เผย 7 กลุ่มอาชีพมาแรงในยุค Digital Disruption จนถึงปี 2022

งานวิจัยล่าสุดของ World Economic Forum เผย 7 สายงานที่จะมีอาชีพเกิดใหม่และมีการคาดการณ์ว่าจำนวนตำแหน่งงานในอาชีพใหม่จะเพิ่มขึ้น เพื่อตอบรับกับความต้องการของตลาดและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว  

 

มีบางอาชีพที่ถูกเทคโนโลยี disrupt เสี่ยงตกงาน บางอาชีพจะหายไป บางอาชีพจะยังมีอยู่แต่เนื้องานและทักษะที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงไป World Economic Forum ประมาณการณ์ว่าจะมีงานประมาณ 75 ล้านตำแหน่งที่จะถูกทดแทน แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีโอกาสใหม่ ๆ เกิดขึ้นในตลาดแรงงานเช่นกัน คาดว่าจะมีอาชีพใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น 133 ล้านตำแหน่งงานทั่วโลกภายในปี 2022 ซึ่งจะเป็นตำแหน่งงานประมาณ 27% ของตลาดโดยรวมงาน 133 ล้านตำแหน่งทั่วโลกนี้ ส่วนมากจะอยู่ใน 7 สายงานต่อไปนี้ที่ World Economic Forum มองว่าเป็นอาชีพแห่งอนาคต ผสมผสานทักษะ digital + human ซึ่งเทคโนโลยีไม่สามารถทำได้

1. Care Economy

อาชีพที่จะเป็นที่ต้องการ: Medical Transcriptionists, Physical Therapist Aides, Radiation Therapists, Athletic Trainers, Medical Equipment Preparers

งานบริการที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถควบคู่ไปกับความใส่ใจดูแล นี่คือกลุ่มงานที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทดแทนได้ เพราะต้องใช้ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ อย่างงานในกลุ่มดูแลรักษาพยาบาล บริการเพื่อสุขภาพ จริงอยู่ว่าหุ่นยนต์สามารถช่วยวินิจฉัยโรคได้ แต่ขั้นตอนการสื่อสารผลการวินิจฉัย โดยเฉพาะในกรณีที่ผลออกมาร้ายแรง การให้กำลังใจ การให้คำแนะนำด้วยความใส่ใจเป็นเรื่องสำคัญมาก เป็นทักษะที่หุ่นยนต์ไม่มีแน่นอน เพราะหุ่นยนต์เพียงแค่ทำตามคำสั่ง การทำกายภาพก็เช่นกัน ต้องมีความระมัดระวังสูง การเคลื่อนไหวสัมผัสผู้ป่วยต้องค่อยเป็นค่อยไป

2. Data and AI

อาชีพที่จะเป็นที่ต้องการ: AI Specialists, Data Scientists, Data Engineer, Big Data Developer, Data Analyst  

แน่นอนว่าถ้าเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตก้าวไกล นี่คือกลุ่มอาชีพที่ขาดไม่ได้ ผสสำรวจบน LinkedIn ชี้ให้เห็นว่ามีตำแหน่งงานสายนี้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเทียบกับปีก่อน ๆ ยิ่งเวลาผ่านไป เทคโนโลยียิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากขึ้น เกิดข้อมูลเป็นหลายแสนล้านจุดและจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากการใช้ Internet of Things เป็นที่นิยมมากขึ้น ข้อมูลที่เคยเป็น offline กลายมาเป็น online แทบทั้งหมด แต่ไม่ใช่ข้อมูลทุกข้อมูลที่มีประโยชน์ อาชีพเหล่านีมีหน้าที่คัดกรอง จัดการดึงเฉพาะข้อมูลที่นำมาใช้ประโยชน์ สร้างคุณค่าต่อได้ พัฒนาโมเดล machine learning ให้แม่นยำมากขึ้น

3. Engineering and Cloud Computing

อาชีพที่จะเป็นที่ต้องการ: Site Reliability Engineer / DevOps / Cloud Computing, Python Developer, Full Stack Engineers, Javascript Developer

ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าจะมีจุดข้อมูลเกิดขึ้นอีกมากมาย ส่งผลให้ต้องมีการจัดเก็บข้อมูลที่ดีและปลอดภัย ซึ่งวิธีที่นิยมก็คือการเก็บข้อมูลบนระบบ cloud ตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีจะมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในองค์กรใหญ่ที่ยิ่งมีผู้ใช้จำนวนมาก ระบบยิ่งต้องเสถียร ใช้งานได้ และมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล วางระบบการพัฒนาแอพพลิเคชั่นและแพลตฟอร์มให้ทำงานบน cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ทำหน้าที่เป็นทั้งนักพัฒนาและผู้ดูแลการปฏิบัติการ ส่วน python และ javascript นั้น เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกเพราะสามารถใช้ทำได้หลายอย่าง ครอบคลุมตั้งแต่งานพัฒนาผลิตภัณฑ์ งานที่เกี่ยวกับ AI ไปจนถึงการทำงานกับข้อมูลสำหรับ data scientist

4. Green Economy

อาชีพที่จะเป็นที่ต้องการ: Green Marketers, Methane/Landfill Gas Generation System Technicians, Wind Turbine Service Technicians, Biofuels Processing Technicians, Solar Energy Installation Managers, Water Resource Specialists

ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ ในปี 2019 ที่ผ่านมา มีปัญหามากมายส่งผลกระทบทั่วโลก การพัฒนาของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก้าวหน้าไปมาก แต่ในทางกลับกัน กลับส่งผลให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมรุนแรงขึ้นทุกเมื่อ นี่เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน เกิดเป็นเทรนด์การรณรงค์ให้คิดค้น ให้ใช้พลังงานทางเลือกรูปแบบอื่น ๆ ที่ไม่เป็นภัยต่อธรรมชาติ มีการส่งเสริมให้ปรับใช้แนวคิด sustainbility อย่างกว้างขวาง ลดปริมาณคาร์บอน อาชีพกลุ่มที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องพลังงานสีเขียวนี้จึงถูกคาดว่าจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น อีกอาชีพหนึ่งที่เป็นอาชีพใหม่ที่น่าสนใจคือ นักการตลาดสีเขียว ซึ่งมีหน้าที่โปรโมทส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

5. People and Culture

อาชีพที่จะเป็นที่ต้องการ: Information Technology Recruiter, Human Resources Partner, Talent Acquisition Specialist, Business Partner, Human Resources Business Partner

บทบาทของ HR จะเปลี่ยนแปลงไป จากสายงาน support หลังบ้านกลายมาเป็น partner คู่คิดสายงานธุรกิจ บุคลากรเป็นทรัพยากรที่สำคัญมากในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า หากว่า HR มีความรู้ความเข้าใจในลักษณะของธุรกิจ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับแผนกอื่น ๆ จะช่วยให้ HR สามารถเป็น partner จัดสรร talent ตามความสามารถให้ตรงตามเป้าหมายทางธุรกิจ

งาน recruit สรรหาบุคลากรจะยังมีความสำคัญ เพราะเป็นตำแหน่งงานที่ต้องใช้ human touch สูง เป็นเรื่องการติดต่อสื่อสารระหว่างคน ประกอบกับตำแหน่งงานสาย IT จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น จึงต้องมีคนทำหน้าที่สร้าง culture การทำงานที่ดึงดูดให้ talent อยากมาร่วมงานด้วย

6. Product Development

อาชีพที่จะเป็นที่ต้องการ: Product Owner, Quality Assurance Tester/Engineer, Agile Coach, Software Quality Assurance Engineer, Product Analyst, Scrum Master

ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้า ยิ่งเป็นโอกาสสำคัญของธุรกิจที่จะนำมาต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด ดังนั้นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องการพัฒนา tech product จึงมีความสำคัญมาก มีหน้าที่บริหารจัดการโปรเจค ต้องใช้การทำงานที่รวดเร็วและยืดหยุ่น วิธีการทำงานแบบ agile มีกระบวนการทดสอบ เก็บข้อมูล และปรับเปลี่ยนตาม feedback อยู่เสมอ เป็นการแตกงานชิ้นใหญ่ออกเป็น sprint ย่อย วางแผนระยะสั้น ทำทีละส่วน ประเมิน แล้วปรับ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดได้เร็วและตรงตามความต้องการของผู้ใช้ ตำแหน่งงานเหล่านี้ต้องใช้ทักษะการสื่อสารในทีมสูงมาก รวมถึงการ coach และช่วยสนับสนุนคนในทีมอื่น ๆ ให้สามารถทำงานแบบ agile ได้

7. Sales, Marketing and Content

อาชีพที่จะเป็นที่ต้องการ: Social Media Assistant / Content Production, Growth Hacker, Customer Success, Sales Development Representative, Specialist Digital Marketing Specialist

ตำแหน่งงานยังคงคล้ายเดิม แต่รายละเอียดเนื้องานจะเปลี่ยนแปลงไป ผันมาทาง digital มากขึ้น แม้บางบริษัทที่เป็นธุรกิจแบบดั้งเดิมอาจจะหดหายไป แต่บริษัทเทคโนโลยียังคงต้องการสายงานนี้ คนในสายงานนี้ควรพัฒนาทักษะดิจิทัล ติดตามเทรนด์เทคโนโลยี การใช้ความคิดสร้างสรรค์ หาวิธีสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับกลุ่มลูกค้าในโลกธุรกิจออนไลน์และออฟไลน์ จะมีช่องทางการเข้าถึงลูกค้ารูปแบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย

การทำโฆษณาออนไลน์มีแนวโน้มที่จะมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การทำ content ให้น่าสนใจและสร้างฐานผู้ติดตามกลายมาเป็นทักษะที่สำคัญ ต่างจากยุคก่อนอย่างมากที่ทำโฆษณาสื่อสารจากแบรนด์ผลักออกสู่ลูกค้า ในยุคนี้ต้องทำตามความสนใจและพฤติกรรมของลูกค้าเป็นหลัก จะยึดแบรนด์เป็นหลักไม่ได้อีกต่อไป เพราะในเมื่อทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้หลากหลาย สามารถสร้างแบรนด์ออนไลน์ได้เหมือน ๆ กัน การแข่งขันจึงสูงขึ้นมาก ต้องมีจุดแข็งที่แตกต่างจึงจะอยู่รอด

หากคุณเป็นคนที่สนใจเรื่องตำแหน่งงานยุคดิจิทัลและการ reskill เพื่อเสริมทักษะแห่งอนาคต ขอเชิญเข้าร่วมงาน Education Disruption Conference ครั้งที่ 2 ภายในงานท่านจะพบกับ Speakers มากมายทั้งระดับประเทศและระดับโลกที่จะมาเผยข้อมูลและแนวทางใหม่ ๆ ฉายภาพอนาคตการศึกษาและการทำงานในอีก 10 ปีข้างหน้า พร้อมเผย 5 ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในโลกแห่งการศึกษาและการทำงานในยุค 2030 ลงทะเบียนได้ที่ https://www.disruptignite.com/conference

 

ขอบคุณข้อมูลประกอบจากงานวิจัยของ World Economic Forum ประจำเดือนมกราคม 2020

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *