สุดเจ๋ง ! นศ.บริหารธุรกิจ ม.หอการค้าไทย คว้าคะแนนสูงสุดกระทรวงพาณิชย์ บินลัดฟ้าฝึกงานต่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์ได้จัดโครงการกระจายความรู้สู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ (From Gen Z to be CEO) ประชาชนช่วงอายุ 9 – 24 ปีหรือ  Gen Z ทั่วประเทศจำนวนกว่า 13 ล้านคน ซึ่งจัดว่าเป็นกลุ่มเชิงปริมาณที่มีความสำคัญและในเชิงคุณภาพที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของประเทศ โครงการ From Gen Z to be CEO หรือเรียกว่าโครงการปั้น Gen Z เป็น CEO รวม Gen Z ที่อบรมไปแล้วจนถึงวันนี้สามารถดำเนินการไปแล้วถึง 83,000 คน ที่สำคัญผู้ที่ได้ TOP 100 คนแรก จะได้มีโอกาสฝึกงานกับบริษัทใหญ่เช่น ทรู หัวเว่ย และเอ็กซิมแบงค์ รวมทั้งโอกาสทำงานร่วมกันฝึกอบรมร่วมกับสำนักงานทูตพาณิชย์ไทยเพื่อเรียนรู้การค้าในต่างประเทศ

นางสาวภัทรนันท์ ตั้งหมั่น คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์ ปี 4 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และเจ้าของรางวัล OUTSTANDING โครงการ From Gen Z to be CEO เล่าว่า “โครงการ คือ การเรียนผ่านระบบออนไลน์ ในตอนนั้นเรียนผ่านระบบ ZOOM การจับจุดหรือจับประเด็นอาจยากกว่าการเรียนในห้องเรียนของผู้บรรยาย วันประกาศผลออกมาปรากฎได้คะแนนเยอะที่สุดในมหาวิทยาลัย เพราะตอนทำสอบเรารู้สึกแค่ว่าทำให้เต็มที่ เพื่อที่จะได้ไม่เสียดายที่หลังว่าทำไม่เต็มที่ รู้สึกดีใจกับสิ่งทีตั้งใจทำลงไป  นำความรู้ที่เรียนมาจากทางสาขาทั้งหมดสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเนื้อหาที่ทางวิทยากรของโครงการมาอบรมได้ และนอกจากในส่วนที่วิทยากรมาอบรมเพื่อเติมความรู้ที่มากขึ้นเกี่ยวกับโลจิสติกส์ให้รู้ลึกขึ้นนั้น ยังเปลี่ยนมุมมองจากเดิมที่มองโลจิสติกส์กลาเยป็นมองแบบนักธุรกิจ Start up ต่างๆ โดยสอนวิชามองตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำอย่างไร ต้องวางแผนการดำเนินธุรกิจอย่างไรและให้มันเข้าสู่ตลาดดิจิทัลตอนนี้ได้ เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมผู้บิรโภคส่วนใหญ่อยู่ในโลกออนไลน์ ควรมีวิธีปรับตัวอย่างไรให้สอดคล้องมากที่สุด หลังจากนี้จะนำไปต่อยอดกับการเลือกอาชีพในอนาคตเมื่อเรียนจบ เพราะตอนนี้ฝึกงานในสายงานเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกสินค้า แต่ยังหาความรู้เพิ่มทักษะให้กับตัวเองได้ทันตามนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ”

นายศตพัฒน์ ชุมนุมศิริวัฒน์ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการโลจิสติกส์ ปี 4 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และเจ้าของรางวัล OUTSTANDING โครงการ From Gen Z to be CEO กล่าวว่า “การที่ได้เข้าร่วมโครงการครั้งนี้  ได้เรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจดิจิทัลและความรู้ด้านภาษาอังกฤษ เนื่องจากทางโครงการก็ให้ความสำคัญกับเรื่องภาษาควบคู่ไปกับการทำธุรกิจและการดำเนินธุรกิจ Start up ส่วนตัวได้นำความรู้เนื้อหาจากวิชาที่เรียนมาในคณะบริหารธุรกิจมาประยุกต์ใช้ในการสอบทางโครงการครั้งนี้ เนื่องจากเนื้อหาของสาขาที่เรียนและเนื้อหาของโครงการนั้นมีความคล้ายกันเลยทำให้เรามีความเข้าใจมากขึ้น การได้เข้าร่วมโครงการนี้เป็นโครงการที่มีสิทธิประโยชน์มากมาย รวมถึงเมื่อได้รับรางวัลโอกาสที่จะได้เปิดกว้างสู่ธุรกิจระดับโลกย่อมมากกว่าคนอื่นด้วยเช่นกัน โดยส่วนตัวเลือกฝึกงานที่ประเทศสเปนในปีพ.ศ. 2565 มีความตั้งใจเป็นอย่างมาก พร้อมเรียนรู้ระบบขนส่งและนวัตกรรมรูปแบบการค้าต่างๆระบบสากล สุดท้ายอยากฝากให้รุ่นน้องทุกมหาวิทยาลัยที่มีความตั้งใจสอบโครงการนี้ ควรตั้งใจเรียนในห้องเรียนและพร้อมเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ในโครงการ เพราะโครงการนี้ส่งผลที่ดีกับอนาคตของตนเอง ได้สิทธิประโยชน์ โอกาสที่ดีที่สามารถต่อยอดให้กับอนาคตของเราได้”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *