อ่านเร็ว จำไว ต้องทำยังไง?

ช่วงสอบแบบนี้ หลายคนคงกำลังมองห้ามวิธีการอ่านที่แสนจะประหยัดเวลาแต่สามารถจดจำได้เป็นอย่างดี มาดูกันสิว่าการอ่านให้ได้แบบนั้นต้องมีเคล็ดลับอะไรบ้าง . ควรอ่านไม่มีเสียงในใจ การอ่านหนังสือไม่จำเป็นต้องออกเสียงในใจ ใครที่อ่านหนังสือโดยมีคำก้องอยู่ในหัว แสดงว่ายังอ่านไม่เป็น ขณะนั้นสมองส่วนความเข้าใจ วิเคราะห์และจินตนาการจะไม่สามารถทำงานได้ เพราะถูกขัดขวางจากคำก้องที่เกิดขึ้น ขณะอ่านในใจไม่จำเป็นต้องอ่านคำทุกคำเหมือนกับการอ่านออกเสียง เช่น คำว่า ประ- ชา – ธิป – ปะ – ไตย สามารถอ่านรวมเป็นคำเดียว แล้วเข้าใจความหมายได้โดยที่ไม่ต้องสะกดทีละคำ สมองของคนเรา พร้อมที่จะตีความหมายของคำออกมาโดยที่ไม่ต้องอ่านทั้งหมดอยู่แล้ว ลองดูจากประโยคนี้ “ ผลการศกึาษวจิยัจาก มวหายิทาลย เชยีงหใม่ ” เราจะอ่านได้ทันทีเลยว่า…

5 แอปพลิเคชันสำหรับคนชอบอ่าน

  อย่างที่เราทราบกันดีว่าปัจจุบันนั้นแค่มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็สามารถทำได้ทุกอย่างแล้ว ซึ่งหนึ่งในความสะดวกสบายอีกอย่างหนึ่งสำหรับการใช้สมาร์ทโฟนก็คือการที่สามารถอ่านหนังสือผ่านสมาร์ทโฟนได้ ทุกที่ ทุกเวลา และยังสามารถอ่านได้ฟรีอีกด้วย วันนี้เราจึงมี 5 แอปพลิเคชันดีๆ สำหรับคนชอบอ่านหนังสือ (E-book) มาฝากกันค่ะ   SOOK Library แอปพลิเคชัน SOOK Library เป็นแอปพลิเคชันจาก สสส. ที่รวบรวมหนังสือดีๆ มีประโยชน์เพื่อเพิ่มความสุขเหมือนชื่อแอปมารวมไว้ด้วยกัน โดยสามารถโหลดอ่านได้ฟรีทุกเล่ม พร้อมอัปเดตหนังสือใหม่ๆ มาให้อ่านอยู่เรื่อยๆ นอกจากเนื้อหาในหนังสือแล้วมนแอปพลิเคชันยังมีอินโฟกราฟิกและคลิปวิดีโอ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือ How to เกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ หนังสือเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและการพัฒนาตนเองมากมาย  …

มาสร้าง Passion ในการอ่านหนังสือด้วย 5 วิธีเหล่านี้

สำหรับน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบแล้วต้องเจอกับกองหนังสือมากมายหลายวิชาที่ต้องอ่าน จนท้อใจและไม่อยากจะหยิบหนังสือบนกองนั้นๆ ขึ้นมาอ่าน วันนี้เราจึงมีวิธีที่จะช่วยสร้าง Passion ในการอ่านหนังสือมาฝากน้องๆ กันค่ะ       ตั้งเป้าหมายให้ชัด เริ่มแรกให้เราตั้งเป้าหมายของตัวเองให้ชัดว่าเราจะอ่านไปเพื่ออะไร อะไรคือเป้าหมายที่เราต้องการจะเดินไปให้ถึง เช่น หากเราอยากจะเป็นหมอ อยากเข้าคณะแพทย์ หรืออาชีพอื่นๆ ที่เราใฝ่ฝัน ให้เราลองนึกภาพวันที่ตัวเราเดินไปถึงเป้าหมายนั้น นึกภาพที่เราจะได้ทำสิ่งที่ฝันเพื่อจะได้เป็นแรงผลักดันให้เรามีแรงลุกขึ้นมาอ่านหนังสือมากยิ่งขึ้น หรือน้องๆ อาจจะใช้คุณพ่อคุณแม่ ครอบครัวเป็นแรงผลักดันในการที่จะทำให้พวกเขาภูมิใจก็เป็นอีกหนึ่งแรกผลักดันที่ดีได้เช่นกันค่ะ     ย้อนนึกถึงอดีตที่พลาด สำหรับน้องๆ ที่อาจจะเคยพลาดกับการสอบหรือได้คะแนนที่ผ่านมาไม่ดี จนทำให้ท้อแล้วยิ่งไม่อยากอ่านนั้น ให้ปรับความคิดของเราใหม่ ลองนึกว่าอดีตที่เราพลาดนั้นพลาดเพราะอะไรแล้วเราจะไม่พลาดแบบนั้นอีก…

10 เทคนิคที่จะช่วยให้คุณมีเวลาอ่านหนังสืออีกครั้ง

. แม้ว่า “คนไทยอ่านหนังสือปีละ 7 บรรทัด” จะไม่ใช่ข้อความที่เป็นความจริง แต่สิ่งหนึ่งที่เราต่างยอมรับร่วมกันได้ก็คือเราอ่านหนังสือน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ก้าวเข้าสู่วัยทำงานแล้ว . สำหรับผมวัยที่อ่านหนังสือได้มากสุดคือวัยมัธยม อาจเพราะเป็นช่วงเวลาที่มีเวลาว่างมาก และไม่มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบใดมาผูกมัด หรืออาจจะเพราะอินเทอร์เน็ตยังไม่เเพร่หลายเท่าในปัจจุบัน . ทุกวันนี้หลังเริ่มชีวิตทำงาน ชีวิตก็เต็มไปด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทั้งหน้าที่การงาน และธุระส่วนตัว หลังเลิกงานก็ทิ้งตัวลงโซฟานั่งดู Netflix รู้ตัวอีกทีก็เกิดความไม่สัมพันธ์กันระหว่างการซื้อและการอ่าน รู้สึกตัวอีกทีก็มีหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านกองพะเนินเทินทึก ทั้งที่ตั้งใจมาตลอดว่าจะอ่านหนังสือทุกเล่มที่ซื้อมา . โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการอ่านหนังสือก็เป็นกิจกรรมพัฒนาตัวเองที่สำคัญ ไม่ใช่แค่การเพิ่มข้อมูลความรู้ หรือช่วยเป็นแหล่งข้อมูลให้กับเรา แต่ยังช่วยให้เราคุ้นเคยกับภาษาและการสื่อสารในรูปแบบการเขียนได้อีกด้วย นอกจากนั้นการอ่านหนังสือก็เป็นกิจกรรมผ่อนคลายที่ใช้เวลาว่างได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุดอีกอย่างหนึ่ง เช่นนี้แล้วไม่ว่าอย่างไรการอ่านหนังสือก็เป็นกิจกรรมที่เราไม่ควรละทิ้งไป . แต่จะทำอย่างไรเมื่อเราไม่มีเวลาที่จะอ่านหนังสือ จากเวลาที่ถูกแย่งไปด้วยภาระหน้าที่…