เปิดหัวใจ “3 คุณแม่สุดสตรอง” แห่งไปรษณีย์ไทย ส่งต่อแรงผลักดันจากลูก สู่พลังแห่งการสร้างสรรค์ผลงาน

เปิดหัวใจ “3 คุณแม่สุดสตรอง” แห่งไปรษณีย์ไทย

ส่งต่อแรงผลักดันจากลูก สู่พลังแห่งการสร้างสรรค์ผลงาน

          “ลูก” เสมือน ‘ของขวัญ’ ที่เปี่ยมไปด้วยความหมายและความรู้สึก ความรักที่ไม่คาดหวังผลตอบแทน ความรักอันบริสุทธิ์ที่คนๆ หนึ่งจะมอบให้กับเพื่อนมนุษย์คนใหม่ก่อนที่จะลืมตาดูโลก และเป็นหน้าที่ที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ถูกเรียกว่า “แม่” เต็มใจจะทะนุถนอมเลี้ยงดู ให้ลูกของเธอเติบโตและมีชีวิตที่ดี แต่ด้วยกาลเวลาที่แปรเปลี่ยนไป ภาพของแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน ควบคู่ไปกับการเลี้ยงดูลูก หรือที่สังคมเปรียบว่าเป็น             ‘วันเดอร์วูเม็น’ (Wonder Women) คงไม่เกินไปสำหรับการยกย่องความเก่งและอดทนของผู้หญิงเหล่านี้

ไปรษณีย์ไทยเข้าใจความรู้สึกของแม่ทุกคนว่า ‘ลูก’ คือที่สุดของหัวใจ เป็นส่วนหนึ่งในกำลังใจของพวกเธอ และเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง จึงพร้อมเปิดกว้างและสนับสนุน “ผู้หญิงแกร่ง” ที่เป็นทั้งแม่และคนทำงานในเวลาเดียวกัน เพราะไปรษณีย์ไทยเชื่อว่าการสร้างและสนับสนุนบุคลากรที่ดี                         ภายในองค์กร จะเป็นการสร้างต้นแบบที่ดีให้ครอบครัว วันแม่ปีนี้ ไปรษณีย์ไทยมี 3 มุมมองของคุณแม่สุดแกร่งที่ทั้งทำงานและดูแลลูกไปพร้อมๆ กัน

  • ลูกคือหัวใจสำคัญของเจ้าหน้าที่นำจ่ายหญิง

หลายคนอาจไม่ทราบว่า ไปรษณีย์ไทยไม่ได้มีแค่บุรุษไปรษณีย์ที่เป็นผู้ชายแบบในอดีตแล้ว ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่นำจ่ายหญิง ทำหน้าที่นำจ่ายไปรษณียภัณฑ์แก่ลูกค้า ‘รรินทร์นิภา ณ ระนอง’ เจ้าหน้าที่นำจ่ายหญิง ไปรษณีย์จังหวัดเชียงใหม่ ที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อดูแลและทะนุถนอมของขวัญอันล้ำค่าของเธอ กับการฝากชีวิตกับองค์กรที่มั่นคง ทำให้เธอเป็นเสาหลักของครอบครัวได้ และรับหน้าที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่ที่ลูกยังเล็ก เป้าหมายสำคัญของการเลี้ยงดูลูกคือ การให้เขาได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดี ได้รับการศึกษาที่ดี การได้ทำงานและหาเงิน เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวกลายเป็นเรื่องที่เธอตัดสินใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไปรษณีย์ไทยอย่างภาคภูมิใจในองค์กรที่พัฒนาบริการขนส่งเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง

“เมื่อก่อนเป็นพนักงานบริษัทตามปกติ เงินเดือนแต่ละเดือนนั้นหมดไปกับภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้เลี้ยงดูลูกที่ยังเล็ก รวมทั้งครอบครัว ทำให้ไม่สามารถออมเงินไว้เผื่อใช้ในยามฉุกเฉิน          จึงตัดสินใจสมัครเข้ามาทำงานไปรษณีย์ไทย ด้วยเป้าหมายในชีวิตของเราคือการหาเงิน แต่ไม่ใช่เพื่อตัวเองแล้ว เพราะเงินที่เราหามาจะถูกให้ความสำคัญกับลูกและครอบครัว ยอมรับว่าชีวิตของเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหลังจากได้เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่นำจ่ายของไปรษณีย์ไทย ครั้งหนึ่งลูกของเธอป่วยเป็นโรคทอลซิลอักเสบ ไปรษณีย์ไทย มีสวัสดิการที่ทำให้เธอไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษา องค์กรที่ให้ความดูแลใส่ใจครอบคลุมไปถึงครอบครัวของเรา จึงรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของไปรษณีย์ไทย”

  • แสตมป์เชื่อมใจ จากแม่สู่ลูกของครอบครัวไปรษณีย์ไทย

‘เด็ก’ คือ ผลผลิตของผู้ใหญ่ พวกเขาเติบโตมาจากสิ่งแวดล้อม ที่หล่อหลอมและสร้างการเรียนรู้จนเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคม ‘ว่าที่ ร.ต.วรพจน์ พระภายไชย’ เจ้าหน้าที่ส่วนพิพิธภัณฑ์และกิจกรรมเชิงสังคม                     ฝ่ายการบริหารลูกค้าไปรษณีย์ไทย ที่ดูแลงานพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร ลูกชายของ ‘ละออง พระภายไชย’ สังกัดฝ่ายบริการสินค้าไปรษณีย์ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่ทำหน้าที่ดูแลและจัดส่งแสตมป์แก่สมาชิกแสตมป์ทั่วประเทศ ในอดีตหลังเลิกเรียน ‘ว่าที่ ร.ต.วรพจน์’ มักจะเข้ามาช่วยงานแม่เสมอ ด้วยความรักและหลงใหลแสตมป์ที่มีมาตั้งแต่เด็ก ผนวกกับความผูกพันกับไปรษณีย์ไทย เมื่อศึกษาจบ ‘ว่าที่ ร.ต.วรพจน์’ จึงตัดสินใจสอบเข้าบรรจุ              มาทำงานที่ตนรัก

“แม่ทำงานจัดส่งแสตมป์ ที่คลังแสตมป์ พอเขาเลิกเรียน รถโรงเรียนก็จะมาส่งที่ตึกที่เราทำงาน เขาก็จะเห็นทุกวันและเรียนรู้แสตมป์ต่างๆ และที่บ้านเราก็สมัครสมาชิกแสตมป์ด้วย เขาชอบอ่าน และหลงใหลแสตมป์ ลูกมักจะอาสาขอช่วยงานบ้าง ลูกเห็นก็งานที่เราทำตลอด และหลงรักแสตมป์ ที่บ่งบอกถึงศิลปวัฒธรรมของชาติ  เลยสมัครมาทำงานที่กองตราไปรษณียากร”

  • เบื้องหลังซีอีโอหญิงแกร่ง ผู้รันวงการโลจิสติสต์ไทย

น้องปุยฝ้าย’ ลูกสาวคนเก่ง ของ ‘สมร เทิดธรรมพิบูล’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซีอีโอหญิงแกร่งแห่งวงการขนส่งและโลจิสติส์ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดของไทย ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จชีวิตการทำงาน ซึ่งครั้งหนึ่งก่อนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งซีอีโอนี้ เธอไม่เคยคิดว่าจะรับตำแหน่งดังกล่าวเลย เพราะส่วนตัวชอบชีวิตเรียบง่าย และต้องการใช้เวลากับครอบครัว แต่ ‘น้องปุยฝ้าย’ เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่สนับสนุนคุณแม่ของเธอ และเป็นแรงเชียร์สำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดจากวันนั้นจวบจนวันนี้ แม้ตำแหน่งซีอีโอจะหนักหนาและเต็มไปด้วยความท้าทาย จนบางครั้งเหนื่อยสุดหัวใจ ‘น้องปุยฝ้าย’ เหมือนของขวัญสำคัญที่ขับเคลื่อนขุมพลังคุณแม่นักบริหารรันไปรษณีย์ไทยให้เติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้ทุกคนได้ใช้บริการที่มีมาตรฐาน ด้วยราคาเป็นมิตร

“…มีลูกสาวที่ตอนนั้นอายุเพิ่ง 13 ปี ถ้ามาทำงานตรงนี้ก็อาจมีเวลาให้ครอบครัวน้อยลง เพราะฉะนั้นครอบครัวต้องเห็นด้วย เมื่อปรึกษาสามี เขาก็บอกว่าไหนๆ ก็ทำงานมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ลองเดินหน้าให้สุดๆ ลูกสาวก็เชียร์ให้ลอง จนได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2559…”

ลูกคือ ‘ของขวัญ’ ที่มีค่าที่สุด เป็นของขวัญที่ทรงคุณค่าต่อความรู้สึกของผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า ‘แม่’  แม้การทำงานจะดึงเวลาของครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คุณแม่นักทำงานของไปรษณีย์ไทยล้วนมีลูกเป็นแรงบันดาลใจ เป็นแรงขับเคลื่อนการทำงานในทุกด้าน ส่งผ่านความรู้สึกตลอด 136 ปีของกิจการไปรษณีย์ไทย จากศักยภาพของคนไทย เพื่อเครือข่ายชีวิต และเศรษฐกิจไทย ด้วยหัวใจจริง