แนะ 5 เทคนิค อ่านภาษาอังกฤษให้เข้าใจอย่างรวดเร็ว

ในการอ่านหนังสือสักเล่มในภาษาไทยนั้นเราก็อาจจะเวลาประมาณหนึ่ง แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษโดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยได้อ่านนั้นใช้เวลามากพอสมควรทีเดียว กว่าจะสามารถเข้าใจเนื้อหาต่างๆ ได้เพราะการจะเข้าใจเนื้อหาในหนังสือหรือบทความสักเรื่องในภาษาอังกฤษนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการที่คลังคำศัพท์ที่เรารู้จักนั้นมีไม่มากพอทำให้กว่าจะแปลได้แต่ละประโยคนั้นใช้เวลาไม่น้อย กว่าจะหาคำศัพท์ที่ไม่เข้าใจและนำมาแปล มาสรุปจนบางคนก็เบื่อและไม่อยากอ่านต่อ วันนี้เราจึงมีวิธีในการอ่านภาษาอังกฤษให้รวกเร็ว ลื่นไหล และเข้าใจได้ไวขึ้นมาฝากกันค่ะ

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ reading

1.ทำให้การอ่านทุกครั้งเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข

 

ทำให้ช่วงเวลาในการอ่านของเราเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขอาจจะด้วยบรรยากาศ หรืออาหาร   อย่างเช่น ถ้าเบื่อการอ่านที่โต๊ะในห้องก็ลองเปลี่ยนสถานที่อ่านหนังสือ เป็นสวนสาธารณะที่อากาศดีๆ ร้านกาแฟสวยๆ หรือที่เวิร์คสเปซต่างๆ เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศในการอ่านให้มีมากขึ้น แต่หากเรื่องที่อ่านต้องการความเข้าใจ หรืออ่านเพื่อใช้ในการสอบต่าง ๆ ก็แนะนำให้ปิดการแจ้งเตือนจากโซเชียลมีเดีย และหาที่เงียบสงบเพื่อไม่ให้เสียสมาธิในการอ่านหนังสือ หรือจะลองเตรียมของว่างที่ เครื่องดื่มที่ชอบมารับประทานระหว่างอ่านเพื่อช่วยให้อ่านหนังสือได้นานขึ้น และการอ่าน 30 นาทีต่อวันคือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการฝึก

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ reading

2.อ่านในเรื่องที่เราสนใจ

 

เริ่มหยิบหนังสือภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับสิ่งที่เราสนใจมาอ่าน เพราะถ้าไม่ชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ก็อยู่แล้ว แต่ไปฝืนอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ที่เป็นภาษาอังกฤษก็จะยิ่งทำให้ไม่อยากอ่าน และเรายังไม่มีข้อมูลในเรื่องนั้นๆ ที่จะมาช่วยในการแปลหรือทำความเข้าใจก็จะยิ่งทำให้อ่านได้ช้าและเบื่อได้ง่าย ฉะนั้นในช่วงแรกให้ลองหาหนังสือที่อ่านง่าย น่าสนใจ เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน มาฝึกอ่านช้า ๆ ดูก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยเพิ่มความยากและการอ่านที่เร็วขึ้น

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ vocabulary note

3. เพิ่มคลังคำศัพท์

 

ก่อนอ่านให้ลองกวาดสายตาดูว่าคำไหนบ้างที่ไม่เข้าใจความหมาย และให้บันทึกลงสมุดจดคำศัพท์ แล้วลองอ่านให้จบประมาณหนึ่งย่อหน้า หรือหนึ่งบทแล้วลองทำความเข้าใจในเนื้อหาที่อ่านดูว่าเข้าใจมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่เข้าใจความหมายในเนื้อหาที่อ่านให้เอาคำศัพท์ที่บันทึกไว้มาหาความหมายเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น แนะนำให้นำคำศัพท์ที่บันทึกไว้กลับมาทบทวนหลังจากอ่านจบทุกครั้ง เพื่อให้ในการอ่านในครั้งถัดไปเข้าใจได้เร็วขึ้น และลองอ่านหนังสือให้หลากหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มคลังคำศัพท์ เช่น อ่านหนังสือพิมพ์เพื่อเพิ่มคำศัพท์ในชีวิตประจำวันมากขึ้น เป็นต้น

 

Adult reading

4. อ่านออกเสียงตามไปด้วย

 

อีกวิธีที่ช่วยพัฒนาการอ่าน และการฟังไปพร้อมๆ กัน เพราะทุกครั้งที่ออกเสียงจะเป็นการทบทวนคำศัพท์ไปในตัว โดยถ้าหากเราไม่มั่นใจในการออกเสียงคำไหนก็ให้ลองเปิดดิกชันนารีออนไลน์ฟังการออกเสียงที่ถูกต้อง หรือจะลองเช็คกับเพื่อนชาวต่างชาติ หรือคนรู้จักที่พูดภาษาอังกฤษ ว่าการอ่านออกเสียงของคุณเป็นอย่างไร และเข้าใจในสิ่งที่อ่านหรือไม่

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ reading book

5. อ่านซ้ำอย่างน้อย 2 รอบ

 

เพราะบางครั้งการอ่านเพียงครั้งเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะเข้าใจในเนื้อหาทั้งหมด เพื่อทบทวนเรื่องราวที่อาจที่พลาดไปในครั้งแรก แนะนำให้อ่านซ้ำเพิ่มที่ย่อหน้าเดิมอย่างละ 1 ครั้ง แล้วค่อยอ่านต่อก็ได้หากไม่อยากอ่านใหม่ทั้งเล่มทีเดียว เพื่อให้จดจำและเข้าใจในเนื้อหา ไม่ตกหล่นส่วนใดส่วนหนึ่งไป ให้นำสมุดสักเล่มมาบันทึกระหว่างที่อ่าน นอกจากบันทึกคำศัพท์แล้วให้ลองบันทึกเกี่ยวกับตัวละคร ประโยคที่ประทับใจ หรือส่วนสำคัญในเนื้อหาก็จะยิ่งช่วยให้เข้าใจความหมายและเป็นการฝึกอ่านภาษาอังกฤษที่ได้ผลอีกทางหนึ่งค่ะ

 

 

 

อย่างที่เรามักจะเน้นย้ำกันอยุ่บ่อยๆ ว่า ภาษาทุกภาษานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การจะฟัง พูด อ่านและเขียนในภาษาต่างๆ ได้คล่องนั้นสิ่งที่จะช่วยได้ดีที่สุดคือ การฝึกฝน แม้วันนี้จะยังทำได้ไม่ดีและในวันพรุ่งนี้และวันต่อๆ ไปที่เราได้ฝึกทักษะเหล่านี้ก็จะดีขึ้น หวังว่าเทคนิคที่นำมาฝากกันในวันนี้ก็จะได้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการฝึกฝนการอ่านภาษาอังกฤษของทุกคนนะคะ สู้ๆ ค่ะ

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

: https://www.globish.co.th/

 

ขอบคุณรูปภาพจาก

: https://www.careeraddict.com/reading-jobs

: https://www.bbc.com/news/education-29885222

: https://www.ft.com/content/99936410-fdf8-11e8-aebf-99e208d3e521

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *