusic/302216.html

: http://news.room44.net

: https://www.beartai.com/lifestyle/331024

: https://musicstation.kapook.com/view191205.html

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *