มูลนิธิซิตี้ ร่วม ยูเอ็นดีพี ดึงเยาวชน 120 ประเทศ 4,700 คน จัดเวทีเสวนาออนไลน์ “ยูธ โคแล็บ ซัมมิท” ครั้งที่ 3 รวมสุดยอดเยาวชนทั่วโลก โชว์ไอเดียร่วมมือแก้ไขปัญหาท่ามกลางการระบาดของโควิด-19

มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาติ (UNDP) จัดงาน “ยูธ โคแล็บ ซัมมิท 2021” (Youth Co:Lab Summit 2021) สุดยอดงานเสวนาออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการทางสังคมที่นำโดยเยาวชน พาร์ทเนอร์ผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ และองค์กรภาครัฐจาก 120 ประเทศ รวมกว่า 4,700 คน เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียธุรกิจ และนวัตกรรมเพื่อสังคม ที่สามารถทำงานได้จริง หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  ทั้งนี้จากการประชุมยังพบวิกฤตการว่างงานเยาวชนอายุ 15-24 ปี รุนแรงมากขึ้น และยังพบว่าธุรกิจที่นำโดยเยาวชน จำนวน 92% ได้รับผลกระทบรุนแรง และอีก 85% ธุรกิจหดตัวหรือจำกัดการเติบโตเพื่อความอยู่รอด แต่ในขณะเดียวกันสถานการณ์เกิดขึ้นก็ได้แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวและความยืดหยุ่นของวิสาหกิจที่นำโดยเยาวชนอย่างชัดเจนมากขึ้นเช่นกัน โดย 87% มีการเปลี่ยนแปลงและปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาด รวมถึงจำนวน 86% ได้คิดค้นนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่พร้อมทั้งเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานเพื่อให้ธุรกิจยังสามารถดำเนินการต่อไปได้

ทั้งนี้งานเสวนาออนไลน์ “ยูธ โคแล็บ ซัมมิท 2021” (Youth Co:Lab Summit 2021) จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมและโครงการยูธ โคแล็บ ได้ที่ https://www.youthcolab.org/2021-summit

นางคานนี วิกนราชา ผู้ช่วยเลขาธิการและผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นดีพี (UNDP) เปิดเผยว่า “มูลนิธิซิตี้ ร่วมกับ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาติ (UNDP) จัดงาน “ยูธ โคแล็บ ซัมมิท 2021” (Youth Co:Lab Summit 2021) สุดยอดเวทีสนทนาทางออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการทางสังคมที่นำโดยเยาวชนรุ่นใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียธุรกิจ และนวัตกรรมเพื่อสังคม ระหว่างเยาวชนในโครงการให้กลายเป็นโมเดลธุรกิจที่สามารถทำงานได้จริง หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อสังคมและภาคธุรกิจไปทั่วโลก โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งเยาวชน พาร์ทเนอร์ผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ และองค์กรภาครัฐ จากกว่า 120 ประเทศ รวมกว่า 4,700 คน

นอกจากนี้การประชุมดังกล่าวยังได้เผยให้เห็นถึงข้อมูลงานสำรวจและวิจัยของโครงการในเรื่อง “สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นไปทั่วโลกได้ท้าทายวิสาหกิจที่นำโดยเยาวชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างไร” (One Year On: How Young Entrepreneurs in Asia-Pacific Responded to COVID-19) โดยจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าจำนวน 92% ได้รับผลกระทบจากโควิด- 19 และจำนวน 85% บอกว่าโควิด-19 ทำให้ธุรกิจหดตัวหรือจำกัดการเติบโตเพื่อความอยู่รอด อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์เกิดขึ้นก็ได้แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวและความยืดหยุ่นของวิสาหกิจที่นำโดยเยาวชนอย่างชัดเจนมากขึ้นเช่นกัน โดย 87% พบว่าวิสาหกิจที่นำโดยเยาวชนมีการเปลี่ยนแปลงและปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาด รวมถึงจำนวน 86% ได้คิดค้นนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่พร้อมทั้งเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานอีกด้วย

“ความเชื่อมั่น ความเฉลียวฉลาด และพลังของคนรุ่นใหม่ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ ยูเอ็นดีพี และมูลนิธิซิตี้ ได้ริเริ่มโครงการ ยูธ โคแล็บ (Youth Co:Lab) เมื่อปี 2560 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนแก่กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการขับเคลื่อนและดำเนินการเพื่อเป้าหมายการพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืน เพื่อเพิ่มโอกาสเยาวชนในด้านต่างๆ ผ่านความเป็นผู้นำที่กระตือรือร้น มีจิตวิญญาณอันมุ่งมั่น ตลอดจนการเป็นผู้ประกอบการที่กล้าหาญ” นางคานนี กล่าวสรุป

มร.ปีเตอร์ บาเบจ ประธานกรรมการบริหาร ซิตี้ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า  “ซิตี้ และมูลนิธิซิตี้ มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งหมด เพื่อช่วยให้เยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถพัฒนาวิธีแก้ปัญหาทางสังคมที่ใหญ่ที่สุด อันส่งผลกระทบต่อชุมชนของพวกเขา รวมถึงให้สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งกลยุทธ์การฟื้นฟูหลังจากการระบาดของโควิด-19 จะต้องรวมมาตรการเพื่อจัดการกับวิกฤตการว่างงานของเยาวชนให้ลดน้อยลง โดยการเป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคมถือเป็นอีกหนทางสำหรับคนรุ่นใหม่ในการสร้างงานให้สามารถรับมือกับความท้าทายที่ชุมชนของพวกเขาต้องเผชิญ และยังสามารถขับเคลื่อนการเติบโตอย่างครอบคลุมควบคู่ไปกับการพัฒนาที่ยั่งยืน”

ปัจจุบันภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นบ้านของเยาวชนคนหนุ่มสาวทั่วโลกคิดเป็น 55% หรือเยาวชนกว่า 660 ล้านคน ที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 24 ปี โดยคนกลุ่มนี้คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ว่างงานในภูมิภาค ซึ่งการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้สร้างความวุ่นวายทางเศรษฐกิจและส่งผลกระทบให้วิกฤตการว่างงานของคนกลุ่มนี้รุนแรงมากขึ้น ในขณะเดียวกันเยาวชนเหล่านี้ก็เป็นผู้นำในการตอบสนองต่อวิกฤติด้วยการเป็นอาสาสมัคร คิดต้นนวัตกรรมทางสังคม และการเคลื่อนไหว ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมาโครงการ ยูธ โคแล็บ (Youth Co:Lab) ได้ดำเนินการใน 25 ประเทศทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีการเจรจาระดับชาติ การจัดประชุมสุดยอดระดับภูมิภาค และความท้าทายด้านนวัตกรรมทางสังคม ปัจจุบันมีเยาวชนผู้เข้าร่วมมากกว่า 75,000 คน สร้างผู้ประกอบการทางสังคมหน้าใหม่ 8,000 คน และช่วยสนับสนุน และพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคมรวมกว่า 1,000 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ในขณะเดียวกัน โครงการ ยูธ โคแล็บ (Youth Co:Lab) ยังได้สร้างความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์กว่า 192 ราย ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ เป้าหมายคือการสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยเฉพาะผู้หญิงและเยาวชนที่ถูกกีดกันทางสังคมให้เชื่อมโยงเข้ากับธุรกิจ ผ่านการการบ่มเพาะ การเพิ่มมูลค่า และการสนับสนุนทางการเงิน เพื่อพัฒนาแนวคิดของผู้ประกอบการรุ่นใหม่เหล่านี้ให้เป็นรูปแบบธุรกิจที่เป็นไปได้ในอนาคต ซึ่งหมดนี้จะช่วยลดผลกระทบทางสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป

 ทั้งนี้งานเสวนาออนไลน์ “ยูธ โคแล็บ ซัมมิท 2021” (Youth Co:Lab Summit 2021) จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมและโครงการยูธ โคแล็บ ได้ที่ https://www.youthcolab.org/2021-summit

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *