8 วิธีพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของคุณให้ดียิ่งขึ้น

ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเป็นอีกหนึ่งทักษะที่จะจำเป็นในการเรียนและการทำงานในอนาคต ซึ่งการที่เราจะอ่านข้อความ หรือเนื้อหาภาษาอังกฤษให้สามารถเข้าใจเนื้อหา และใช้เวลาในการทำความเข้าใจได้ไม่นานนั้นก็ต้องเกิดจากจากหมั่นฝึกฝนภาษาอังกฤษทั้งคำศัพท์ ไวทยากรณ์ หรือรู้จักสำนวนต่างๆ ให้มากพอเพราะทักษะการอ่านและแปลให้ได้ดีนั้นจำเป็นต้องใช้หลายๆ องค์ความรู้ในภาษาอังกฤษประกอบเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังต้องมีการฝึกฝนที่ถูกจุดอีกด้วย วันนี้เราจึงมีวิธีการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษดีๆ มาฝากกันค่ะ

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ read

  1. หาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการอ่านหนังสือ

การอ่านนั้นถ้าเราอยากอ่านแบบพัฒนาทักษะแล้วจะต้องมีสองประเด็นที่สำคัญ คือ มีสมาธิและตั้งใจที่จะเรียนรู้ ซึ่งหมายความว่าเราจะต้องมีช่วงเวลาที่เราอยู่เงียบๆ เพื่อสามารถทำสมาธิ โดยไม่มีสิ่งใดมารบกวน โดยเราควรที่จะมีสมาธิอยู่กับหนังสืออย่างน้อย 30 นาทีในทุกๆ วัน เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านการอ่าน เพราะยิ่งเราให้เวลากับการอ่านที่มากขึ้นเท่าใดก็จะประสบความสำเร็จที่ไวขึ้นเช่นกัน ทำให้การอ่านหนังสือนั้นเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของเราทำจนเป็นกิจวัตร ก่อนเริ่มอ่านให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  • หาสถานที่เงียบๆ แสงไฟสว่างเพียงพอ และที่นั่งที่เรารู้สึกว่าสบายตัว
  • เตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียน เช่น ปากกา ดินสอ สมุดโน้ต เครื่องดื่มให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มอ่านเพื่อที่เราจะได้ไม่เสียสมาธิในการลุกเดินไปหยิบ
  • ตั้งเวลาในการอ่าน (30 นาทีเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มต้นการอ่าน)
  • เครื่องมือสื่อสารให้เปิดในโหมดสั่น ปิดเสียง หรือบางครั้งก็ปิดเครื่อง และก็นำไปไว้ให้ห่างตัวเอง

ขั้นตอนเหล่านี้เป็นการเตรียมพร้อมก่อนที่จะอ่านหนังสือที่จะช่วยสร้างสมาธิให้มากขึ้นได้ เพราะเป็นการบอกกับสมองให้เตรียมพร้อมและสร้างสมาธิในการอ่านนั่นเอง

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ read

  1. อ่านหนังสือให้ถูกเล่ม

ในการฝึกอ่านเราควรเลือกอ่านโดยเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด หากเราไม่ชอบนวนิยายวิทยาศาสตร์ เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านหนังสือเกี่ยวกับการวิทยาศาสตร์ก็ได้ ให้เลือกหนังสือหรือตำราที่เราสนใจ และเช็กดูว่าหนังสือเล่มนั้นเหมาะกับระกับการอ่านภาษาอังกฤษของเราไหม เพื่อให้ได้หนังสือที่เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งจะทำให้เราอ่านอย่างสนุกและมีความสุข แล้วเมื่อไร่ที่ภาษาอังกฤษของเราพัฒนาขึ้นแล้ว ก็สามารถท้าทายตัวเองด้วยการขยับไปอ่านหนังสือที่ยากขึ้นได้ แต่ต้องไม่ยากมากเกินไปจนทำให้เรารู้สึกท้อแท้ในการอ่านด้วยเช่นกัน

เว็บไซต์ออนไลน์ที่รวบรวมหนังสือเกี่ยวกับภาษาอังกฤษที่แนะนำ ได้แก่

  • เว็บไซต์ Listopia ที่รวบรวมข้อมูลต่างๆที่คนทั่วไปสามารถเผยแพร่ได้ ทั้งหนังสือ บทความต่างๆ
  • เว็บไซต์ Your Next Read คลังหนังสือขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถเอาไว้หาหนังสือเล่มโปรดที่เคยอ่านได้
  • เว็บไซต์ Jellybooks เป็นเว็บไซต์ที่มีการเผยแพร่หนังสือใหม่ๆ ตลอดเวลา โดยที่เราสามารถอ่านตัวอย่างของหนังสือนั้นได้ เพื่อดูว่าเราเหมาะกับหนังสือเล่มนั้นหรือไม่
  • เว็บไซต์ Whichbook เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมหนังสือไว้หลากหลายประเภทมาก (ทั้งหนังสือเรื่องสั้น/ยาว หนังสือประเภทรุนแรง/ไม่รุนแรง โดยมีระดับตัวเลือกให้เราเลือกมากมายตามแบบที่เราชอบ) นอกจากนี้ยังมีการแนะนำถึงเนื้อเรื่องหนังสือที่เราสนใจด้วย

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ write

  1. ตั้งคำถามในขณะที่อ่านและหลังอ่านเสร็จ

โดยมี 2 – 3 อย่างที่เราควรจะทำก่อน ระหว่าง และหลังการอ่านซึ่งจะทำให้เข้าใจในบทความนั้นมากขึ้น โดยก่อนที่จะอ่าน เราควรที่จะทำการมองและอ่านบทความแบบคร่าวๆอย่างรวดเร็ว และในช่วงหลังจากที่อ่านแล้วเราก็ควรที่จะทำการสรุปเนื้อหาที่เราจำได้จากการอ่าน โดยพูดหรือจดประโยคนั้นลงไปในสมุดโน้ตของเรา ซึ่งจะเป็นการแสดงถึงความเข้าใจในเนื้อหาที่เราได้อ่าน และยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาหรือเพิ่มความเข้าใจในส่วนที่เราสงสัยได้อีกด้วย

โดยสิ่งที่เราควรจะทำก่อนที่จะอ่านคือ การถามตัวเองว่า บทความนี้มีตัวหนาหรือตัวเอียงหรือไม่/ บทความนี้เป็นหัวข้อเรื่องหรือหัวข้อย่อย/ ชื่อในบางตอนของเรื่องนั้นกล่าวถึงอะไร เป็นต้น หรือหลังจากอ่านเนื้อหาหรือบทความนั้นจบแล้ว ถ้าหากเราตั้งคำถามตามข้างล่างนี้ก็จะช่วยให้เข้าใจในเนื้อหามากขึ้น เช่น บทความนี้บอกเกี่ยวกับอะไร/ สิ่งที่สำคัญที่สุดในบทความที่ต้องการจะบอกคืออะไร/ ยังมีสิ่งที่เราสงสัย ไม่เข้าใจในบทความนี้อีกไหม เป็นต้น ซึ่งการตั้งคำถามนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าบทความที่เราอ่านมีเนื้อหาอย่างไร

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ read a book

  1. พัฒนาการอ่านให้ต่อเนื่อง

หากเราเคยอ่านประโยคภาษาอังกฤษ แล้วแปลไม่ได้หรืออ่านแล้วต้องแปลคำต่อคำ ก็อาจจะทำให้ยากที่จะเข้าใจในประโยคหรือบริบทนั้นๆ ดังนั้นเราควรที่จะฝึกอ่านให้ต่อเนื่อง และลื่นไหลไปเรื่อยๆ โดยเปรียบเหมือนกับการที่มีเจ้าของภาษามาพูดให้ฟัง โดยวิธีการง่ายๆ ที่จะฝึกการอ่านให้ต่อเนื่อง คือเลือกเรื่องที่มีเนื้อหาที่ค่อนข้างง่าย และก็พยายามให้เวลาในการอ่านและฝึกฝนให้มาก โดยการอ่านออกเสียงไปด้วย ก็จะช่วยให้เราอ่านได้อย่างต่อเนื่องและสนุกอีกด้วย

นอกจากนี้เวลาที่เราอ่านบทความหรือเนื้อหาต่างๆ ก็จะมีคำศัพท์หลายคำที่เราคุ้นตา (sight words) ซึ่งเห็นอยู่บ่อยๆ โดยเราสามารถที่จะฝึกได้โดยการหาคำศัพท์ที่เราไม่รู้ไว้ก่อนเมื่อเวลาอ่านจะทำให้อ่านได้คล่องมากขึ้น และก็ใช้เวลาอยู่กับบทเรียนหรือแหล่งความรู้ที่บอกเกี่ยวกับศัพท์เหล่านี้ นอกจากนี้การดูคลิปวิดีโอก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจในการฝึกการอ่านต่อเนื่อง โดยที่เราจะเปิดการบรรยายใต้ภาพ พร้อมกับฟังเสียงภาพยนตร์ไปด้วย ซึ่ง FluentU เป็นแอปหนึ่งที่น่าสนใจในการหาวิดีโอประเภทต่างๆ มาโหลดไว้ดู เช่น วิดีโอเพลง ตัวอย่างหนังภาพยนต์ ข่าว หรือการพูดที่สร้างแรงบันดาลใจ เป็นต้น นอกจากนี้ยังแบ่งระดับความสามารถของผู้ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อที่แต่ละคนจะได้รู้ระดับของตัวเองและฝึกฝนไปในระดับที่สูงขึ้น

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ read a book

  1. ค่อยๆที่จะเรียนรู้ไม่ต้องรีบจนเกินไป

เมื่อเราเริ่มที่จะอ่านภาษาอังกฤษได้อย่างชำนาญแล้ว เราไม่จำเป็นจะต้องกังวลในเรื่องความเร็วในการอ่าน แต่เราควรจะไปโฟกัสในเรื่องของเนื้อหาที่เราอ่าน โดยมีวิธีที่น่าสนใจในการที่จะทำให้เราโฟกัสในเนื้อหามากขึ้น นั่นก็คือ การที่เราอ่านออกเสียง เพราะไม่เพียงแต่เป็นการฝึกทักษะในการอ่านและความเจ้าใจของเราแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการออกเสียง สำเนียง และการฟังด้วย หรือถ้าหากเราไม่สามารถอ่านออกเสียงได้ ก็เปลี่ยนเป็นการอ่านทีละ 2-3 ย่อหน้าและทำการจดโน้ตสรุปในความเข้าใจของเราเอง

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ write questions

  1. ตั้งคำถามในการอ่านแต่ละครั้ง

การตั้งคำถามนั้นเป็นสิ่งที่ดีในการที่จะทำให้เราเข้าใจเรื่องที่อ่านมากขึ้น ยกตัวอย่างการตั้งคำถาม เช่น “ทำไมผู้ชายคนนั้นจึงทำแบบนี้” หรือ “ผู้หญิงคนนั้นกำลังคิดอะไร” โดยอาจหากระดาษแผ่นเล็กๆ ไว้จดข้อความที่เราและสงสัยก็ให้จดคำถามลงในกระดาษแล้วติดไว้ที่หน้าหรือข้อความนั้น จนกระทั่งเมื่อเราอ่านจบ ก็กลับมาตอบคำถามที่เราได้เขียนไว้ แต่ถ้าหากเรายังตอบคำถามไม่ได้ ก็ลองกลับไปอ่านใหม่ในส่วนนั้นอีกรอบและพยายามที่จะหาคำตอบ

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ read

  1. อ่านทบทวนอีกรอบ

นักเขียนที่ชื่อ Ezra Pound ได้เคยพูดไว้ว่า “ไม่มีใครที่อ่านในครั้งแรกและเข้าใจในทุกสิ่งที่ได้อ่าน” เพราะว่าในบางครั้งการอ่านเพียงครั้งเดียวก็ไม่สามารถทำให้เราเข้าใจในบริบทได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเนื้อหาที่มีความยากและซับซ้อน ซึ่งการอ่านซ้ำก็จะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น รวมทั้งยังช่วยเรื่องการจำคำศัพท์ด้วย เพราะว่าเราจะเจอคำศัพท์นั้นบ่อยๆ ก็จะทำให้เราจำได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากจะเข้าใจในเนื้อหาทั้งหมดที่เราอ่าน เราควรอ่านอย่างน้อย 3-4 รอบ โดยการอ่านในครั้งแรกทำความเข้าใจในคำศัพท์ ครั้งที่สองทำความเข้าใจถึงความหมายที่ผู้เขียนจะสื่อ ครั้งที่สามตั้งคำถามในการเนื้อหา เช่น “ผู้เขียนต้องการที่จะสื่ออะไร” “ข่าวนี้ส่งผลอย่างไรต่อเศรษฐกิจโลก” เป็นต้น

 

 

  1. อ่านบทความหลากหลายประเภท

ในปัจจุบันนั้นไม่ได้มีแค่หนังสือ หรือหนังสือพิมพ์ที่จะให้เราอ่าน แต่ก็ยังมีเว็บไซต์ อีเมล ทวีตข้อความ และเนื้อหาต่าง มากมายที่เป็นภาษาอังกฤษที่เป็นช่องทางในการเรียนรู้ทักษะการอ่าน

 

แม้การฝึกภาษาอังกฤษจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเรามีวินัยและหมั่นฝึกฝนเราก็จะได้ผลัพธ์ที่ดีตามมาได้ไม่ยากเช่นกันค่ะ ลองฝึกวันละเล็กละน้อย ตามวิธีที่เรานำมาในวันนี้รับรองว่าทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

 

 

 

 

ขอบคณข้อมูลจาก

: https://www.facebook.com/yhubthailand

 

ขอบคุณรูปภาพจาก

: https://sites.google.com/site/thaiclass55/kar-chi-phasa-thiy/kar-xan

: http://howtogrowabookworm.com/useful-tips-for-hearing-your-child-read/

: https://thecopybot.com/reading/

: https://www.mentalfloss.com/article/78182/4-reasons-write-hand-rather-type

: https://www.wegointer.com/2019/12/home-library-can-have-a-powerful-effect-on-children/

: https://www.speakingbusiness.co.uk/3-effective-tips-to-improve-yourself/

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *