คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (SGU) ในเกรนาดา แคริบเบียน ประกาศแนะนำภาควิชามนุษยศาสตร์ทางด้านการแพทย์ และประวัติศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นภาควิชาใหม่นำโดย โรเบิร์ต ฮาจ (MD, PhD, DLO, MBA) เป็นประธาน และอาร์เล็ตต์ เฮอร์รี (PhD) ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการหลากหลายวัฒนธรรม ในฐานะรองประธาน มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอกย้ำให้ความสำคัญ และบูรณาการหลักสูตรมนุษยศาสตร์ และประวัติศาสตร์การแพทย์ตลอดการเรียนการสอนสี่ปีที่ SGU

สาขามนุษยศาสตร์ทางด้านการแพทย์เป็นแนวทางสหวิทยาการที่รวมเอาแง่มุมต่างๆ ทางด้านมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์รวมเข้าด้วยกันกับการศึกษาทางด้านการแพทย์ และการดูแลสุขภาพ เสริมสร้างให้ความเข้าใจในแบบองค์รวมที่กว้างขึ้น และมากขึ้นเกี่ยวกับสุขภาพ ความเจ็บป่วย และการแพทย์ โดยคำนึงถึงมิติทางวัฒนธรรม สังคม และจริยธรรมของหัวข้อเหล่านี้

“ทางด้านการแพทย์มิใช่เป็นเพียงแค่วิชาชีพเท่านั้น แต่เป็นการไล่ล่าหาคุณประโยชน์อันสูงสุด เพื่อรับใช้เพื่อนมนุษย์ และบรรเทาทุกข์มนุษยชาติ” ดร. มาริโอส ลูคัส คณบดีคณะแพทยศาสตร์กล่าว “การเป็นแพทย์ที่ดีนั้นหมายถึงการพยายามทำความเข้าใจในแต่ละประสบการณ์ที่เข้ามา และในแต่ละมุมมองที่มีของผู้ป่วยอย่างจริงจัง ด้วยการตอบรับ จัดการกับความแตกต่างทางด้านสุขภาพ และมอบการดูแลด้วยคุณภาพสูงสุดให้กับทุกคน”

เนื้อหาของโปรแกรมใหม่นี้จะถูกส่งสู่ภาควิชาที่จัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อเสริมสร้างทักษะของนักเรียนในการสื่อสาร และความเข้าใจเข้าถึงผู้ป่วย เพิ่มพูนสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วย และทีมแพทย์ เพิ่มขีดความสามารถทางด้านวัฒนธรรม ลดภาวะหมดไฟเหนื่อยหน่ายในที่ทำงาน ท่ามกลางผลประโยชน์อื่น ๆ

“หากอ้างอิงตามหลักสูตรวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอต่อการให้ความสำคัญของคุณภาพชีวิต” ดร. เฮจกล่าว “ภาควิชามนุษยศาสตร์ทางด้านการแพทย์ของ SGU จะช่วยให้นักศึกษาได้ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติที่สำคัญเหล่านี้ เช่น การคิดใคร่ครวญ ทบทวน ความเห็นอกเห็นใจ และความอ่อนน้อมถ่อมตนทางวัฒนธรรม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนสำคัญในการผลิตบุคคลาการทางด้านการแพทย์ที่มีความพร้อมเพื่อให้บริการแก่กลุ่มคนระดับโลก”

นักศึกษาแพทย์จาก SGU จะได้รับการยอมรับในสาขามนุษยศาสตร์ทางด้านการแพทย์ผ่านกิจกรรมการวิจัย ประกาศนียบัตร อนุปริญญา และในท้ายที่สุดคือวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

“มนุษยศาสตร์ทางด้านการแพทย์มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มภูมิปัญญาด้านการศึกษา และการฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพโดยเน้นความสำคัญของบริบททางวัฒนธรรม และสังคม การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และความเห็นอกเห็นใจในการดูแลผู้ป่วย” ดร. เฮจกล่าวเสริม