รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด รักษาการในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เปิดเผยว่า เป็นเวลากว่า 10 ปีที่มทร.ธัญบุรี ได้ผลักดันให้มหาวิทยาลัยเปลี่ยนสภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ซึ่งขณะนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ครม.ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พ.ศ….เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณา ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้เตรียมความพร้อมเพื่อก้าวออกไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ โดยได้ทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัย ทั้งคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา ศิษย์เก่าถึงประโยชน์ของการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ซึ่งเป็นไปตามการพัฒนาการอุดมศึกษา โดยการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยจะไม่ดำเนินงานเหมือนภาคเอกชนทั้งหมด เพราะการออกนอกระบบไม่ได้เป็นการแสวงหาผลกำไร มีการวิเคราะห์ถึงความพร้อมของ มทร.ธัญบุรี มาโดยตลอด
“แม้ว่ามหาวิทยาลัยจะก้าวไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ แต่ก็จะยังคงได้รับการการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนด้านบุคลากรดังเดิม เป็นการเน้นศักยภาพ ความสามารถของมหาวิทยาลัย จะมีรายได้จากภายนอก เช่น รายได้หลักจากผลงานทางทรัพย์สินทางปัญญา การส่งเสริมการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ การบริการวิชาการกับภาคอุตสาหกรรมแบบพุ่งเป้า และอื่นๆ ซึ่งส่งผลให้ไม่กระทบต่อค่าเทอมนักศึกษา เป็นนโยบายหลักของ มทร.ธัญบุรี ที่จะไม่ขึ้นค่าเทอมนักศึกษาแต่อย่างใด มหาวิทยาลัยจะนำแนวทางการบริหารงบประมาณเป็นไปตามหลักการของระบบความรับผิดชอบในการใช้งบประมาณ (Accountability) เพื่อเกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” รักษาการอธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าว
รศ.ดร.สมหมาย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐจะทำให้การบริหารมีความคล่องตัวมากขึ้น ทำให้เกิดโครงการใหม่ ๆ สวัสดิการที่ดี และการประเมินบุคลากรจะประเมินตามความรู้ความสามารถและสมรรถนะในการทำงานบุคลากร ทำให้การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะบุคลากรของ มทร.ธัญบุรี จะมีคุณวุฒิ และมีผลงาน ซึ่ง มทร.ธัญบุรี ได้ปูพื้นฐานความรู้ เพื่อพัฒนาทักษะในทุกด้านให้บุคลากรมาตลอดระยะเวลา 10 ปี โดยคณาจารย์ จะมีการพัฒนาทักษะทางด้านวิชาชีพ ทักษะการปฏิบัติตามความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และทักษะด้านการสอนมืออาชีพ ส่วนบุคลากรสายสนับสนุน มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี AI เพื่อสนับสนุนการทำงานในทุกภาคส่วน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลดีต่อการจัดการศึกษาของ มทร.ธัญบุรี และเป็นความพร้อมของ มทร.ธัญบุรีในการก้าวออกไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ เพื่อสร้างบุคลากรที่มีทักษะสูงไปพัฒนาประเทศให้ยั่งยืนต่อไป