ส่องระบบการศึกษาของญี่ปุ่น…และเหตุผลที่ทำให้การศึกษาญี่ปุ่นถูกยกย่องในระดับเอเชีย

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม เศรษฐกิจ รวมไปถึงระบบการศึกษา ระบบการศึกษาของญี่ปุ่นติดอันดับทั้งในระดับเอเชียแลพระดับโลก วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปรู้จักกับระบบการศึกษาของญี่ปุ่นและเหตุผลที่ทำให้การศึกษาของประเทศนี้ก้าวมาเป็นอันดับต้นๆ ในระดับเอเชียกันค่ะ

 

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ education japan

การศึกษาของญี่ปุ่นนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับคือ ระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง

 

การศึกษาระดับต้น ได้แก่ การศึกษาขั้นอนุบาล ซึ่งเริ่มเข้าศึกษาตั้งแต่อายุ 3 ปีไปจนถึงอายุ 5 ปี และขั้นประถมศึกษา 1-6 ตั้งแต่อายุ 6 ปีไปจนถึง 12 ปีโดยประมาณ

 

การศึกษาระดับกลาง ได้แก่ การศึกษาระดับมัธยมศึกษา ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ มัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี และมัธยมศึกษาตอนปลาย 3 ปี

 

การศึกษาระดับสูง ได้แก่ การศึกษาในมหาวิทยาลัย วิทยาลัย วิทยาลัยเทคนิค และวิทยาลัยอาชีวศึกษา

 

โดยเด็กญี่ปุ่นทุกคนต้องเข้าเรียนตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และถูกกำหนดให้ต้องผ่านการศึกษาภาคบังคับเป็นเวลา 9 ปี คือในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น แต่อย่างไรก็ตาม นักเรียนญี่ปุ่นมากกว่า 97% ก็เข้าศึกษาต่อจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่ง 75 % จะเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายสายสามัญ ส่วนที่เหลือเข้าเรียนในสายอาชีพ เช่น วิทยาลัยเทคนิค และวิทยาลัยอาชีวศึกษา และประมาณ 25.3% ของผู้เรียนจบชั้นมัธยมปลายจะไปศึกษาต่อในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัย ในขณะที่อีกหลายคนเลือกที่จะไปศึกษาในวิทยาลัยระดับอนุปริญญา วิทยาลัยเทคนิค หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษา (หลักสูตรวิชาชีพชั้นสูง)  โดยมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นนั้นได้ชื่อว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่ดีติดอันดับโลกเลยทีเดียว ส่วนเหตุผลว่าทำไมการศึกษาของญี่ปุ่นนั้นถึงติดอันดับโลกและเป็นที่ยกย่องในเอเชียมีด้วยกัน 10 ดังนี้

 

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

  1. คุณลักษณะที่ดีต้องมาก่อนความรู้

 

ระบบการศึกษาในญี่ปุ่นจะไม่มีการจัดสอบใดๆ จนกว่าจะถึงชั้นเกรด 4 หรืออายุประมาณ 10 ขวบ เพราะเขาเชื่อว่า ช่วง 3 ปีแรก ยังไม่ควรมอบความรู้ที่หนักเกินไปให้แก่เด็กๆ แต่เน้นไปที่การสอนให้เด็กรู้จักเคารพผู้อื่น มีความเป็นมิตรที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม การรู้จักรับผิดชอบตัวเองด้วยเรื่องเล็กๆ และยังสอนให้รู้จักกับความยุติธรรมอีกด้วย

  1. ฝึกวินัยจากการทำงานในโรงเรียน

 

เพราะที่โรงเรียนในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่มีภารโรงหรือผู้ดูแลทำความสะอาดให้ นักเรียนทุกคนจึงต้องช่วยกันทำความสะอาด ห้องเรียน โรงอาหาร หรือแม้แต่ห้องน้ำ โดยการสลับกันแบ่งกลุ่มออกไปทำ โดยการศึกษาญี่ปุ่นมีแนวคิดที่เชื่อว่าการฝึกแบบนี้จะสามารถช่วยสอนให้นักเรียนรู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

 

 

  1. สานสัมพันธ์ครูและนักเรียน ด้วยอาหารมื้อเที่ยง

 

นอกจากรัฐบาลจะเล็งเห็นความสำคัญด้านสุขภาพ ด้วยการจัดแจงอาหารมื้อเที่ยงให้ครบ 5 หมู่สำหรับเด็กๆ แล้ว มื้อกลางวันที่โรงเรียนในประเทศญี่ปุ่นในบางโรงเรียนนั้น นักเรียนทุกคนจะได้รับประทานร่วมกันในห้องเรียน พร้อมทั้งคุณครูประจำชั้นด้วย โดยเขาเชื่อว่านี่คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ นักเรียน และคุณครู มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

 

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

  1. ฝึกนักเรียนให้เดินทางไปโรงเรียนด้วยตนเอง

 

โรงเรียนหลายๆ แห่งบังคับให้นักเรียนต้องเดินทางไปเรียนด้วยตนเอง ไม่ว่าจะมีฐานะใดก็ตาม ซึ่งนโยบายนี้ช่วยให้ได้ประโยชน์มากมาย ทั้งลดปัญหาการจราจร สอนให้เด็กรับผิดชอบตนเอง แบ่งเบาภาระหน้าที่ผู้ปกครอง แถมยังส่งเสริมให้เด็กๆ ในละแวกเดียวกันได้รู้จักกันอีกด้วย

 

 

  1. ฝึกการเขียนบทกวี และการเขียนอักษรโบราณด้วยพู่กัน

 

วิชาดั่งกล่าวเปรียบเหมือนดั่งการเรียนวิชาศิลปะในอีกแขนงหนึ่ง ที่นี่เด็กๆ จะได้เรียนการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันลงบนกระดาษสา สำหรับการสอนบทกวี ก็จะเน้นไปที่การให้นักเรียน แต่งบทกวีเพื่ออธิบายความรู้สึกหรือสิ่งที่คั่งข้างอยู่ในใจของตนออกมา ทั้งสองวิชาเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้วัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นยังคงสืบทอดต่อไป และได้เรียนรู้ที่จะเคารพในความคิดที่แตกต่างของคนอื่นอีกด้วย

 

 

  1. เริ่มต้นปีการศึกษาด้วยช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด

 

ขณะที่โรงเรียนและมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในโลก เริ่มต้นปีการศึกษาในเดือนกันยายนหรือตุลาคม แต่ในญี่ปุ่นมักเริ่มต้นการศึกษาในเดือนเมษายน วันแรกของโรงเรียนมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามที่สุด นั่นก็คือ “การเบ่งบานของดอกเชอร์รี่” โดยปีการศึกษาแบ่งออกเป็น 3 ภาคการศึกษาด้วยกัน ได้แก่

 

ภาคเรียนที่ 1 จะเริ่มวันที่ 1 เมษายน – 20 กรกฎาคม

ภาคเรียนที่ 2 จะเริ่มวันที่ 1 กันยายน – 26 ธันวาคม

และภาคเรียนที่ 3 จะเริ่มวันที่ 7 มกราคม – 25 มีนาคม

นักเรียนญี่ปุ่นจะได้รับวันหยุดในช่วงฤดูร้อน 6 สัปดาห์ และยังมีการแบ่งสัปดาห์ในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย

 

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

  1. หลังเลิกเรียน จะมีการ workshops เด็กนักเรียน

 

ในช่วงเย็นกลุ่มเด็กเล็กๆ นักเรียนญี่ปุ่นจะมีการเรียนพิเศษ หรือ workshops เพิ่มเติม ไม่น่าแปลกใจว่านักเรียนในประเทศนี้แทบจะไม่เคยซ้ำชั้นในระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้นหรือโรงเรียนมัธยมกันเลย โดยเกือบทุกโรงเรียนมัธยมต้องการให้นักเรียนของพวกเขาสวมใส่ชุดเครื่องแบบนักเรียน ในขณะที่บางโรงเรียนมีเครื่องแต่งกายของตัวเองแบบดั้งเดิม

 

 

 

  1. อัตราการเข้าเรียน 99.99%

 

ด้วยการฝึกฝนวินัยมาตั้งแต่เด็กทำให้ สถิตินักเรียนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ซ้ำชั้นเรียน ไม่มาโรงเรียนสาย และมีอัตราการเข้าชั้นเรียนที่สูงมาก

 

 

 

เห็นระบบการศึกษาและแนวคิดหลายๆ อย่างของระบบการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นแล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงมีระบบการศึกษาที่ดีติดอันดับโลกและเป็นอันดันต้นๆ ในเอเชีย เห็นแบบนี้แล้วหากใครที่สนใจอยากไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นเข้าไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ การทำวีซ่าในการไปเรียนต่อประเทศญี่ปุ่น  และบทความ อยากเรียนต่อประเทศญี่ปุ่นเรียนอะไรดี? ได้ที่เว็บไซต์ eduzones กันได้นะคะ

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

: https://teen.mthai.com

: http://jeducation.com/main/education/education-in-japan/

 

 

 

ขอบคุณรูปภาพจาก

: https://www.eduzones.com

: https://www.catdumb.com/5-fact-about-japanese-education-420/

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *